เปรียบเทียบความเชลซี :
เชลซี :
สิงโตน้ำเงินคราม ของกุนซือหนุ่ม อันเดร วิลลาช โบอาช กำลังคึกทีเดียว หลังจากที่ชนะในลีกด้วยสกอร์ 3-0 มาสองนัดติดต่อกันเหนือ วูล์ฟส์ และ นิวคาสเซิ่ล ตามด้วยการถล่ม บาเลนเซีย ด้วยสกอร์เดียวกันใน แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์อีก
ในการเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับจ่าฝูงคืนวันจันทร์นี้ กุนซือโปรตุกีสจะต้องไร้ ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังแซมบ้าที่ติดโทษแบนหนึ่งนัด หลังสะสมใบเหลืองครบห้าใบตามโควต้า
ส่วนแบ๊กขวาจอมลุย โชเซ่ โบซิงวา ได้รับการคาดหมายว่า จะหายเจ็บกล้ามเนื้อท้องทันกลับมาช่วยทีมได้ หลังจากที่พลาดเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อมิดวีก ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จะเข้าไปรับบทคู่หู จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม เนื่องจาก อเล็กซ์ ที่ขอย้ายทีมไม่ได้อยู่ในแผนการของ วิลลาช โบอาช
นอกเหนือไปจาก ไมเคิ่ล เอสเซียง กองกลางจอมพลังชาวกาน่าที่เจ็บยาว และดาวรุ่ง จอช แม็คเอคราน ที่กลับมาซ้อมได้แล้ว หลังหายเจ็บข้อเท้า ถือว่า วิลลาช โบอาช มีขุมกำลังชุดใหญ่ให้เลือกใช้งาน โดยบรรดาคีย์แมนที่ผนึกกำลังกันคว้าแชมป์กลุ่มใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่างพร้อมลุย
ซึ่งหมายความว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด อาจถูกดร็อปต่อไป เพราะทีมชุดล่าสุด กำลังทำได้ดี ส่วนแดนหน้านำโดย ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่กำลังฮอต ปล่อยให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส นั่งสำรองต่อ
แมนฯ ซิตี้ :
เรือใบสีฟ้า จ่าฝูงของกุนซืออิตาเลียน โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังไม่รู้จักคำว่าแพ้เลยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยสัปดาห์ก่อน เปิดบ้านถล่ม นอริช กระจายถึง 5-1
สำหรับการเยือนลอนดอนวันจันทร์นี้ มันโช่ ส่อแววอดใช้งาน ไมกาห์ ริชาร์ดส์ แบ๊กขวาดีกรีทีมชาติอังกฤษ โดยสตาร์ผิวหมึก ต้องอดช่วยทีมในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ขย่ม บาเยิร์น 2-0 เนื่องจากมีปัญหาเจ็บน่อง และไม่น่าหายทันเวลา
เมื่อกลางสัปดาห์ สเตฟาน ซาวิช ลงทำหน้าที่แบ๊กขวาแทน แต่ล่าสุด ปาโบล ซาบาเลต้า มีลุ้นลงทำหน้าที่ หลังจากที่ฟิตแล้ว ทว่าแบ๊กซ้าย อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (โคนขาหนีบ) ยังไม่ไหว
มันชินี่ พร้อมจัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 โดยอัดสตาร์ดังลงสนามครบครันทั้ง มาริโอ บาโลเตลลี่, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', ดาบิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์, ยาย่า ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี รวมถึง โจ ฮาร์ท
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี :
(4-1-2-3) : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - โอริโอล โรเมอู - รามิเรส, ราอูล เมยเรเลส - ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฆวน มาต้า
แมนฯ ซิตี้ :
(4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่ - ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', เจมส์ มิลเนอร์ - มาริโอ บาโลเตลลี่
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ทีมสิงโตน้ำเงินคราม เริ่มกลับมาสู่ฟอร์มเก่งของตัวเองแล้ว หลังจากชนะในลีกมา 2 เกมติด รวมถึงนัดล่าสุดในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่การที่จะเอาชนะทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่แกร่งเหลือเกินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย โดยเฉพาะแนวรุกสุดอันตรายของทีมเรือใบ ดูแล้วเกมน่าจะออกมาสูสี โอกาสจบลงด้วยผลเสมอมีค่อนข้างสูง
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม
โรม่า :
หลุยส์ เอ็นริเก้ ประสบปัญหาทีเดียว เมื่อ ฮวน, เฟร์นานโด กาโก้ และ โบยาน เกร์กิช พร้อมใจกันติดโทษแบน แถมจะไม่มี ซิม่อน เคียร์, นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, ดาวิด ปิซาร์โร่, มาร์โก คาสเซ็ตติ และ ฟาบิโอ บอรินี่ ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บด้วย
ผู้รักษาประตูเป็น มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก แนวรับถอย ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ลงมาต่ำจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ กาเบรียล ไอน์เซ่ ขนาบข้างด้วย อเลอันโดร โรซี่ และ โรดริโก้ ตัดเด
เฟเดริโก้ วิเวียนี่ ดาวรุ่งได้รับโอกาสให้ประสานงานแดนกลางกับ มิราเล็ม ปานิช และ ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า วาง ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ที่หายเจ็บแล้ว ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์อยู่หลัง เอริค ลาเมล่า กับ ปาโบล ออสวัลโด้ ที่กลับคืนสู่ทีม หลังโดนสั่งแบนเป็นการภายใน
ยูเวนตุส :
อันโตนิโอ คอนเต้ ขาดเพียง มีร์โก วูชินิช ที่มีปัญหาบาดเจ็บจนต้องพักยาว 20 วัน แต่ข่าวดีคือ อันเดรีย ปีร์โล่ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง
จานลุยจิ บุฟฟ่อน รับหน้าที่เฝ้าเสา อันเดรีย บาร์ซาญี่ ยืนปราการหลังตัวกลางกับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ แบ็กสองข้างเป็น สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่
อันเดรีย ปีร์โล่ ประคองเกมกลางสนามกับ อาร์ตูโร่ วิดาล และ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ แนวรุก อเลสซานโดร มาตรี เป็นหน้าเป้า ริมเส้นขวาเป็น ซิโมเน่ เปเป้ ฝั่งซ้ายต้องแย่งกันระหว่าง มาร์เซโล่ เอสติการ์ริเบีย หรือ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โรม่า :
มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก; อเลอันโดร โรซี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, กาเบรียล ไอน์เซ่, โรดริโก้ ตัดเด; มิราเล็ม ปานิช, เฟเดริโก้ วิเวียนี่, ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า; ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ; เอริค ลาเมล่า, ปาโบล ออสวัลโด้
ยูเวนตุส :
จานลุยจิ บุฟฟ่อน; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่; อาร์ตูโร่ วิดาล, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ; ซิโมเน่ เปเป้, อเลสซานโดร มาตรี, มาร์เซโล่ เอสติการ์ริเบีย
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
เกมนี้ แม้ว่า ทีมหมาป่ากรุงโรม จะได้เล่นในบ้านตัวเอง แต่ก็ตามที แต่นอกจากจะไม่เหนือกว่าแล้ว ยังดูเป็นรองอีกต่างหาก เนื่องจากว่า สภาพทีมและฟอร์มการเล่นช่วงนี้ดูไม่จืดเป็นอย่างยิ่ง ต้องปรับทัพกันวุ่นวายเอากองกลางมายืนกองหลังขัดตาทัพ แถม ยูเวนตุส ฟอร์มในช่วงนี้สดกว่าเป็นอย่างมาก เชื่อว่านอกจากจะไม่แพ้แล้ว โอกาส ยูเวนตุส บุกเฮได้ยังมีสูงอีกต่างหาก
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เตรียมเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง โดยเจ้าถิ่นเตรียมจัดทัพใหญ่โดยแผงแนวล่านำโดย ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฆวน มานูเอล มาต้า และ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ข้ามฝั่งมาทางแมนฯ ซิตี้ ที่เน้นหนักหวังเก็บชัยในเกมนี้จะส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่, มาริโอ บาโลเตลลี่ และ ดาบิด ซิลบา เคลื่อนพลเกมรุก ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค. ศกนี้
ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2554
เชลซี - แมนฯ ซิตี้
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
เกมคู่บิ๊กแมตช์ของสองทีมลุ้นแชมป์ จะลงเตะกันเป็นเกมมันเดย์ไนท์ หลังจากต่างก็หมดภารกิจในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กันไปแล้ว ทำให้เล่นคืนวันจันทร์ได้
เชลซี กลับคืนฟอร์มชนะ 3-0 มา 2 นัด ล่าสุดทุบ บาเลนเซีย จนแซงขึ้นยึดแชมป์กลุ่มของแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากในเกมลีกยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สกอร์เดียวกัน แต่ว่าล่าสุดโดนเขี่ยลงรั้งอันดับ 5 ของตาราง เมื่อแข่งช้ากว่าชาวบ้าน
อันเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือชาวโปรตุกีส ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเกมนี้ถ้าแพ้อีก ทีมตนคงหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ทันที และเกมนี้สภาพทีมมีปัญหาเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์แบ็กบราซิเลี่ยน สะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ติดแบนอัตโนมัติ 1 นัด ไม่นับรวม ไมเคิ่ล เอสเซียง ที่พักยาวอยู่แล้ว
การขาด ลุยซ์ ทำให้ วิลลาช-โบอาช ต้องปรับเกมรับ และก็จะไม่หันไปง้อ อเล็กซ์ เซนเตอร์บราซิเลี่ยนอีกคน ที่ถูกตัดทิ้ง ส่งไปซ้อมกับทีมสำรองแล้วหลังเจ้าตัวร้องขอขึ้นบัญชีขาย ด้วย
แต่ก็พอดีกับที่ โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาโปรตุกีส หายเจ็บกลับมาทันเวลา เท่ากับ โบซิงวา จะลงยืนทางขวา ขยับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เข้ายืนเซนเตอร์คู่กัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่
ตรงกลางก็น่าจะมีปรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก๋า มีโอกาสคืนทัพตัวจริงหลังนั่งมาเมื่อกลางสัปดาห์ โดยจะเสียบแทน ราอูล เมยเรเลส เพื่อลงเล่นข้าง รามิเรส และ โอริโอล โรเมอู
สำหรับข้างหน้าไม่น่าเปลี่ยน เมื่อ 3 แนวรุกกำลังผลงานดี ทั้ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ฆวน มานูเอล มาต้า และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดยเฉพาะ ดร็อกบา ที่ยิง 4 ประตูจาก 4 นัดหลังที่ได้เล่น เท่ากับ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกสแปนิชจอมฝืด ยังต้องนั่งสำรองต่อไป
ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อกหักจากเกมยุโรป ตกรอบแรกแม้เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค สวย 2-0 แต่ผลงานในประเทศยังฉิว นำจ่าฝูงแบบยาวๆ หลังเสาร์ก่อนถลุง นอริช ซิตี้ 5-1
โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเรือใบสีฟ้า มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นับรวม คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าเจ้าปัญหา ที่โดนตัดทิ้งจากทีมนานแล้ว ก็เสีย 2 ฟูลแบ็ก ไมกาห์ ริชาร์ดส์ แบ็กขวาเด็กปั้น กับ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แบ็กซ้ายเซิร์บ ไปจากปัญหาบาดเจ็บ
ริชาร์ดส์ เจ็บน่อง พลาดเกมกับ บาเยิร์น มาแล้ว เกมนี้ยังคงพลาดต่อ ส่วน โคลารอฟ เจ็บโคนขาหนีบ อาจต้องพักอีกนับเดือน
อย่างไรก็ดี ตัวเลือกของ มันโช่ ก็มีให้ใช้เยอะ แบ็กซ้ายจะเป็น กาแอล กลิชี่ เล่นต่อ ส่วนทางขวา ปาโบล ซาบาเลต้า ก็ฟิตพร้อม และน่าจะเสียบแทน สเตฟาน ซาวิช ดาวรุ่งที่ได้เล่นตำแหน่งนี้ในเกมเมื่อวันพุธ
การจัดทีมน่าจะมีเปลี่ยนบางจุด สลับส่งตัวที่ได้พักมาลงสนาม มาริโอ บาโลเตลลี่ จะกลับมายืนหัวหอกแทน เอดิน เชโก้ หลังจากกองหน้าบอสเนียฯ ฝืดสนิท ยิงไม่ได้ตลอด 7 นัดหลังที่ลงสนามกับสโมสรและทีมชาติ
ตรงกลาง เจมส์ มิลเนอร์ หรือ ไนเจล เด ยองก์ ก็อาจจะกลับมาเช่นกัน แต่ต้องแย่งตำแหน่งกับ 3 ตัวจริงอย่าง แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่ และ ซามีร์ นาสรี่
ข้างหน้ายังวาง 3 หอกเช่นเดิม บาโลเตลลี่ กลับมาเล่นร่วมกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา ส่วน อดัม จอห์นสัน ก็มีโอกาสสอดแทรกด้วย แต่คาดว่า มันโช่ คงไม่เปลี่ยน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี: ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, โอริโอล โรเมอู, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฆวน มานูเอล มาต้า
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ (เจมส์ มิลเนอร์) - ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, มาริโอ บาโลเตลลี่
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
ลิเวอร์พูล ได้ข่าวดีเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่ง กลับมาซ้อมได้แล้ว หลังได้รับบาดเจ็บไปนาน 6 สัปดาห์ ด้าน เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ "หงส์แดง" เผยดีใจกับความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ายอดมิดฟิลด์จะคืนสนามได้เมื่อไหร่
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ได้รับข่าวดีเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดมิดฟิลด์กัปตันทีม สามารถกลับมาลงฝึกซ้อมเบาๆ ได้แล้ว หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บข้อเท้าก่อนหน้านี้ จากการรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เจอร์ราร์ด มีปัญหาสภาพร่างกายมาตลอด และมีอาการติดเชื้อที่ข้อเท้าเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน แต่ล่าสุดสตาร์ทีมชาติอังกฤษ สามารถกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว และถือเป็นข่าวดีสำหรับ เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ทว่าในเวลานี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กัปตันทีม "หงส์แดง" จะกลับมาเล่นได้อีกครั้งเมื่อไหร่
"เราดีใจกับความก้าวหน้าของ สตีเว่น เราไม่เคยกำหนดกรอบเวลาว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะกลับมาลงเล่นและเราก็จะไม่ทำในตอนนี้" ดัลกลิช กล่าว
นอกจากนี้มีรายงานว่า ลูคัส เลว่า มิดฟิลด์มชาติบราซิล ได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าแล้ว และจะพร้อมกลับมาเริ่มต้นฟื้นฟูสภาพร่างกาย
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
นานี่ แข้งตัวจี๊ดของ แมนฯ ยูไนเต็ด รับตนร่ำไห้เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ภายหลังต้นสังกัดแพ้ บาเซิ่ล 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จนกระเด็นจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ไก่โห่ พร้อมชี้เป้าหมายของทีมตอนนี้คือ การรักษาถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ให้อยู่ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป
นานี่ ปีกชาวโปรตุกีสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ตนผิดหวังกับการที่ต้นสังกัดต้องตกรอบ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี ภายหลังออกไปแพ้ เอฟซี บาเซิ่ล 1-2 เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนถึงขนาดร้องไห้ในห้องแต่งตัว พร้อมยอมรับว่า พ่อค้าแข้งทุกคนในทีม "ปีศาจแดง" ต่างได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้อย่างมาก
แข้งวัย 25 ปี ที่มีส่วนช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบชิงดำ ศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" 3 จาก 4 ฤดูกาลหลังสุด กล่าวกับ "เดลี่ สตาร์" สื่อเมืองผู้ดีว่า "ผมร่ำไห้เหมือนกับเด็กในห้องแต่งตัวที่ บาเซิ่ล ซึ่งเพื่อนร่วมทีมทุกคนของผมต่างก็ได้รับผลกระทบกับเรื่องนั้นเหมือนกัน เพราะไม่มีใครที่จะเชื่อหรอกว่า เราต้องตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม มันย่ำแย่เหมือนนรกเลยทีเดียว"
"การปราชัยครั้งนี้ กับเกมที่แพ้ในนัดชิงฯ ที่ เวมบลีย์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็น 2 วันที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตของผมกับการค้าแข้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นมากๆ มันแทบจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง บรรยากาศในห้องแต่งตัวที่ บาเซิ่ล มันเหมือนงานศพดีๆ นี่เอง" นานี่ เผย
ก่อนหน้านี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งโดน มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) วิจารณ์อย่างหนัก เพราะดันไปพูดว่า การต้องไปเล่นศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก เหมือนบทลงโทษของทีมที่ต้องตกรอบจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งนักเตะเลือดฝอยทอง ยืนยันว่า เป้าหมายในตอนนี้ของต้นสังกัดคือ การป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีเอาไว้ให้ได้
"ทีมชุดนี้คือชุดที่พร้อมจะคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ มาครองได้ ดังนั้นการตกรอบไปแบบนี้คือฝันร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ เรารู้ว่า เราเป็นทีมที่ดีกว่าทีมอื่นๆ เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถหาเหตุผลได้อย่างถูกต้องว่า เรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ผมไม่คิดว่า เราเป็นพวกทะนงตัวเกินไป หรือพึงพอใจมากไปหรอกนะ"
"แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมที่ให้ความเคารพต่อคู่แข่งอยู่เสมอ จริงอยู่ที่เราได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้ แต่นี่คือช่วงเวลาที่เราจะต้องทะยานขึ้นไป และพยายามฟื้นตัวกลับมาให้ได้ ตอนนี้ พรีเมียร์ลีก เป็นเป้าหมายหลักของเรา เพราะการเป็นแชมป์คือสิ่งที่จำเป็นมาก แต่เจ้านายคือคนที่รู้ดีว่า ต้องทำยังไงถึงจะปรับปรุงตัวนักเตะได้ และจะช่วยให้เรากลับมาสู่เส้นทางเดิมอีกครั้งแน่นอน" อดีตแข้ง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ระบุ
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
20 นักหวดโลกจากการจัดอันดับในสัปดาห์ล่าสุดไม่มีการเปลี่ยนแปลง หลังฤดูกาลแข่งขันสิ้นสุดลงไปแล้ว โดย โนวัค ยอโควิช จากเซอร์เบีย ครองความเป็นมือ 1 โลก ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล จากสเปน และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ด้าน ดนัย อุดมโชค ก็รั้งอยู่ที่อันดับ 208 โลก
สรุปอันดับโลกนักเทนนิสชายของ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ จากการประกาศ เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา (ตัวเลขในวงเล็บหมายถึงอันดับครั้งก่อน)
1.(1) โนวัค ยอโควิช (เซอร์เบีย) 13,630 คะแนน
2.(2) ราฟาเอล นาดาล (สเปน) 9,595 คะแนน
3.(3) โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์) 8,170 คะแนน
4.(4) แอนดี้ มาร์รี่ย์ (สหราชอาณาจักร) 7,380 คะแนน
5.(5) ดาบิด เฟร์เรร์ (สเปน) 4,925 คะแนน
6.(6) โจ-วิลเฟร็ด ซองก้า (ฝรั่งเศส) 4,335 คะแนน
7.(7) โธมัส เบอร์ดิช (สาธารณรัฐเช็ก) 3,700 คะแนน
8.(8) มาร์ดี้ ฟิช (สหรัฐอเมริกา) 2,965 คะแนน
9.(9) ยานโก้ ทิปซาเรวิช (เซอร์เบีย) 2,595 คะแนน
10.(10) นิโกลัส อัลมาโกร (สเปน) 2,380 คะแนน
11.(11) ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร (อาร์เจนตินา) 2,315 คะแนน
12.(12) ชิลล์ส ซิมง (ฝรั่งเศส) 2,165 คะแนน
13.(13) โรบิน โซเดอร์ลิ่ง (สวีเดน) 2,120 คะแนน
14. (14) แอนดี้ ร็อดดิค (สหรัฐฯ) 1,940 คะแนน
15. (15) อเล็กซานเดอร์ โดลโกโปลอฟ (ยูเครน) 1,925 คะแนน
16.(16) กาแอล มงฟิลส์ (ฝรั่งเศส) 1,910 คะแนน
17.(17) สตานิสลาส วาวรินก้า (สวิตเซอร์แลนด์) 1,820 คะแนน
18.(18) จอห์น อิสเนอร์ (สหรัฐฯ) 1,800 คะแนน
19.(19) ริชาร์ด กาสเก้ต์ (ฝรั่งเศส) 1,765 คะแนน
20.(20) เฟลิเซียโน่ โลเปซ (สเปน) 1,755 คะแนน
**25.(25) เคอิ นิชิโกริ (ญี่ปุ่น) 1,430 คะแนน
**208.(208) ดนัย อุดมโชค (ไทย) 234 คะแนน
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3 โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ