นาย สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมฯ ลงพื้นที่หนสองหารือร่วม ไพบูลย์ ภุชชงค์ นายกเทศมนตรีเมืองสามพราน ก่อนตกผลึกสร้าง ศูนย์ฝึกกีฬาวอลเลย์บอลนครปฐม โดยมีอาคารที่พัก 3 ชั้น 80 เตียง รองรับการเก็บตัวฝึกซ้อม คืบหน้าอีกขั้นการก่อสร้างพร้อมปูพื้นใหม่และทุบอัฒจันทร์สองฝั่งขยายทำสนามซ้อม 2 สนาม
ความคืบหน้าของการจัดตั้งศูนย์ฝึกวอลเลย์บอลแห่งชาติ ที่เทศบาลเมืองสามพราน จ.นครปฐม ซึ่งปัจจุบันเป็นสนามแบดมินตัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ กรรมการสมาคมวอลเลย์บอล, ร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมฯ และ "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
พร้อมด้วย นายไพบูลย์ ภุชชงค์ นายกเทศมนตรีเมืองสามพราน พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้เดินทางเข้าสำรวจสนามเป็นครั้งที่สอง โดยครั้งนี้เป็นการนำเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลตำบลสามพราน ฝ่ายที่จะดูแลรับผิดชอบเรื่องงานก่อสร้างเข้าทำความเข้าใจกับตัวแทนสมาคมวอลเลย์บอลฯ ถึงความต้องการเกี่ยวกับการซ่อมปรับปรุงอาคารฝึกซ้อม และการก่อสร้างอาคารที่พักหลังใหม่ สำหรับเตรียมจัดตั้งเป็นศูนย์ฝึกกีฬาวอลเลย์บอลแบบครบวงจร
โดยนายสมพรกล่าวว่า วันนี้คืบหน้าไปอีกขั้น หลังจากคราวที่แล้วเรามาสำรวจสนามพร้อมด้วย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ คุณเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยวันนี้เราได้หารือกับทางนายกเทศมนตรี และช่างที่จะเข้ามาก่อสร้างถึงรูปแบบและความเป็นไปได้
เดิมทีสนามแห่งนี้เป็นสนามแบดมินตันซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่ย่อมเล็กกว่าสนามวอลเลย์บอลอยู่แล้ว ฉะนั้นจากที่ได้หารือร่วมกันทั้ง อาจารย์ชาญฤทธิ์ และ โค้ชอ๊อด รวมถึงนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสามพรานและสถาปนิก โดยได้นำแบบแปลนสนามของเดิมมาดูว่าจะทำอะไร อย่างไรได้บ้าง
ซึ่งสิ่งที่ต้องทำก็คือ หนึ่ง ปูพื้นสนามใหม่เพราะของเดิมเป็นพื้นปาร์เกต์ สอง ทุบอัฒจันทร์ทั้งสองด้าน เพื่อสร้างให้เป็นสนามสองสนาม รวมถึงการมีห้องฟิตเนส สาม สร้างอาคารหลังใหม่ 3 ชั้น สำหรับเป็นที่พักนักกีฬา และห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องอาหาร ห้องประชุม
"จากครั้งแรกที่เรามาดู คุณกิตติรัตน์ ท่านก็เร่งรัดมาให้เรารีบดำเนินการ ซึ่งวันนี้ทางสมาคมวอลเลย์บอลฯ ก็ได้หารือกับสถาปนิกเรื่องการออกแบบอาคารซ้อมและอาคารที่พักนักกีฬาแบบคร่าวๆ ว่าต้องเป็นแบบไหน หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของสถาปนิกที่ต้องออกแบบและเสนอมาทางสมาคม ซึ่งเราได้ขอให้เขาดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เมื่อพอใจเรื่องรูปแบบและได้ราคาก็จะหารือกับคุณกิตติรัตน์อีกครั้ง"
นายสมพรกล่าวต่อว่า สนามแห่งนี้จุดประสงค์ของสมาคมก็เพื่อเป็นที่เก็บตัวฝึกซ้อม ไม่ใช่สนามแข่งขัน แต่หากเป็นรายการเล็กๆ ก็สามารถจัดแข่งได้ไม่มีปัญหา เพราะความจุดของสนามเดิมรองรับได้ 1,500 ที่นั่ง ส่วนที่จะทำใหม่คือให้จุได้ 2,000 ที่นั่ง และอาคารที่พักสร้างเป็น 3 ชั้น 80 เตียง โดยพื้นที่ทั้งหมดนี้ประมาณ 4-5 ไร่ และโดยรอบสนามก็จะทำเป็นลู่วิ่งให้นักกีฬาออกกำลังกาย
"พื้นที่ดังกล่าวต้องบอกว่าสมาคมวอลลเย์บอลฯ พึงพอใจมาก เพราะอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่ดี เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อไหร่ต้องรอทางสถาปนิกเป็นคนแจ้งรายละเอียดหลังจากที่พอใจตามรูปแบบที่เขาสเกตช์ให้ ส่วนเรื่องงบประมาณเราเองไม่ทราบว่าจะต้องใช้เยอะมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามสมาคมก็ต้องเข้าไปช่วยด้วย
อาจจะเป็นขอรับการสนับสนุนจากองค์กรรัฐวิสาหกิจ ตาม 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ และการขอความสนับสนุนจากหน่วยงานที่ดูแลเรามาตลอด ซึ่งสมาคมเองก็พยายามจะให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร็วที่สุด เพื่อที่ว่านักกีฬาจะได้มีที่เก็บตัวฝึกซ้อมเป็นหลักแหล่ง เพราะทุกวันนี้ต้องเช่าซ้อมที่การกีฬาแห่งประเทศไทยสำหรับนักกีฬาชุดใหญ่ ส่วนชุดยุวชน เยาวชน ก็ขออาศัยฝึกซ้อมตามโรงยิมฯ ของสถานศึกษาต่างๆ" นายกสมาคมฯ กล่าวทิ้งท้าย
กล่าวถึง Footwork และ การวิ่งคอร์ด นั้น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่นแบดมินตัน หลายคนมีคำถามเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ที่ไม่เป็นไปตามต้องการ ขาตายบ้าง ขาไม่วิ่งบ้าง ใจไป แต่ขาไม่ตามข้อบกพร่องต่างๆเหล่านี้ เกิดจากที่กล้ามเนื้อขาในส่วนต่างๆ ไม่ได้รับการฝึกให้เคลื่อนที่อยู่บ่อยๆ ใน movement นั้นๆ
มาทำความเข้าใจก่อนนะครับ ว่าทำไม นักกีฬาแบดมินตันมืออาชีพ หรือ นักกีฬาฝึกหัด ที่โค้ชเค้าให้ซ้อมการวิ่งคอร์ด หรือการวิ่งท่าต่างๆ เช่น การวิ่งซิกแซก การวิ่งถอยหลัง หรือการกระโดดนั้น เพื่อประโยชน์อะไร ทำไปทำไม นั้นเพราะว่า ใน movement หรือการเคลื่อนไหวของกีฬาแบดมินตันนั้น มีทั้งการวิ่งไปข้างหน้า วิ่งไปด้านข้าง ในมุมเฉียง การวิ่งไปข้างหลัง การสไลด์ไปในมุมต่างๆ จะเรียกได้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวได้ในทุกทิศทุกทางเลยก็ว่าได้
แล้วทำไมนักกีฬาต้องซ้อมอยู่เป็นบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้อมเป็นเดือน เป็นปี เหตุผลของการซ้อมเป็นประจำนั้นคือ ในระบบการเรียนรู้ของมนุษย์เรา เมื่อได้อะไรอย่างซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมาแล้วจะเกิดการเรียนรู้ โดยสมองของเรามันจะลดขั้นตอนให้น้อยและกระชับที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น คนที่หัดตีแบดใหม่ๆ เค้าจะต้องเรียนรู้จากการตั้งท่าตีที่ถูกต้อง เมื่อจะตี ก็ต้องตีโดยเหยียดแขนตีสุดแขน เหวี่ยงหัวไหล่ สบัดข้อมือจังหวะสุดท้าย และรวมไปถึงท่าจบ โดยขบวนการเหล่านี้ คนหัดเล่นใหม่จะต้องท่องจำอยู่ในใจ และทำตามไปโดยให้ถูกต้องทุกขั้นตอน แต่เมื่อเค้าได้ฝึกตีจนอยู่เป็นประจำซ้ำไปซ้ำมา จนร่างกายกล้ามเนื้อเกิดการเรียนรู้ในท่าทางการตี และจำทุกอย่างโดยอัตโนมัติ การตีครั้งต่อไปก็ไม่ต้องมาท่องจำอยู่ในใจว่า ต้องเหยียดแขนดึง ต้องสบัดข้อมือ เพราะร่างการจะทำไปโดยอัตโนมัติ และจะทำในความเร็วที่เร็วขึ้นด้วย
ที่กล่าวมายืดยาวขั้นต้นนั้นคือเหตุผลที่นักกีฬามืออาชีพ ต้องฝึกซ้อมกันอย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 5-6 วัน ซ้ำไปซ้ำมา
การวิ่งคอร์ดนั้นก็คือ การวิ่งในท่วงท่าการตีแบดมินตันนั้นแหละครับ คือการทำท่าตีแบด แต่ไม่ได้ใช้ลูกแบด แค่เอาท่าท่างการก้าวเท้าที่ถูกต้อง และวิ่งไปในมุมต่างๆ ทั้ง 6 มุมทั่วคอร์ด(ดูจากรูปด้านบน) ซึ่งถ้าเราฝึกวิ่งคอร์ดบ่อยๆ เป็นประจำ ก็จะสามารถทำให้เราเคลื่อนไหวในมุมต่างๆของคอร์ดแบดได้รวดเร็ดขึ้นด้วยครับ
เจสัน คิดด์ การ์ดจอมเก๋าของ นิวยอร์ก นิกส์ โดนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รวบตัว โทษฐานที่เจ้าตัวถูกสงสัยกรณีเมาแล้วขับ จากเหตุการณ์ที่เขาดันบึ่งรถไปจูบกับเสาโทรศัพท์ เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การ์ดวัย 39 ปี ได้ประกันตัวเองออกไปแล้ว ขณะที่เขาเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักแต่อย่างใด
สื่อในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่า เจสัน คิดด์ การ์ดประสบการณ์สูงของ นิวยอร์ก นิกส์ ทีมดังแห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ สหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) จากกรณีที่มีการสงสัยว่า เขาขับรถในขณะมึนเมา ภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่เขาขับรถชนข้างทาง
จ่าสิบเอก ไมเคิ่ล เบิร์นส์ เจ้าหน้าที่ตำรวจในย่านชานเมืองเซาธ์แฮมป์ตัน เปิดเผยกับ "นิวยอร์ก เดลี่ นิวส์" สื่อท้องถิ่นว่า คิดด์ ถูกรวบตัว ภายหลังที่เขาซิ่งรถ คาดิลแล็ค เอสคาลาเด้ คู่ใจ ไปจูบกับเสาโทรศัพท์เข้าอย่างจัง โดยการ์ดเจ้าของแหวนแชมป์เอ็นบีเอ 1 วง ไม่สามารถดิ้นหลุดจากเรื่องในครั้งนี้ไปได้ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในรถนั่นเอง
ทั้งนี้ คิดด์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น ซึ่งใกล้กับบ้านพักของเขาในย่านแฮมป์ตัน ขณะที่ "นิวยอร์ก โพสต์" สื่ออีกรายในนิวยอร์ก ระบุว่า การ์ดวัย 39 ปี ถูกปล่อยตัว หลังจากที่เขาประกันตัวเองออกไป
นิวยอร์ก นิกส์ เร่งเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อคว้า เรย์มอนด์ เฟลตัน การ์ดจ่ายจาก พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ มาทดแทน เจเรมี หลิน ที่ตัดสินใจเซ็นสัญญาร่วมทีม ฮูสตัน ร็อกเก็ตส์ เป็นเวลา 3 ปี มูลค่ากว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 750 ล้านบาท) แม้ว่า ไมค์ วูดสัน จะการันตีตำแหน่งตัวจริง และ เจสัน คิดด์ เป็นพี่เลี้ยงก็ตาม
หลิน ซู เหา กำลังจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของ ร็อกเก็ตส์ เพื่อมาสานตำนานของ เหยา หมิง เซนเตอร์ร่างยักษ์แดนมังกร และคาดว่า นิกส์ จะปล่อย การ์ดจ่ายดาวรุ่ง ออกไป ซึ่งถ้า ทีมดังจากเมืองนิวยอร์ก ต่อสัญญา ยัดห่วงเชื้อสายไต้หวัน จะทำให้ จ่ายเงินสูงถึง 75 ล้านเหรียญ เมื่อรวมกับค่าจ้างของ คาร์เมโล แอนโธนี , อมาเร สตาดาไมร์ และ ไทสัน แชนด์เลอร์
แม้ว่า นิกส์ จะเซ็นสัญญากับ เจสัน คิดด์ การ์ดตัวเก๋าวัย 39 ปี ในฐานะผู้เล่นฟรีเอเยนต์ จาก ดัลลัส แมฟเวอริคส์ แต่โค้ช ไมค์ วูดสัน ยืนยันว่าจะให้ เจ้าของรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม ESPY ลงสนามเป็นตัวจริง อีกทั้ง การ์ดตัวเก๋าวัย 39 ปี รับอาสาถ่ายทอดประสบการณ์ 18 ปี ใน NBA แต่สุดท้าย นักบาสจากมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด ก็เตรียมโบกมือลาเมือง นิวยอร์ก
"เจ-หลิน" จะรับข้อเสนอจาก ร็อกเก็ตส์ ประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีแรกจะรับเงิน 5 ล้านเหรียญ (ประมาณ150 ล้านบาท) ปีที่สองรับอีก 5.225 ล้านเหรียญ (ประมาณ 156.75 ล้านบาท) และปีสุดท้ายอีก 14.8 ล้านเหรียญ (ประมาณ 444 ล้านบาท)
การ์ดจ่ายวัย 23 ปี รับค่าจ้าง 788,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 24 ล้านบาท) เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำผลงานเฉลี่ย 14.6 แต้ม 6.2 แอสซิสต์ กับ 3.1 รีบาวด์ จากการลงเล่น 35 เกม และออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 25 เกม ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดเอ็นหัวเข่า และการอำลาถิ่น แมดิสัน สแควร์ การ์เดน ทำให้ ทีมจาก แอตแลนติก ดิวิชัน เล็งคว้า อดีตผู้เล่นดราฟต์รอบแรก อันดับ 5 มาแทน
ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเทรด ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ล่าสุด "หัวจรวด" เตรียมโละ หลุยส์ สโคลา ฟอร์เวิร์ดค่าจ้าง 21 ล้านเหรียญ (ประมาณ 63 ล้านบาท) เพื่อเคลียร์เพดานเงินเดือน สำหรับการดึง "ซูเปอร์แมน" มาร่วมทีม หลัง เซนเตอร์อันดับ 1 ของ NBA ชวดย้ายไป บรูคลิน เน็ตส์ ตามความปรารถนา
ดาบิด เฟร์เรร์ นักเทนนิสมือ 5 ของโลกชาวสเปน เอาชนะ นิโกลาส อัลมาโกร ในรอบชิงชนะเลิศคว้าแชมป์ เทนนิสรายการ "สกีสตาร์ สวีดิช โอเพน" เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ แยนโก ทิปซาเรวิช มือหวดแว่นเด็กแนว ซิวแชมป์รายการ "เมอร์เซเดส คัพ" ที่เมืองเบียร์
เทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ "สกีสตาร์ สวีดิช โอเพน" ชิงเงินรางวัลรวม 358,425 ยูโร (ประมาณ 14.3 ล้านบาท) ณ เมืองบาสตาด ประเทศสวีเดน เมื่อชวงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
ปรากฏว่า ดาบิด เฟร์เรร์ นักหวดมือ 5 ของโลกชาวสแปนิช โชว์ฟอร์มสมกับเป็นมือ 1 ของรายการ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 7 นาที เอาชนะ นิโกลาส อัลมาโกร เพื่อนร่วมชาติมือ 2 ของรายการไปได้ ไม่ยากเย็น 2 เซตรวด 6-2, 6-2 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้สำเร็จตามความคาดหมาย
โดย เฟร์เรร์ ที่รักษาสถิติเอาชนะ อัลมาโกร 11 แมตช์รวดจากการพบกันทั้งหมด กล่าวว่า "ถือเป็นฤดูกาลที่เยี่ยมทีสุดในการเล่นเทนนิสอาชีพของผมก็ว่าได้ รายการนี้เป็นแชมป์ใบที่ 5 ของผมแล้ว ผมไม่เคยเล่นได้ดีขนาดนี้และรู้สึกมีความสุขมาก ผมยังคงต้องซ้อมหนักต่อไปและยกระดับการเล่นของตัวเองให้ดีขึ้นอีกในปีหน้า"
ขณะที่ ศึกเทนนิส เอทีพี ทัวร์ รายการ เมอร์เซเดส คัพ ชิงเงินรางวัลรวม 358,425 ยูโร (ประมาณ 14.3 ล้านบาท) ณ เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ในวันเดียวกัน เป็นการแข่งรอบชิงชนะเลิศ แยนโก ทิปซาเรวิช หวดมือ 8 ของโลกชาวเซิร์บ เอาชนะ ฮวน โมนาโก จากอาร์เจนตินา 2-1 เซต 6-4, 5-7 และ 6-3 คว้าเงินรางวัลพร้อมรถเมอร์เซเดส เบนซ์ เอสแอลเค 350 กลับบ้าน
เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสหญิงอดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ป้องกันแชมป์เทนนิส "แบงค์ ออฟ เดอะ เวสต์ คลาสสิค" ที่บ้านเกิด ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเอาชนะ โคโค แวนเดอเวจ หวดมือรองบ่อน ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา
เทนนิสดับเบิลยูทีเอทัวร์ รายการ "แบงค์ ออฟ เดอะ เวสต์ คลาสสิค" ชิงเงินรางวัลรวม 740,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 22.2 ล้านบาท) ณ เมืองสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย เป็นการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง เซเรนา วิลเลียมส์ มือ 1 ของรายการจากสหรัฐ และ โคโค แวนเดอเวจ รุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ
ปรากฏว่า ทั้งคู่สู้กันได้อย่างสูสีแต่เป็น อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลก ใช้ความเก๋าเกมกว่าปิดแมตช์เอาชนะ แวนเดอเวจ ที่มาแข่งในฐานะมือลัคกีลูสเซอร์ ไปได้ 2-0 เซต 7-5 และ 6-3 โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 27 นาที ป้องกันแชมป์รายการนี้ไว้ได้อีกครั้ง และเป็นแชมป์ที่ 43 ในการเล่นเทนนิสอาชีพ พร้อมรับเงินรางวัลกลับบ้าน 96,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท)
"ฉันดีใจจริงๆ ที่ทำสำเร็จ ดีใจที่ได้มาเล่นที่นี่มันเป็นแมตช์ที่ยากมาก ฉันเพิ่งแข่งที่วิมเบิลดัน และต้องปรับตัวหลายอย่าง ร่วมถึงมีอาการเจ็ทแล็คเล็กน้อย แจ่ฉันเล่นได้ดีจนเป็นผู้ชนะ ตอนนี้ฉันต้องการเก็บตัวที่อเมริกาต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับกลับแข่งโอลิมปิก ที่ลอนดอนอีกครั้ง" เซเรนา ที่ลงแข่งด้วยชุดแฟชันเขียวสะท้อนแสง กล่าว
ขณะที่ โคโค แวนเดอเวจ ที่ทำผลงานดีเกินคาดในทัวร์นาเมนต์นี้ เผยว่า "มันน่าตื่นเต้นจริงๆ ที่ฉันได้มาเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ฉันหวังว่าจะรักษาฟอร์มดีแบบนี้ให้ได้ไปจนถึง ซัมเมอร์ ฉันชื่นชอบการเล่นบนฮาร์ดคอร์ตมาก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงแข่ง"
