วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รายงานผลการแข่งขันยูโร สเปน 4 - 0 ไอร์แลนด์




สเปน 4 - 0 ไอร์แลนด์
วันที่ 14/06/2012 เวลา 01:45
สนามแข่งขัน พีจีอี อารีน่า กดังส์
ถ่ายทอดสด: ช่อง3

ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่ม ซี นัดที่สอง
วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2555
สเปน 4 - 0 ไอร์แลนด์
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือ สเปน แชมป์เก่ายูโรและแชมป์ฟุตบอลโลก เปิดฉากเกมแรกมายังไม่เข้าตานัก ต้องไล่ตีเสมอ อิตาลี 1-1 นัดที่แล้ว 11 คนแรกไม่มีกองหน้าเลย เกมนี้เลยจัดเฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนหน้าเป้า และดร็อป เชส ฟาเบรกาส เป็นตัวสำรอง ส่วนตำแหน่งอื่นๆใช่ชุดเดิม นำโดยแนวรุกอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา และ อันเดรส อิเนียสต้า

ฝั่งโจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือ ไอร์แลนด์ นำทีมออกตัวอย่างน่าผิดหวังด้วยการแพ้ต่อ โครเอเชีย 1-3 ทำให้จมบ๊วยของกลุ่มอยู่ในเวลานี้ เกมนี้ปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อย โดยพักเควิน ดอยล์ ไว้ข้างสนาม แล้วให้ ไซม่อน ค็อกซ์ ลงมาเป็นตัวคอยสนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ร็อบบี้ คีน

เริ่มครึ่งแรกไอร์แลนด์เป็นฝ่ายเขี่ยก่อน และก็ได้ทักทายทันที ในนาทีที่ 2 ไซม่อน ค็อกซ์ นักเตะสโมสรเวสต์บรอมวิช ได้จังหวะซัดด้วยซ้าย นอกกรอบเขตโทษ อีเคร์ กาซียาส ต้องออกแรกทุบออกไป


[ทำประตู] แต่ขุนพลกระทิงดุก็ใช้เวลาไม่นาน นาทีที่ 4 ก็ทะยานออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ ริชาร์ด ดันน์ ล้มตัวสกัดบอลในเขตโทษได้แล้ว แต่เป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่วิ่งแซงมาจากด้านหลังแย้งเอาบอลมาได้ ก่อนจะลากไปยิงแสกหน้า เชย์ กิฟเว่น บริเวณเขตโทษด้านขวา เสยเพดานตาข่ายสุดสวย


อีก 3 นาทีต่อมา สเปน มาอีกครั้ง คราวนี้ ดาบิด ซิลบา ได้อัดด้วยซ้าย ในกรอบเขตโทษ แต่ไปตรงตัว เชย์ กิฟเว่น รับเข้าซอง


ผ่านมาถึงนาทีที่ 16 ยังคงเป็นทัพ กระทิงดุ ที่ครองเกมได้มากกว่า และก็ได้ลุ้นอีก เมื่อ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังเติมขึ้นมาสูง ก่อนได้สับไกลด้วยขวา ประมาณ 20 หลา แต่ไม่ผ่านมือนายด่าน แอสตัน วิลล่า

สเปนคุมเกมได้หมด 6 นาทีต่อมา อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์เชิงสูงของบาร์เซโลน่า ได้กดด้วยซ้ายนอกกรอบเต็มข้อ ร้อนถึง เชย์ กิฟเว่น ที่วันนี้รับศึกหนักเหลือเกิน พุ่งปัดออกไปได้

ลูกทีมของเดล บอสเก้ เรียงหน้ากันยิง นาทีที่ 26 ครั้งนี้เป็น ชาบี้ อลอนโซ่ ได้ลองซัดไกลร่วม 30 หลา บอลพุ่งแรงข้ามคานออกไปแบบได้เสียว

[ใบเหลือง] ถึงนาทีที่ 36 ไอร์แลนด์ มาเสียใบเหลืองแรกของทีม เมื่อ ร็อบบี้ คีน กัปตันทีม ไปกระแทกข้างหลังใส่ อันเดรส อิเนียสต้า

เปอร์เซ็นต์การครองบอลของสเปน เหนือกว่าเยอะ ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที ดาบิด ซิลบา ทำชิ่งให้ ชาบี เอร์นานเดซ ได้แปเน้นๆ ตรงเส้นเขตโทษ กิฟเว่นต้องออกแรงเซฟ อีกครั้ง

[ใบเหลือง] นาทีสุดท้าย ทีมยักษ์เขียว มาโดนเหลืองที่สองอีก เมื่อ เกล็น วีแลน ไปเตะข้างหลังใส่ ดาบิด ซิลบา

และจากจังหวะฟรีคิก เกือบกลางสนาม สเปนก็เกือบได้ลูกที่ 2 ชาบี เอร์นานเดซ เปิดไปหน้าประตู กองหลังไอร์แลนด์ โหม่งสกัดออกมาได้ แต่มาเข้าทาง อันเดรส อิเนียสต้า ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลจะมุดเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่เชย์ กิฟเว่น ยังไวปัดมือเดียวออกหลังไปได้หวุดหวิด

จากนั้นผู้ตัดสินชาว โปรตุเกส ก็เป่าจบ 45 นาทีแรก เป็น "กระทิงดุ" สเปน นำ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ อยู่ 1-0

[เปลี่ยนตัว] เปิดฉากครึ่งหลัง โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ กุนซือไอร์แลนด์ ต้องแก้เกมทันที่โดยส่ง โจนาธาน วอลเตอร์ส ดาวยิงสโต๊ค ซิตี้ ลงมาแทน ไซม่อน ค็อกซ์

แต่เกมก็ยังเป็นของสเปนต่อเนื่อง นาทีที่ 48 อัลบาโร่ อาร์เบลัว เติมขึ้นมาได้ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ เชย์ กิฟเว่น ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง
[ทำประตู] และหลังจากนั้นอีกเพียงแค่นาทีเดียว พลพรรคกระทิงดุ ก็หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อันเดรส อิเนียสต้า ได้ซัดไกล กิฟเว่น ทุบออกมาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ล็อกหลอกกองหลังไอร์แลนด์ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะแปด้วยซ้ายนิ่มๆ ผ่านมือ เชย์ กิฟเว่นตุงตาข่าย

[ใบเหลือง] ถึงนาที 54 สเปน มาโดนใบเหลืองแรกของทีม เมื่อ ชาบี้ อลอนโซ่ ไปเตะข้างหลังตัดเกมใส่ โจนาธาน วอลเตอร์ส

อีก 2 นาทีต่อมา ทีมกระทิงดุ เกือบได้ลูกสาม คราวนี้เป็น ชาบี เอร์นานเดซ ได้แปเน้นๆ ระยะ 12 หลา บอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่เป็น เชย์ กิฟเว่น ที่บินมาปัดมือเดียวได้อย่างเหลือเชื่อ


[เปลี่ยนตัว] จากนั้นนาทีที่ 65 สเปน ขยับเปลี่ยนตัวคนแรกเอา ฆาบี มาร์ติเนซ แข้งแอธเลติก บิลเบา ลงมาเล่นกลางรับแทน ชาบี้ อลอนโซ่ ที่เพิ่งโดนใบเหลืองไป

[ทำประตู] ผ่านมาถึง นาทีที่ 70 สเปน ก็ขยับไปไกลเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา แทงทะลุช่องหลุดกับดักล้ำหน้าให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดไปยิงเสียบเสาแรกไม่เหลือ

[เปลี่ยนตัว] และอีก 3 นาทีต่อมา บิเซนเต้ เดล บอสเก้ นายใหญ่สเปน ก็ถอด เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนี้ออก แล้วส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงสนามมาแทน
[ใบเหลือง] นาทีที่ 76 ฆาบี มาร์ติเนซ ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมา ก็โดนใบเหลืองคนที่สองของสเปน หลังไปเสียบใส่ เกล็น วีแลน

[เปลี่ยนตัว] จากนั้นนาทีเดียว ทีมยักษ์เขียว แก้เกมคนที่สองเอา เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ออก แล้วส่ง เจมส์ แม็คคลีน กองกลางดาวรุ่งซันเดอร์แลนด์ ลงมาแทน

[เปลี่ยนตัว] นาทีที่ 80 สเปน ก็มาเปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้ายเอา อันเดรส อิเนียสต้า ออกไปพัก แล้วส่ง ซานติ กาซอร์ล่า ลงมาสัมผัสเกมในสนามบ้าง

[เปลี่ยนตัว] นาทีเดียวกัน ไอร์แลนด์ ก็เปลี่ยนคนสุดท้ายเช่นกัน ส่งพอล กรีน ลงมาแทน เกล็น วีแลน

ทัพกระทิงดุ ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 82 ซานติ กาซอร์ล่า ตัวสำรอง ได้ซัดด้วยขวานอกกรอบเต็มๆ เชย์ กิฟเว่น ต้องทุบออกหลังไป

[ทำประตู] และจากจังหวะเตะมุมนาทีต่อมา สเปน ก็ทิ้งไปสุดกู่เป็น 4-0 ดาบิด ซิลบา เปิดเตะมุมเลียดมาให้ เชส ฟาเบรกาส เตะหลบผู้เล่น ไอร์แลนด์ ในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะแปสวน กิฟเว่น บอลพุ่งชนเสาสองเข้าไปไม่เหลือ



[ใบเหลือง] นาทีที่ 84 ชอน เซนต์ เลดเจอร์ กองหลังของทีม ไอร์แลนด์ ก็มาโดนเหลืองอีกคนหลังไปทำฟาวด์ใส่ ดาบิด ซิลบา

หลังจากนั้นดูเหมือนทัพกระทิงดุจะไม่ทำเกมบุกแล้ว โดยครองบอลเอาไว้เป็นส่วนใหญ่ จบ 90 นาที สเปน ถล่มเอาชนะ ไอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย 4-0 ส่งทีมยักษ์เขียว ตกรอบเป็นทีมแรกในทัวร์นาเมนต์ ขณะที่สเปน เก็บ 3 แต้มแรก นำจ่าฝูง มี 4 คะแนน เท่ากับโครเอเชีย แต่ประตูได้เสียทัพกระทิงดุดีกว่า


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปน : อิเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ (ฆาบี มาร์ติเนซ น.65), ชาบี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา, อันเดรส อิเนียสต้า (ซานติ กาซอร์ล่า น.79), เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชส ฟาเบรกาส น.74)
ใบเหลือง : ชาบี อลอนโซ่, ฆาบี มาร์ติเนซ

ไอร์แลนด์ : เชย์ กิฟเว่น, จอห์น โอเช, ชอน เซนต์ เล็ดเจอร์, ริชาร์ด ดันน์, สตีเฟ่น วอร์ด, ไอเด้น แม็คเกียดี้, เกล็น วีแลน (พอล กรีน น.80), คีธ แอนดรูว์ส, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (เจมส์ แม็คคลีน น.76), ไซม่อน ค็อกซ์ (โจนาธาน วอลเตอร์ส น.46), ร็อบบี้ คีน
ใบเหลือง : เกล็น วีแลน, ร็อบบี้ คีน


ผู้ตัดสิน : เปโดร โปรเอนก้า (โปรตุเกส)

แมน ออฟ เดอะ แมตซ์
เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน)
เมื่อได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ทในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้านัดนี้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็ไม่ได้ทำให้ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของทัพกระทิงดุผิดหวังแต่อย่างใด

ความปราดเปรียวของเขาในแดนหน้า เป็นสิ่งที่สเปนขาดหายไปในเกมแรก โดยเฉพาะประตูขึ้นนำของกระทิงดุนั้น มาจากจังหวะโฉบเข้าหาบอลด้วยความเร็วของเขา ก่อนตะบันด้วยขวาแสกหน้าของ เชย์ กิฟเว่น นายทวารไอร์แลนด์เข้าไปอย่างเฉียบขาด มันโชว์ให้เห็นว่าเขายังมีสัญชาตญาณของเพชรฆาตสังหารประตูอยู่ และมันเป็นประตูที่ทำให้สเปนเล่นง่ายนับจากนั้น

จากนั้นการอ่านไลน์ดีเฟนซ์ของคู่แข่ง และ แลบมาหลังแนวทำให้เจ้าตัวหลุดเดี่ยวไปกดประตูที่สองของตัวเองและเป็นประตูที่สามของสเปนช่วยให้กำชัยไปท่วมท้น


สถิติหลังเกม
สเปน ไอร์แลนด์
27(15) ยิงทั้งหมด (เข้ากรอบ) 6(2)
10 ฟาวล์ 16
8 เตะมุม 2
5 ล้ำหน้า 2
76% เปอร์เซนต์การครองบอล 24%
2 ใบเหลือง 3
0 ใบแดง 0
2 ช็อตเซฟ 11

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น