สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน
ไก่เดือยทอง กลับมาได้ทีมที่สมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อย เมื่อ ไมเคิ่ล ดอว์สัน พ้นโทษแบนกลับมาคุมแนวรับ ส่วนแนวรุกยังใช้ ปีเตอร์ เคร้าช์ กับ เจอร์เมน เดโฟ ลงทั้งคู่ ขณะที่ เดอะ ทร็อตเตอร์ส ก็ส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ฮีโร่นัดก่อน ลงตัวจริงแทนที่ อี ชุง-ย็อง
เกมนี้มี ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษเข้ามานั่งชมเกมด้วย ฝั่งเจ้าถิ่นมีคู่กองหน้า เคร้าช์ กับ เดโฟ อยู่ในข่าย เช่นเดียวกับ อารอน เลนน่อน และ ไมเคิ่ล ดอว์สัน ขณะที่ทีมเยือนมี แกรี่ เคฮิลล์ ให้ดูฟอร์ม
เพียงแค่ 6 นาทีแรก สเปอร์ส ก็มาได้ลูกจุดโทษ จากฟรีคิกที่ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลชุลมุน เวดราน ชอร์ลูก้า ยิงไปติดแขน เควิน เดวี่ส์ ที่ล้มไปนอนกับพื้น ผู้ตัดสิน มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก ชี้ไปที่จุดทันที และเป็น ฟาน เดอร์ ฟาร์ท สังหารจุดโทษไม่พลาด เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
สองนาทีให้หลัง ไก่เดือยทอง ได้จุดโทษเป็นครั้งที่สอง จังหวะที่ อารอน เลนน่อน ใช้ความเร็วกระชากหลบ ซามูเอล ริคเก็ตต์ส ในเขตโทษด้านซ้ายแล้วโดนรวบล้มลงไป ฟาน เดอร์ ฟาร์ท รับหน้าที่สังหารจุดโทษมุมเดิมไม่พลาด แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่ คราวนี้ยิงมุมเดิมกลับหลุดเสาออกไป
จากนั้น โบลตัน เริ่มกลับมาตั้งหลักได้ และน่าได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดในนาทีที่ 21 แม็ทธิว เทย์เลอร์ เปิดบอลโด่งให้ โยฮัน เอลมานเดอร์ ขึ้นโหม่งไปชนคานอย่างจัง
ท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาในนาทีที่ 41 ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น พุ่งเซฟเอาไว้ได้
ทดเจ็บครึ่งแรก เกือบมีจุดโทษที่สามของเจ้าถิ่น ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กระดกบอลไปโดนมือนักเตะโบลตันในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที แต่ปรากฏว่ามีธงล้ำหน้าจากข้างสนามยกขึ้นมาให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ก่อนแล้ว ผู้ตัดสินจึงกลับลำให้ฟรีคิกแก่โบลตันแทน จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ 1-0
ครึ่งหลัง สเปอร์ส ถอด ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่บาดเจ็บออก แล้วส่ง สตีเว่น พีนาร์ ลงเล่นแทน
โบลตัน กลับมาตีเสมอได้ 1-1 ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่ มาร์ค เดวี่ส์ ลุยขึ้นมาแล้วจ่ายออกขวาให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ยิงด้วยเท้าซ้ายทันที บอลเรียดเหมือนจะไม่มีอันตรายมากนัก แต่ โกเมส ก็พลาดรับหลุดลอดแขนเข้าประตูไป
นาทีที่ 64 ไก่เดือยทอง น่าได้ประตูกลับขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 20 หลากลางประตู เจอร์เมน จีนัส อาสารับหน้าที่ แต่ปั่นโค้งข้ามกำแพงเช็ดเสาด้านนอกกระเด้งออกหลัง
ให้หลังนาทีเดียว เจ้าบ้านพลาดได้ประตูอีก จากบอลยาว ปีเตอร์ เคร้าช์ โหม่งตั้งให้ เจอร์เมน เดโฟ กระดกกลับหลังให้ สตีเว่น พีนาร์ หลุดเข้าเขตโทษล้มตัวซัดด้วยเท้าซ้ายไปติดบล็อค ยัสเคไลเน่น ออกหลัง
สเปอร์ส แทบไม่มีโอกาสได้บุกเลย จนกระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 92 ก็มาได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะประสานงานของสองตัวสำรอง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ จ่ายบอลให้ นิโก้ ครานชาร์ แต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วตะบันจากระยะ 20 หลาหน้ากรอบโทษ ส่งบอลผ่าน ยัสเคไลเน่น เสียบตาข่ายอย่างสุดงาม
จบเกม สเปอร์ส เฉือนชนะ โบลตัน ไปหวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญเกาะกลุ่มหัวตารางต่อ
12BET.COM รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูก้า, วิลเลี่ยม กัลลาส, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, วิลสัน ปาลาซิออส, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ปีเตอร์ เคร้าช์, เจอร์เมน เดโฟ
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, อลัน ฮัตตัน, โรมัน พาฟลิวเชนโก้, เซบาสเตียง บาสซง, นิโก้ ครานชาร์, รานิเอเร่ ซานโดร, สตีเว่น พีนาร์
โบลตัน : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, ซามูเอล ริคเก็ตต์ส, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน, มาร์ค เดวิส, สจ๊วร์ต โฮลเด้น, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวิส, โยฮัน เอลมานเดอร์, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สำรอง : อดัม บ็อกดาน, ฟาบริซ มูอัมบา, มาร์ติน เปตรอฟ, อีวาน คลาสนิช, โรดริโก้ โมเรโน่, อี ชุง-ยอง, เดวิด วีเทอร์
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก
12BET.COM 12BET.COM สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์
เรือใบสีฟ้า ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ หวังเก็บสามแต้มเพื่อพาทีมกลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ให้ได้ หลังทำได้แค่เสมอกับ เบอร์มิงแฮม 2-2 ในนัดล่าสุด เกมนี้ได้ ยาย่า ตูเร่ หายจากอาการติดเชื้อกลับมาลงตัวจริง ส่วนกองหน้าใช้กัปตันทีม คาร์ลอส เตเวซ เล่นเป็นหน้าเป้าตัวเดียว
ฟาก เดอะ แบ็กกี้ส์ ได้ ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ ดาวซัลโวประจำทีม กลับมาลงช่วยทีมแต่ยังคงไม่มี มาเร็ค เช็ก ที่ยังไม่พร้อมลงเล่น ส่วน กอนซาโล่ ฮาร่า เป็นแค่ตัวสำรอง โดยก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้ นีล ยัง อดีตฮีโร่ ของแมนฯ ซิตี้ ในฟุตบอล เอฟเอ คัพ ปี 1969
เริ่มเกมมาได้ 3 นาที ทีมเยือนได้ลูกฟรีนอกกรอบเขตโทษ จากจังหวะที่ ปาโบล ซาบาเลต้า ไปดึง มาร์ก-อองตวน ฟอร์ตูเน่ ล้มลง เป็น คริส บรันท์ รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้าย แต่ โจ ฮาร์ท ยังล้มตัวปัดไว้ได้
ถัดมา 1 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสเสียงบ้างจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ได้เปิดจากฝั่งซ้ายให้ คาร์ลอส เตเวซ ยิงด้วยขวาแต่บอลพุ่งชนเสาออกไป
นาที 12 เวสต์บรอมวิช เกือบจะได้ลูกจุดโทษ เมื่อ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ไปดึง ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ล้มลงแต่ผู้ตัดสินมองว่ายังอยู่นอกกรอบเขตโทษ เป็น คริส บันท์ อีกครั้งที่ได้ปั่นด้วยซ้าย แต่ โจ ฮาร์ท ก็ยังไม่พลาดล้มตัวปัดเอาไว้ได้
แต่แล้วในนาทีที่ 17 เจ้าบ้านก็มาได้จุดโทษเมื่อ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ โดน สตีเฟ่น รีด ดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ มาร์ติน แอ็ตกินสัน เป่าให้ทันที คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงประจำทีมสังหารไม่พลาดเป็นประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
เกมของทีมเยือนยังไม่ดีขึ้นแถมยังมาเสียประตูที่สองอีกหลังจากโดน ประตูแรก 5 นาที จังหวะเริ่มจาก แว็งซ็องต์ ก็องปานี พาบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนจะจ่ายให้ คาร์ลอส เตเวซ ทำชิ่ง 1-2 กับ ดาบิด ซิลบา ก่อนจะโชว์ทักษะแตะลอดตัวตัวกองหลังของทีมเยือนก่อนจะกระโดดข้ามตัวไปยิง ผ่านตัว โบอาซ มายฮิลล์ เข้าไปให้เจ้าบ้านนำห่าง 2-0
เจ้าบ้านยังบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 31 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ได้โอกาสตะบันไกล 35 หลา บอลพุ่งแรงเป็น โบอาซ มายฮิลล์ ปัดเอาไว้ได้นิดนึงก่อนบอลจะชนคานอย่างจัง
แล้ว แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ลูกจุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ บอลกระเด็นไปโดนแขน เจอโรม โธมัส ผู้ตัดสินเป่าอย่างไม่ลังเล และก็ยังเป็น คาร์ลอส เตเวซ ที่สังหารจุดโทษเข้าไปเป็นแฮตทริกที่สองของตัวเองในฤดูกาลนี้ รวมทั้งยังเป็นของขวัญฉลองวันเกิดอีกด้วย แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0
ก่อนหมดเวลา 3 นาที คาร์ลอส เตเวซ ก็ได้ลุ้นประตูที่สี่ของตัวเองอีกครั้งเมื่อได้ยิงด้วยขวาจากทางซ้ายของกรอบ เขตโทษ แต่บอลพุ่งไม่ตรงกรอบออกหลังไปนิดเดียวหลังจากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นเพิ่มเติม จนจบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ห่าง 3-0 จากแฮตทริกของ คาร์ลอส เตเวซ
ครึ่งหลัง โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือ เวสต์บรอมวิช แก้เกมทันทีโดยส่ง คาร์ลอส เวล่า ลงมาเล่นแทน เจอโรม โธมัส ที่เล่นไม่ออก และก็เกือบแพลงฤทธิ์ ทันทีเมื่อได้โอกาสจ่ายให้ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้ ได้ยิงแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เกมผ่าน 10 นาทีของครึ่งหลัง เวสต์บรอมวิช ทีมเยือนเริ่มทำเกมต่อบอลได้บ้างแต่ก็ยังหาจังหวะเจาะแนวรับเจ้าบ้านเข้าไป ลุ้นทำประตูไม่ได้ บอลมักจะไปเสียหน้ากรอบเขตโทษเองซะมากกว่า
นาทีที่ 62 เวสต์บรอมวิช ได้โอกาสตีไข่แตกมากที่สุดเมื่อ ยุสซุฟ มูเลิงบู จ่ายบอลทะลุช่องไปให้ มาร์ก-อองตวน ฟอร์ตูเน่ ทางด้านซ้ายของเขตโทษ แต่ ฟอร์ตูเน่ ตัดสินใจยิงเองแต่ยิงไม่ดีออกออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้น โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็ส่ง เอดิน เซโก้ ลงมาแทน ยาย่า ตูเร่ ในนาทีที่ 63 โดยหวังจะให้ เซโก้ ใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานทีมเยือนเนื่องจากตอนนี้เกมเริ่มเป็นของ เวสต์บรอมวิช ทีมเยือนเกือบทั้งหมด
นาทีที่ 70 นิคกี้ ชอรี่ย์ ได้ปั่นลูกฟรีคิกด้วย ซ้ายจากระยะ 25 หลา แต่โจ ฮาร์ท ก็ยังพุ่งไปปัดไว้ได้
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม "เรือใบสีฟ้า" เจ้าถิ่นปล่อยให้ เวสต์บรอมวิช บุกกดดันเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่องแต่กองหลังของเจ้าบ้านก็ยังเล่นเกมรับได้ อย่างดีเยื่ยม แทบจะไม่เปิดโอกาสให้ เวสต์บรอมวิช ได้ยิงจะจะเลย ส่วนใหญ่จะได้ยิงไกลหรือไม่ก็ยิงออกไปเองมากกว่า จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ขาดลอย 3-0 ทำแต้มขึ้นมาเป็น 49 แต้ม
12BET.COM รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เยโรม บัวเต็ง, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, เจมส์ มิลเนอร์, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ
สำรอง : เชย์ กิฟเว่น, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, เอดิน เซโก้, โจลีออน เลสค็อตต์, ปารทิค วิเอร่า, โชอัว อัลเวส โช, อับดุล ราซัค
เวสต์บรอมวิช : โบอาซ มายฮิลล์, สตีเว่น รีด, พอล ชาร์เนอร์, โยนัส โอลส์สัน, นิคกี้ ชอรี่ย์, ยุสซุฟ มูลุมบู, คริส บรันท์, เจมส์ มอร์ริสัน, มาร์ก-อองตวน ฟอร์กตูเน่, เจอโรม โธมัส, ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้
สำรอง : สกอตต์ คาร์สัน, โซเมน โชยี่, ปาโบล อิบานเยซ, คาร์ลอส เวล่า, กาเบรียล ตามาส, ไซม่อน ค็อกซ์, กอนซาโล่ ฮาร่า
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน
12BET.COM สรุปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-2
แอสตัน วิลล่า เสมอ ฟูแล่ม 2-2
เอฟเวอร์ตัน ชนะ แบล็คพูล 5-3
แมนฯ ซิตี้ ชนะ เวสต์บรอมวิช 3-0
นิวคาสเซิ่ล เสมอ อาร์เซน่อล 4-4
สเปอร์ส ชนะ โบลตัน 2-1
วีแกน ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-3
