''ฮีโร่บาส'' สมรักษ์ คำสิงห์ ยังไม่ยอมรามือง่ายๆ เพื่อต้องการให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีทุกคนทุกฝ่าย ยืนยันจะพา มนัส บุญจำนงค์ เข้าพบ ''เสธ.อ้าย'' อีกครั้งให้ได้ พร้อมบอกว่า ''เจ้าเติ้ล'' ได้โทร.มาคุยแล้วจะบินจากลำปางมากรุงเทพฯ ชี้ยังไม่สายถ้า มนัสจะเปลี่ยนใจมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อม เพื่อไปชกรอบคัดเลือกโอลิมปิก แต่มนัสก็ออกมายันด้วยตัวเองว่ายังไม่เปลี่ยนใจที่บอกว่าเลิกแล้วผ่านข่าวทีวี แต่จะให้คำตอบตามเดดไลน์วันที่ 12 มี.ค. นี้ ชี้โอกาสเลิก 80%
เกาะประเด็นข่าวต่อเนื่องจากกรณีของ "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ ประกาศอำลาสังเวียน และขอสละสิทธิ์ไม่ไปชกคัดตัวโอลิมปิก ที่ประเทศคาซัคสถาน ล่าสุด สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่นักชกเหรียญทองโอลิมปิก 1996 เปิดเผย เมื่อ 7 มี.ค. ในงานแถลงข่าวศึกนายขนมต้ม ที่ภัตตาคารโฮคิทเช่น เหม่งจ๋าย ถึงความคืบหน้ากรณีของ "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ ที่ถอนตัวจากทีมชาติกะทันหันว่า ล่าสุดตนทราบว่า มนัสจะเดินทางจากบ้านของ "น้องนิว" แฟนสาวที่จ.ลำปาง ไปขึ้นเครื่องที่จ.เชียงใหม่ เพื่อเดินทางมายังกรุงเทพฯ
ซึ่งตนตั้งใจว่าเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ จะไปรับตัวมนัสพาไปพบกับ "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย เพื่อขอโทษกับการตัดสินใจแบบกะทันหัน แล้วพามนัสกลับเข้าค่ายฝึกซ้อมทันที โดยจะขอให้มนัสได้ฝึกซ้อมกับทีมราชนาวี ที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือสัตหีบเหมือนเดิม ยังมั่นใจว่าระยะเวลาที่เหลือจะทำให้มนัสฟิตทันไปชกที่คาซัคสถานได้ไม่มีปัญหา ขอเพียง เสธ.อ้าย ให้โอกาสอีกครั้ง
"ฮีโร่บาส" เปิดใจด้วยสีหน้าเครียดว่า ตนให้มนัสคิดทบทวนแล้ว และเห็นว่ามนัสไม่ควรหนีไปแบบนี้ มนัสยังมีโอกาสและชาวไทยทุกคนก็อยากเห็นมนัสชกโอลิมปิก เพราะในรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.) ตอนนี้ก็อย่างที่เห็นกันในประเทศไทย มีเพียงมนัสคนเดียวเท่านั้น ที่มีสิทธิ์คว้าตั๋วไปชกโอลิมปิก "ลอนดอนเกมส์" ที่ประเทศอังกฤษ ได้ รวมถึงสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิกอีกสมัย ถ้ามีคนอื่นที่สามารถเป็นตัวแทนของมนัสได้ ตนคงไม่ง้อมนัส และต้องวิ่งเต้นพยายามขนาดนี้หรอก
"ผมยอมรับว่าการประกาศถอนตัวแบบช็อกคนทั้งประเทศของมนัสหนนี้ ทำให้ผมเสียหายเหมือนกัน เพราะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มนัสได้คัดตัว พอคัดได้ก็ลงทุนไปหาสปอนเซอร์ให้ด้วย โดยถ้ามนัสได้ตั๋วโอลิมปิก 2012 ไปชกที่อังกฤษ ทางผู้หลักผู้ใหญ่ในจ.ราชบุรี บ้านเกิดของ มนัส นำโดยส.ส.ราชบุรี ก็บอกว่าจะหาสปอนเซอร์เพื่อให้เงินเดือนมนัสถึงเดือนละ 50,000บาท เลยทีเดียว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการฝึกซ้อมไปคว้าเหรียญทองโอลิมปิกอีกสมัย ถ้ามนัสไม่ยอมกลับมาชก นอกจากตนจะเสียใจแล้ว ชาวไทยและคนราชบุรีก็จะเสียใจมากเช่นกันครับ" สมรักษ์ กล่าว
ส่วน "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับข่าวทีวี เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 อีกครั้ง และได้ยืนยันว่าตนตัดสินใจแล้ว ยอมรับว่าที่ผ่านมากดดันและเครียดมากกับข่าวที่ออกมาในทางเสียๆ หายๆ ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีกระจิตกระใจในการฟิตซ้อมเลย จึงต้องตัดสินใจขอเลิกเองดีกว่า ขออำลาวงการมวยสากลสมัครเล่นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
แต่ต่อมาในช่วงเย็นผู้สื่อข่าวได้โทร.ไปสอบถามมนัส ได้เผยว่า ตนจะเดินทางกลับมากรุงเทพฯ เนื่องจากแฟนสาวต้องกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้ยังยืนยันเหมือนเดิมคือขอเลิกชก เพราะไม่ต้องการสร้างปัญหาให้ใครอีก น้อยใจที่เมื่อพลาดก็โดนตำหนิเสียหายมาตลอด ทั้งที่ตนก็เคยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติมามาก และคิดว่าการประกาศเลิกเองเดินออกมาเอง จะสมศักดิ์ศรีกว่าให้ใครมาไล่ ส่วนเรื่องที่ทำให้สมรักษ์เสียใจนั้น ตนต้องกราบขอโทษพี่ชายคนนี้ด้วย และถ้าสมรักษ์จะมาขอให้ตนเปลี่ยนใจ ก็อยากขอเวลาคิดทบทวนสัก 2-3 วัน เพราะตนเพิ่งรู้ว่า "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ผู้ใหญ่อีกคนที่ตนเคารพนับถือมาก ให้โอกาสตนถึงวันที่ 12 มี.ค. นี้ ตนก็อยากใช้เวลาคิดและให้คำตอบในวันที่ 12 มี.ค. นี้ดีกว่า แต่ตอนนี้ยืนยันว่า โอกาสที่จะเปลี่ยนใจกลับมาอีกครั้งนั้นมีแค่ 20% เท่านั้น ส่วนการตั้งใจเลิกนั้น 80%
ขณะที่ประมุขมวยเสื้อกล้าม พล.อ.บุญเลิศ เปิดใจอีกครั้งว่า ตนยอมรับว่าเสียดายในฝีมือของมนัส แต่ถามว่าเสียใจมากหรือเปล่า คงไม่เสียใจนะ เพราะเรื่องอย่างนี้จะไปบังคับจิตใจกันก็คงไม่ได้ ถ้าเขาไม่เต็มใจและไม่อยากซ้อม ซึ่งเขาอาจจะเบื่อหน่ายเรื่องการฟิตซ้อมแล้วก็ได้ เนื่องจากชกมวยมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 31 ปีแล้ว ถ้าเจ้าตัวต้องการเลิก ก็คงไม่มีใครไปบังคับมนัสได้ และสมาคมมวยฯ คงไม่ส่งใครไปคัดโอลิมปิกในรุ่นนี้อย่างที่เคยพูดไว้ ก็ดูกันว่าหากวันจันทร์ที่ 12 มี.ค. นี้ มนัสไม่กลับมารายงานตัวเพื่อไปเข้าแคมป์เก็บตัวที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทุกอย่างก็จบ
ส่วนเรื่องที่มนัสบอกว่ามีความกดดัน ไม่ถูกกับประธานเทคนิคหรือสตาฟฟ์โค้ชนั้น ตนขอยืนยันอีกทีว่าไม่น่ามี เพราะถ้ามีอะไรกันก็ต้องมาบอกตน ตนเป็นคนดูแลสมาคมมวยอยู่ โค้ชไม่ชอบนักมวยเพราะดื้อเกเร หรือนักมวยไม่พอใจโค้ชเพราะดุด่าว่ากล่าวรุนแรง ก็ต้องมารายงานตนสิจะได้แก้ไขกัน แต่ที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครมาบอกตนเรื่องปัญหาภายในเลยทั้งตัวนักมวยและโค้ช ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น