วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บาร์ตันสำนึกผิดขอโทษแสดงพฤติกรรมถ่อย






โจอี้ บาร์ตัน มิดฟิลด์เลือดร้อน ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส รีบออกมาขอโทษแฟนบอล และเพื่อนร่วมทีม กรณีที่โดนใบแดง จากเหตุการณ์สับศอกมหาประลัยใส่หน้า คาร์ลอส เตเวซ ในเกมที่ต้นสังกัด แพ้ แมนฯ ซิตี้ 2-3 เกมลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เหตุที่แสดงพฤติกรรมถ่อย เพราะโดนหัวหอกอาร์เจนไตน์ยั่วโมโห



        โจอี้ บาร์ตัน กองกลางกัปตันทีม ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ออกมาขอโทษแฟนๆ ที่ไปชักศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในเกมลีกนัดสุดท้าย ที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่อ้างสาเหตุที่ตบะแตก เพราะโดน "เตฟ" ยั่วอารมณ์ก่อน


        เมื่อเกมเข้าสู่นาทีที่ 55 ดาวเตะ "คิวพีอาร์" ตีศอกใส่แข้งเลือดฟ้า-ขาว จนโดนไล่ออกจากสนาม แต่ก่อนจะออกจากสนาม เจ้าตัวยังไปเตะใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ รวมทั้งพยายามเอาหัวโขก แว็งซ็องต์ ก็องปานี และหวิดมีเรื่องกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ด้วยอีกคน


        หลังการแข่งขันจบลง ซึ่ง "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ฤดูกาลนี้ไปครอง ขณะที่ "ทหารเสือราชินี" รอดตกชั้นหวุดหวิด จากการที่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 2-2 ดาวเตะวัย 29 ปีออกมาขอโทษต่อพฤติกรรมก้าวร้าวดังกล่าว ผ่านทางเว็บไซต์ "ทวิตเตอร์" แต่ก็แก้ตัวว่า ทำไปเพราะโดน "เตฟ" หาเรื่องก่อน


        "ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากขอโทษต่อนักเตะ และบรรดาแฟนๆ แต่ก็คิดว่า ไม่น่าถูกไล่ออกจากสนาม เรื่องไม่ควรเป็นไปแบบนี้ เมื่อผมโดนไล่ออก มีเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งเสนอให้ไล่นักเตะออกตามผมไปด้วยอีกคน มันก็ไม่ได้ผล แต่พระเจ้ามักชอบทดสอบผู้คน ผมคิดว่า คงมีไม่กี่คนหรอกที่ลืมว่า เตเวซ เริ่มเรื่องก่อน ด้วยการชกหัวผม แน่นอน ผมทำเกินไปหน่อย แต่ก็ดีใจกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนด้วยที่ คิวพีอาร์ ยังเป็นทีมใน พรีเมียร์ลีก ต่อไป โชคดีทุกๆ คน" บาร์ตัน ระบุ

ริโอรับผีเจ็บปวดเรือใบพลิกคว้าแชมป์สุดหักมุม 12bet





ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์แบ็กเชิงสูงของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยตนและเพื่อนร่วมทีมต่างรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการได้เห็น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระชากแชมป์พรีเมียร์ลีกไปต่อหน้าตา ด้วยการยิง 2 ประตูแซงชนะ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ในช่วงทดเจ็บไปแบบสุดระทึก


        ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังตัวเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่า การเสียแชมป์ลีกสูงสุดให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เชือด ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 แบบสุดระทึกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดให้ขุนพล "ปีศาจแดง" เป็นอย่างยิ่ง

        แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาครองความได้เปรียบในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังจากเป็นฝ่ายขึ้นนำ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ อาการร่อแร่หลังจากถูก ควีนส์ปาร์ค บุกมานำ 2-1 อย่างพลิกความคาดหมาย แต่ว่าในท้ายที่สุด "เรือใบสีฟ้า" ฮึดยิง 2 ประตูในช่วงทดเวลาเจ็บ 5 นาที แซงคว้าชัย 3-2 เหนือ "ทหารเสือราชินี" ได้สำเร็จ ส่งผลให้พวกเขาก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปีของสโมสรได้สำเร็จ

        เฟอร์ดินานด์ ยอมรับว่าการที่ "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์อย่างสุดระทึก เป็นการหักมุมที่ทำร้ายจิตใจพลพรรค "เร้ด เดวิลส์" แต่เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอนในฤดูกาลหน้า "มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่เสียแชมป์ลีก มันเป็นการเสียแชมป์ที่โหดร้ายจริงๆ"

        "แต่คุณต้องแสดงความยินดีกับพวกเขา (ซิตี้) เห็นได้ชัดว่าทีมที่ได้แชมป์ก็คู่ควรกับมันแล้ว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาล เราต้องปัดฝุ่นตัวเอง และลุกกลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมทั้งทำให้แน่ใจว่าจะกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้ในฤดูกาลหน้า" เซนเตอร์แบ็กวัย 33 ปี กล่าว

        เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกอย่างไรสำหรับการเป็นศูนย์กลางของจุดไคลแม็กซ์ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เฟอร์ดินานด์ ตอบว่า "ผมได้ยินจากในสนามว่า ซิตี้ ยิงประตูได้ แถมยังยิงตั้ง 2 ประตู เกมของเราก็จบลงแล้ว และมันก็จบอย่างราบเรียบและเงียบเชียบ ทุกคนต่างรอฟังผลการแข่งขัน หลังจากนั้นเสียงกองเชียร์ของแฟนบอลเจ้าถิ่น (ซันเดอร์แลนด์) ทำให้เรารู้ว่า ซิตี้ ยิงประตูได้ และแชมป์ลีกก็ตกอยู่ในมือของพวกเขา"

        "ผมคิดว่าปีนี้เราได้ใช้ขุมกำลังของเราอย่างเต็มที่ที่สุดแล้วและมันจะเป็นสัญญาณที่ดีในอนาคตแน่นอน มันเป็นข้อดีที่เราได้จากความผิดหวังครั้งนี้ ผมไม่คิดว่าจะมีทีมไหนที่รับมือกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในเวลานี้ได้ยอดเยี่ยมอย่างที่เราทำได้ มันไม่มีข้ออ้าง ต้องขอแสดงความยินดีกับพวกเขา (ซิตี้) ด้วย" อดีตดาวรุ่งเวสต์แฮม ยูไนเต็ด กล่าวทิ้งท้าย

วิเคราะห์บอล บัลกาเรีย พรีเมียร์ลีก เชอร์โน มอร์ - วิดิมา ราคอฟสกี้ 12bet 22.00 น. 14/5/12






เชอร์โน มอร์ vs วิดิมา ราคอฟสกี้
ฟุตบอลรายการ : บัลกาเรีย พรีเมียร์ลีก,  เวลาแข่งขัน : 22.00 น.
ราคา ต่อ/รอง : เชอร์โน มอร์ ต่อ 1.5

ทรรศนะความน่าจะเป็นของเกม


วิดิมา ราคอฟสกี้ กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น โดยมีแต้มห่างจากทีมโซนปลอดภัยอย่าง โลโคโมทีฟ โซเฟีย อยู่ 5 คะแนน ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันเหลืออยู่ 3 นัด แต่ฟอร์มชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าเชียร์ไม่ขึ้น เมื่อเก็บได้เพียงแต้มเดียวจาก 9 เกมหลังสุด อย่างไรก็ดีไปเยือน เชอร์โน มอร์ ที่พ่ายมา 3 เกมติดแถมไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ดูแล้วทีมเยือนที่มีความมุ่งมั่นมากกว่าอาจมีพลิกล็อคถึงขั้นยันแบ่งแต้มจากเจ้าถิ่นได้ หรืออย่างแย่ที่สุดก็คงแพ้เพียงแค่ลูกเดียว


ฟันธง สกอร์ สูง/ต่ำ
เชอร์โน มอร์ 1-0 วิดิมา ราคอฟสกี้   ต่ำ


ระดับความมั่นใจ
วิดิมา ราคอฟสกี้ 60%


ทีเด็ดฟันธง เฮงๆได้ทุกวัน 



วิเคราะห์บอล เดนมาร์ก ซุเปอร์ลีก นอร์ดเยลลันด์ vs โอเดนเซ่ 12bet 00.00 น. 15/5/12




นอร์ดเยลลันด์ vs โอเดนเซ่

วิเคราะห์ฟุตบอล เดนมาร์ก ซุเปอร์ลีก : เวลาแข่งขัน : 00.00 น.

ถ่ายทอดสด : ,  ราคา ต่อ/รอง : นอร์ดเยลลันด์ ต่อ 1 -10

ทรรศนะความน่าจะเป็นของเกม
นอร์ดเยลลันด์รองฝูงกำลังอยู่ในฟอร์มแจ่มชนะรวดมาห้าเกมติด ส่วนโอบี โอเดนเซ่เป็นทีมท้ายตารางที่ฟอร์มย่ำแย่ไม่ชนะต่อเนื่องมาสิบเอ็ดเกมแล้ว มั่นใจว่านอร์ดเยลลันด์ที่ได้เปรียบทุกอย่างที่สำคัญชนะวันนี้จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว มองแล้วเจ้าถิ่นที่แรงจูงใจสูงจะบดเอาชนะไปได้ไม่ยาก

ฟันธง สกอร์ สูง/ต่ำ
นอร์ดเยลลันด์ 2-0 โอเดนเซ่    ต่ำ


ระดับความมั่นใจ
นอร์ดเยลลันด์ 62%



ติดตามทีเด็ดบอลได้ที่นี่

คอนเต้สุดปลื้มพายูเว่ไร้พ่าย by 12bet

       


 อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือคนเก่งของ ยูเวนตุส เปิดอก สุดปลาบปลื้มที่ทำให้ทีมของตนสร้างสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ หลังทัพ "เบียงโคเนรี่" เปิดรังพิชิต อตาลันต้า 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมชม อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ กองหน้าจอมเก๋า เป็นยอดแข้งอย่างแท้จริง และหวังให้นักเตะรายนี้โชว์ความเด็ดขาดได้อีกครั้ง ในเกม โคปปา อิตาเลีย นัดชิงดำ กับ นาโปลี วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมนี้

อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์หนุ่มไฟแรงของ ยูเวนตุส แชมป์ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ทีมล่าสุด กล่าวว่า ตนภูมิใจมากๆ ที่พาทัพ "เบียงโคเนรี่" ทำสถิติไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ หลังจากที่ยอดทีมแห่งถิ่น ยูเวนตุส อารีน่า เปิดบ้านคว้าชัยเหนือ อตาลันต้า 3-1 ในเกมลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ยูเวนตุส ออกนำห่าง 2-0 จากผลงานของ ลูก้า มาร์โรเน่ กับ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ในนาทีที่ 10 กับ 28 ตามลำดับ ก่อนที่ทีมเยือนจะไล่ขึ้นมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ นาทีที่ 83 แต่เจ้าถิ่นมาได้ประตูตอกฝาโลงจากลูกจุดโทษของ อันเดรีย บาร์ซาญี่ ในช่วงท้ายเกม

ชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้ ยูเวนตุส ไม่แพ้ใครเลยในทุกรายการมา 43 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งนับรวมถึงเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลก่อนด้วย และนี่คือสถิติใหม่สำหรับทีมในแดนมะกะโรนี นอกจากนี้ ทีมของ คอนเต้ ยังเป็นทีมแรกที่สร้างสถิติไร้พ่ายในเวที กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลเดียวเอาไว้ได้ นับตั้งแต่ที่ เอซี มิลาน เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 1991-92 รวมถึงเป็นทีมแรกที่ไม่ต้องเจอความปราชัยเลยตลอดซีซั่น นับตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดแดนมะกะโรนี เปลี่ยนจาก 18 ทีม มาเป็น 20 ทีม เมื่อฤดูกาล 2004-05 ด้วย

คอนเต้ ให้สัมภาษณ์ว่า "เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็คือ รักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป และฉลองไปกับแฟนบอลของเรา ซึ่งเราก็สามารถทำอย่างนั้นได้แล้ว และนั่นก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กับตอนที่ลีกมี 20 ทีม นี่คือฤดูกาลที่เป็นตำนานอย่างแท้จริง เพราะในอนาคตนั้น ไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะสิ่งที่เราทำได้ อย่างดีที่สุดก็ทำได้แค่เทียบเท่ากับของเราเท่านั้น"

"ไม่เคยมีใครทำอะไรเราได้เลย และนั่นคือเหตุผลสำหรับความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่นี้ เดล ปิเอโร่ เล่นได้อย่างผู้ชนะอีกครั้ง แต่ผมบอกเขาว่า ฤดูกาลนี้มันยังไม่จบ เพราะเขาต้องเล่นด้วยความเด็ดขาดอย่างนี้อีก ในเกม โคปปา อิตาเลีย นัดชิงชนะเลิศ กับ นาโปลี วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมนี้" กุนซือวัย 42 ปี ระบุ




อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ป๋าโชว์แมน!ยินดีเรือสอยถ้วยแชมป์เหนือผี by 12bet




 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด โคตรแมนออกมาแสดงความยินดีกับ แมนฯ ซิตี้ ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ในซีซั่นนี้ พร้อมประกาศทีมของตนจะกลับมาโคตรบัลลังก์แชมป์ของ "เรือใบสีฟ้า" ในฤดูกาลหน้า เชื่อประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดจะช่วยทำให้ "ผีแดง" แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ออกมาแสดงความยินดีกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมือง ที่ผงาดคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปีได้อย่างยิ่งใหญ่

แมตช์ส่งท้ายซีซั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะได้แชมป์สมัยที่ 20 อยู่แล้ว เมื่อเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 แต่ "เรือใบสีฟ้า" สามารถพลิกนรกกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ทำให้พวกเขาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ส่งผลให้ทีมมี 89 คะแนน เท่ากับ "ผีแดง" แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า

บรมกุนซือ "ผีแดง" ซึ่งประกาศแผนสร้างทีมใหม่สำหรับการกลับมาลุ้นแชมป์ลีกในซีซั่นหน้า เผยว่า "เรามีช่วงเวลาที่สุดยอดพอสมควร เราคว้าแชมป์ลีก 3 ครั้งในวันสุดท้ายของซีซั่น ดังนั้นวันนี้เราเกือบจะทำได้อีกครั้ง ผมอยากจะพูดแทน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าขอแสดงความยินดีกับเพื่อนบ้านของเรา"

"ไม่มีใครคาดหวังในเรื่องนี้ ทุกๆ คนคาดว่า ซิตี้ จะชนะ แต่พวกเขาสู้กับทีมที่เหลือ 10 คนเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง พร้อมกับช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีก 5 นาที ซึ่งมันช่วยพวกเขา แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มันเป็นลีกที่ยากที่สุดในโลก และทุกๆ ทีมที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้สมควรที่จะได้รับสิ่งนี้แล้ว เรายอมรับการท้าทาย เรารู้สึกดีกับเรื่องนี้ และเราทำแบบนี้มาตลอด สำหรับตอนนี้ลูกทีมของผมผิดหวังมาก"

"พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นที่พวกเขาควรจะทำ พวกเขาสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมในวันนี้ ฟอร์มการเล่นของพวกเขาอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของเราสำหรับฤดูกาลนี้ การได้ 89 คะแนนน่าจะคว้าแชมป์ลีกได้ แต่มันไม่ใช่วันของเรา"

นอกจากนี้ "เซอร์เฟอร์กี้" ยืนยันว่า ตนไม่เคยหมดหวังในการลุ้นแชมป์ลีก แม้สุดท้ายจะไม่เป็นไปอย่างที่ใจปรารถนาก็ตาม "คุณไม่มีทางรู้ เราเคยพูดแบบนี้มาก่อนแล้วว่า -เราต้องมีสมาธิกับงานของเรา- นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องทำ แน่นอนว่า คุณต้องการปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้จากแฟนบอล คุณได้เห็นแล้วในวันนี้ ทั้งจากแฟนบอลของเรา และแฟนบอล ซันเดอร์แลนด์ เมื่อ ซิตี้ ยิงประตูที่ 3 ได้ คุณก็แค่ต้องมุ่งมั่นอยู่กับทีมของคุณ และมีสมาธิกับเกมของตัวเอง ซึ่งผมคิดว่า เราทำเรื่องนี้ได้ดีทีเดียว"

แม้ว่าจะจบฤดูกาลแบบมือเปล่า แต่จอมคนเลือดวิสกี้ เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมองในแง่บวกสำหรับความผิดหวังในฤดูกาล 2011-12 "ความจริงแล้ว เรามีนักเตะบาดเจ็บมากมายในฤดูกาลนี้ แต่เราก็สามารถรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ดีมาก สำหรับนักเตะดาวรุ่งของเรา นี่เป็นเรื่องที่สุดยอดสำหรับพวกเขา ประสบการณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกับทีมไปอีก 5, 6, 7 หรือ 10 ปี ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และประสบการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา แม้ว่ามันจะเลวร้ายก็ตาม"

ประเด็นข่าวฮอต ประเด็นข่าวดัง ที่นี่

เรือแชมป์ปาฏิหาริย์!เฉือนคิวพีอาร์ทดเจ็บ3-2 by 12bet







"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ พลิกนรกยิงช่วงทดเจ็บ2ลูก แซงเอาชนะ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค 3-2 กระชากแชมป์คืนจากอริร่วมเมือง อย่าง แมนฯยูไนเต็ด อย่างเหลือเชื่อ คว้าแชมป์ที่รอคอยในรอบ44ปี อย่างหัวใจแฟนบอลเรือใบ หัวใจแทบวาย ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2555
แมนฯ ซิตี้ 3 - 2 ควีนส์ปาร์ค
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ทำศึกชี้ชะตาแชมป์ กับ "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค โดยมีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน โดยเจ้าถิ่นจัดเต็มส่ง ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อเกวโร่ ประสานงาน ซามีร์ นาสรี่ และ คาร์ลอส เตเวซ ล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนส่ง บ็อบบี้ ซาโมร่า จับคู่ ฌิบริล ซิสเซ่

เริ่มเกมมา5นาที ด้วยลูกขยันของ เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลลุยมาถึงกรอบเขตโทษของีมเยือน ก่อนไหลบอลเข้ากลางให้ ยาย่า ตูเร่ สับไกยิงด้วยขวา แต่บอลโด่งข้ามคาน

นาทีที่10 แมนฯซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่า ได้โอกาสสับไกยิงอีกครั้งของ ซามีร์ นาสรี่ แต่ระยะไกลมากและบอลเบาไม่เข้ากรอบอีกต่างหาก

นาทีที่15 แมนฯซิตี้ มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ จ่ายให้ ดาบิด ซิลบา เข้าไปพลิกบอลยิงมุมแคบด้วยเท้าซ้าย แต่บอลยังตรงตัว แพทริค เคนนี่ เซฟไว้ได้

นาทีที่24 เป็นฝ่ายทีมเยือน ที่ได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกระยะหวังผล20หลา ริมกรอบเขตโทษ ฌิบริล ซิสเซ่ กดด้วยเท้าขวา บอลลอดกำแพงไปแล้ว แต่ โจ ฮาร์ท ยังล้มตัวรับไว้ได้

นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มีโอกาสบ้าง จากลูกฟรีคิก แต่ ดาบิด ซิลบา ปั่นไปชนกำแพงเต็มๆ ทีมเรือใบยังต้องควานหาประตูต่อไป

นาทีที่32 แมนฯซิตี้ พยายามบุกแหลก และมีโอกาสได้จบอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ ไหลบอลคืนกลับมาให้ ดาบิด ซิลบา กดเต็มๆด้วยเท้าซ้าย แต่ยังบังคับบอลให้เข้ากรอบไม่ได้

นาทีที่39 แฟนๆเรือใบได้กรี๊ดกันลั่นสนาม เมื่อได้ประตูที่รอคอย จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลให้ ยาย่า ตูเร่ ไหลบอลต่อให้ ปาโบล ซาบาเลต้า ที่เติมขึ้นมายิงเต็มๆ แพทริค เคนนี่ พยายามปัดบอล แต่ปัดไม่ออก บอลลอยเช็ดเสาเข้าตาข่ายให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่43 เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้โอกาสยิงอีกครั้ง แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟไว้ได้ ขณะเดียวกัน เจ้าถิ่นทำการเปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง ไนเจล เด ยองก์ ลงมาแทน ยาย่า ตูเร่ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว

ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ พยายามครองบอลไว้กับตัวเอง โดยปล่อยให้ คิวพีอาร์ ยืนคุมโซนในแดนตัวเอง หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ จึงขึ้นนำ คิวพีอาร์ อยู่ 1-0

เริ่มครึ่งหลังมาเพียงนาทีแรก เจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูอีก เมื่อ กาแอล กลิชี่ เติมขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง เซร์คิโอ อเกวโร่ โฉบยิงที่เสาแรก แต่ แพทริค เคนนี่ ยังคุมเสาอยู่

แต่แล้วนาทีที่48 แฟนๆคิวพีอาร์ ได้เฮกันลั่น เมื่อ ตาเย่ ไตโว่ กระดกบอลโด่งไปที่หน้าประตู โจเลียน เลสค็อตต์ โหนโหม่งไม่ดี กลายเป็นการโหม่งเช็ดมาให้ ฌิบริล ซิสเซ่ หลุดเข้าไปล่อเป้า ก่อนยิงสวน โจ ฮาร์ท กลายเป็นประตูให้ คิวพีอาร์ ตีเสมอ 1-1

แต่แล้วนาทีที่59สถานการณ์ของคิวพีอาร์ ก็ย่ำแย่ลง เมื่อผู้ตัดสินมองว่า โจอี้ บาร์ตัน ไปศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ จึงทำโทษชูใบแดง ให้ บาร์ตัน ทันที ก่อนเกมจะพักชั่วคราวหลัง บาร์ตัน ยังอารมณ์ค้างไปเตะใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ อีก จึงทำให้นักเตะทั้งสองทีมมีทั้งวิ่งมาเอาเรื่อง บาร์ตัน รวมถึงห้ามปรามกันวุ่นวาย

ทีมเยือน คิวพีอาร์ ทำการเปลี่ยนตัวด้วยการส่ง อามองด์ ตราโอเร่ ลงมาแทน ฌิบริล ซิสเซ่

นาทีที่60 แมนฯซิตี้ เดินบุกแหลก ก่อน คาร์ลอส เตเวซ มีโอกาสยิงด้วยขวา แพทริค เคนนี่ พุ่งเซฟไว้ได้ ก่อนบอลจะชุลมุนไปโดนแขนของ เนดุม โอนูโอฮา นักเตะ ซิตี้ พยายามฟ้องแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ยังนิ่ง

6นาทีต่อมา แฟนเรือใบ ช็อกทั้งสนาม เมื่อ อามองด์ ตราโอเร่ พาบอลแหวก แว็งซ็องต์ ก็อมปานี ทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนเปิดโค้งมาที่หน้าประตูให้ เจมี่ แม็คกี พุ่งโหม่งส่งบอลตุงตาข่ายอย่างงามหยด ให้ คิวพีอาร์ พลิกแซงนำ 2-1 อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่68 แมนฯซิตี้ ต้องเปลี่ยนตัวโดยทันที โดยส่ง เอดิน เชโก้ ลงมาแทน แกเร็ธ แบร์รี่ แล้วก็เปิดเกมกดดัน แล้วก็มีโอกาสได้ลุ้น จากลูกโหม่งของ คาร์ลอส เตเวซ แต่บอลยังไม่เข้า

นาทีที่75 หลังจากพาบอลเจาะเข้าไปในกรอบเขตโทษไม่ได้ ซามีร์ นาสรี่ จึงหันมายิงไกลที่บอลก็ลอยโด่งออกหลังไป เจ้าถิ่นจึงต้องทำการเปลี่ยนตัวอีก ด้วยการส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทน คาร์ลอส เตเวซ

3นาทีต่อมา นักเตะทั้งหมดของ คิวพีอาร์ แทบจะยืนอยู่หน้าประตูทั้งหมด ขณะที่ แมนฯซิตี้ พยายามพับสนามบุก ก่อนได้ยิงโดย มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟได้

เกมผ่านมาถึงนาทีที่90 แฟน ซิตี้ เริ่มใจคอไม่ดี และมีโอกาสได้ลุ้น จากลูกโหม่งของ มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟได้

ช่วงทดเวลาเจ็บ นาทีที่แรก จากจังหวะลูกเตะมุม และ แมนฯซิตี้ ก็ได้ประตูตีเสมอ จากการโหม่งของ เอดิน เชโก้ ให้ แมนฯซิตี้ ไล่มา 2-2

แต่แล้ว ปาฏิหาริย์ ก็มีจนได้ เมื่อ แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ มา เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลแหวกเข้ามา ก่อนบอลไปติดกองหลัง มาริโอ บาโลเตลลี่ จิ้มบอลมาหนึ่งจังหวะให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลแหวกมายิงยัดเสาแรก กลายเป็นประตูขึนนำ ในนาทีที่94 ให้ ซิตี้ แซงนำ 3-2

แล้วก็กลายเป็นประตูชัย ให้ แมนฯซิตี้ พลิกนรกเอาชนะ คิวพีอาร์ โดยยิง2ลูกในช่วงทดเจ็บ ให้ แมนฯซิตี้ กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างหัวใจจะวาย

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้(4-2-3-1):โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่,แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อเกวโร่,ซามีร์ นาสรี่,คาร์ลอส เตเวซ

สำรอง : คอสเทล พานติลิมอน,ไมกาห์ ริชาร์ดส์,เจมส์ มิลเนอร์,เล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,ไนเจล เด ยองก์,มาริโอ บาโลเตลลี่,เอดิน เชโก้

ควีนส์ปาร์ค(4-4-2):แพทริค เคนนี่,เนดุม โอนูโอฮา, คลินท์ ฮิลล์,แอนทอน เฟอร์ดินานด์,ตาเย่ ไตโว่,เจมี่ แม็คกี, โจอี้ บาร์ตัน, ฌอน เดอร์รี่,ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์,บ็อบบี้ ซาโมร่า, ฌิบริล ซิสเซ่

สำรอง:ราเด็ก เคอร์นี่,ดาเนี่ยล แกบบิดอน,อเดล ทารับต์,ดีเจ แคมป์เบลล์,เจย์ โบธรอยด์,อามองด์ ตราโอเร่,อกอส บุซซากี้

ผู้ตัดสิน:ไมค์ ดีน


  ข่าวเด็ดข่าวดังเพิ่มเติมได้ ที่นี่

มันโช่สุดเหลือเชื่อ!แข้งเรือพลิกนรกคว้าแชมป์ by 12bet




โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผยสุดเหลือเชื่อที่ลูกทีมสามารถกลับมาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 เกมลีกนัดสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมยกแชมป์ลีกซีซั่นนี้ให้กับสาวก "เรือใบสีฟ้า" ที่เป็นแรงใจให้กับทีมมาตลอดจนกระทั่งประสบความสำเร็จ

โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับสุดเหลือเชื่อที่ลูกทีมพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" ผงาดคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีในฤดูกาลนี้

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูนำไปก่อน ปาโปล ซาบาเลต้า ในนาทีที่ 39 จากนั้นครึ่งหลัง ฌิบริล ซิสเซ่ หัวหอกทีมเยือนยิงตีเสมอในนาทีที่ 48 จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 55 เมื่อ โจอี้ บาร์ตัน เจตนาตีศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ จนโดนใบแดง แต่ "คิวพีอาร์" ทำเรื่องสุดช็อกเมื่อได้ประตูขึ้นนำจาก เจมี่ แม็กกี นาทีที่ 66 และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบสิ้นแล้วสำหรับเจ้าบ้านแต่ได้ประตูตีเสมอจากการโหม่งของ เอดิน เชโก้ ในนาทีสุดท้าย และที่ดราม่าที่สุดเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ สวมบทซูเปอร์ฮีโร่ยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ซึ่งนั่นหมายถึงการนำ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี

มันชินี่ เปิดใจหลังจากนำความสำเร็จสู่ถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ว่า "ในช่วง 2-3 นาทีสุดท้ายมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ แชมป์นี้สำหรับแฟนบอลของเรา พวกเขาสมควรได้รับสิ่งนี้แล้ว การคว้าแชมป์แบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุด ผมไม่เคยเห็นการจบซีซั่นแบบนี้เลย"

"เรามีโอกาสมากมาย เราสมควรที่จะได้แชมป์ลีกในฤดูกาลนี้แล้ว มันเป็นเรื่องที่สุดยอดจริงๆ หลังจาก 44 ปี ผมขออุทิศแชมป์นี้ให้กับแฟนบอลของเราทุกคน มันเป็นฤดูกาลที่บ้าบอสิ้นดี มันเป็นนาทีสุดท้ายที่สุดแสนบ้าคลั่งจริงๆ" อดีตเทรนเนอร์ อินเตอร์ มิลาน ระบุ




อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่