เดอะ ฮอตชอต อลัน เชียร์เรอร์ แข้งตำนานของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ออกมาเรียกร้องเอฟเอ หรือ สมาคุมฟุตบอลอังกฤษจัดการลงโทษแบนแอชลี่ย์ โคล ในเกมที่ทีมชาติอังกฤษจะเจอกับซาน มาริโน่ จากการวิจารณ์สมาคมผ่านสื่ออนไลร์
แบ๊กผิวสีเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ทวีตด่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่อ้างว่าเขากลับคำให้การในคดีเรื่องการเหยียดผิวของจอห์น เทอร์รี่กับอันทอน เฟอร์ดินานด์ แม้ว่าจะออกมาขอโทษในภายหลังก็ตาม
“ผมว่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษสามารถแสดงจุดยืนชัดๆได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรับเงิน แต่แบนเขาในเกมวันศุกร์กับซาน มาริโน่ซะ” เขากล่าว
“นั่นเพราะกี่ครั้งแล้วที่เราเห็นนักเตะโดนปรับ 50,000 ปอนด์, 60,000 ปอนด์, 70,000 ปอนด์ ซึ่งนั่นไม่ได้ระคายอะไรพวกเขาเลย”
“การแบนไม่ให้พวกเขาลงเล่นนี่สิถึงจะซึ้งกัน ถ้าพวกเขาจัดการมันอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่ในกรณีนี้ ที่พวกเขาลากยาวถึง 14 เดือน จริงๆถ้าให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นภายใน 4-5 วัน ผมคิดว่ามันจะเป็นข้อความสำคัญที่ส่งต่อไปให้กับนักเตะที่เหลือได้หมดเลยนะ”
เนย์มาร์ หัวหอกที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดชาวบราซิล มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์แชร์กแมง หลังจากเจ้าตัวยอมรับว่า เปแอสเชคือทีมแห่งความฝัน
เนย์มาร์ หัวหอกทีมชาติบราซิล เผยเว่า การย้ายไปค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกลีก เอิง จะเป็นเหมือนกับฝันที่เป็นจริงของเขาเลยทีเดียว
"การเล่นที่ เปแอสเช จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง มันจะเป็นความฝันสำหรับการเล่นกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มันคือความฝันสำหรับการเล่นกับนักเตะชั้นยอดและเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น เมืองปารีสงดงามมาก แต่ผมอยู่กับ ซานโต๊ส เราจะได้รู้กัน" เนย์มาร์ ให้สัมภาษณ์กับ เตแอฟเอิง สถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศส
เนย์มาร์ ตกเป็นข่าวกับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป ซึ่งรวมถึง บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งศึกลา ลีกา สเปน แต่ ว้ากเนอร์ ริเบยโร่ เอเยนต์ดาวยิงทีมชาติบราซิล ยืนยันว่าแข้งวัย 20 ปีจะอยู่กับ ซานโต๊ส ต่อไปอีก 2 ปี
คีเรียกอส ปาปาโดปูลอสเซนเตอร์แบ็ควันเดอร์คิดของชาลเก้ 04 กำลังตกอยู่ในความสนใจของยูเวนตุสที่อยากดึงตัวไปคุมแนวรับฤดูกาลหน้า
ปราการหลังวัย 20 ปีเพิ่งขยายสัญญาอยู่กับ"ราชันชุดขาว"ไปจนถึงปี 2016 และมีมูลค่าในการย้ายทีมราว 12-14 ล้านยูโร
รายงานจากฟอร์ซ่าอิตาเลี่ยนฟุตบอลระบุว่าจูเซ็ปเป้ มาร็อตต้าผู้อำนวยการทั่วไปของ"เบียงโคเนรี่"จะพยายามดึงปาปาโดปูลอสไปเล่นที่ตูรินในฤดูกาลหน้า
ปาปาโดปูลอสติดทีมชาติกรีซชุดใหญ่ไปแล้ว 15 เกมโดยเขาย้ายจากโอลิมเปียกอสมาเล่นในเยอรมันตั้งแต่ปี 2010 และนอกจากยูเวนตุสแล้วก็ยังมีเอซี มิลานที่สนใจอยากได้ตัวด้วย
คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประธานบริหาร บาเยิร์น ระบุ กุนซือ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กับ มัทธีอัส ซามเมอร์ ผอ.กีฬาสโมสร ได้ยุติความบาดหมางระหว่างกันแล้ว เผย เหล่าคนใหญ่คนโตของ "เสือใต้" มีการพูดคุยกันแบบเปิดอกสุดๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้
รุมเมนิกเก้ เอ่ยปากยืนยัน เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เทรนเนอร์จอมแท็กติก และ มัทธีอัส ซามเมอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร ได้ยุติการโต้เถียงกันต่อที่สาธารณะแล้ว หลังจากทั้งคู่เคยมีปากเสียงกันอย่างหนัก ภายหลังเกมที่ "เสือใต้" บุกไปพิชิต แวร์เดอร์ เบรเมน 2-0 ถึงถิ่น เวเซอร์ สตาดิโอน เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ซามเมอร์ ออกมาวิจารณ์บรรดาแข้ง บาเยิร์น ผ่านสื่อว่า พวกเขาเล่นกันได้แย่มากๆ ในช่วงครึ่งแรกของเกมนัดดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ ไฮย์เกส ไม่อาจอยู่เฉยได้ และตอกกลับอดีตกุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ด้วยการบอกว่า การแสดงความคิดเห็นแบบนี้ควรจะทำกันอย่างลับๆ ภายในสโมสรดีกว่า
เรื่องดังกล่าว ทำให้มีบางฝ่ายเกรงว่า อาจเกิดความบาดหมางภายในทัพ "เสือใต้" ก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายแล้ว เมื่อล่าสุดภาพจากกล้องโทรทัศน์ถ่ายให้เห็นในตอนที่ ไฮย์เกส และ ซามเมอร์ จับมือแสดงความยินดีต่อกันอย่างชื่นมื่น หลังจากที่ ฟร้องค์ ริเบรี่ ปีกตัวเก่งของ บาเยิร์น ทำประตูให้ทีมขึ้นนำ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไปก่อน 1-0 ในเกมลีก ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ ริเบรี่ จะมาบวกสกอร์ให้เจ้าถิ่นได้อีกลูก ทำให้ บาเยิร์น คว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0
จากภาพอันสวยงามดังกล่าว ทำให้ รุมเมนิกเก้ การันตีว่า การโต้เถียงกันต่อหน้าธารกำนัลระหว่าง ไฮย์เกส และ ซามเมอร์ ได้ยุติลงแล้ว โดยอดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันตะวันตก ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมืองเบียร์ หลังจบเกมที่ "เสือใต้" เปิดรังทุบ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ว่า "ผมคิดว่า เรามีการพูดคุยกันที่ดีมากๆ และเป็นการสนทนากันแบบเปิดอกตรงไปตรงมาสุดๆ ด้วย"
"เท่าที่เราคิดกันนั้น ตอนนี้เรื่องดังกล่าวได้สิ้นสุดลงไปแล้ว และผมคิดว่า สื่อก็ควรที่จะทำหน้าที่ที่ดี เพื่อยุติสงครามเล็กๆ นี้เช่นกัน มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่พวกเขามีความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และมีท่าทางที่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งผมรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี้มาก" รุมเมนิกเก้ เผย
ไรอัน มัวร์ โปรชาวอเมริกัน เก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ ทำให้สกอร์รวมเพิ่มเป็น 24 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์กอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ เป็นครั้งที่ 2 ในอาชีพของตัวเอง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยทิ้งห่าง เบรนดอน เด ยองเก จากซิมบับเว และ โจนาส บลิกซ์ท จากสวีเดน อันดับ 2 และ 3 อยู่ 1 และ 3 สโตรค ตามลำดับ
ศึกกอลฟ์พีจีเอ ทัวร์ รายการ "จัสติน ทิมเบอร์เลค ไชร์เนอร์ ฮอสพิทอลส์ ฟอร์ ชิลด์เดรน โอเพน" ชิงเงินรางวัลรวม 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 135 ล้านบาท) ณ สนามทีพีซี ซัมเมอร์ลิน ระยะ 7,223 หลา พาร์ 71 เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการดวลวงสวิงรอบสุดท้าย
ผลปรากฏว่า ไรอัน มัวร์ โปรกอล์ฟเจ้าถิ่น หวดเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 7 เบอร์ดี เสีย 2 โบกี สกอร์รวม 24 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง ตามด้วย เบรนดอน เดอ ยองเก จากซิมบับเว เก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี สกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 2 และ โจนาส บลิกซ์ท สวิงแดนไวกิง หวดเพียง 1 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 2 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี เข้าป้ายอันดับ 3
ด้าน เจสัน เดย์ โปรออสซี หวดเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 8 เบอร์ดี เสีย 1 ดับเบิลโบกี สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 4 ตามด้วย บิลล์ ลันเด สวิงแดนมะกัน เก็บอีก 5 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี ไม่เสียโบกี สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ เข้าป้ายอันดับ 5 ด้าน สก็อตต์ เพียร์ซี โปรเมืองลุงแซม เก็บเพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 8 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบที่ 6 ร่วมกับ ริชาร์ด เอช. ลี โปรเจ้าถิ่น ซึ่งเก็บเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 7 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี โดยมีสกอร์รวมเท่ากันที่ 14 อันเดอร์พาร์
ขณะที่ เบลค อดัมส์ โปรแดนลุงแซม เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 2 โบกี จบอันดับ 8 ร่วมกับ เจสัน บอห์น ซึ่งหวดเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 4 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี กับ 1 ดับเบิลโบกี และมีสกอร์รวมเท่ากันที่ 13 อันเดอร์พาร์ ส่วน นิค วัตนีย์ สวิงเจ้าถิ่น หวดเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี จบอันดับ 10 ร่วมกับ จิมมี วอล์คเกอร์ และ ทิม เฮอร์รอน โดยมีสกอร์รวมเท่ากันที่ 12 อันเดอร์พาร์
แบรนเดน เกรซ โปรกอล์ฟชาวแอฟริกาใต้ หวดเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ ส่งผลให้สกอร์รวมเพิ่มเป็น 22 อันเดอร์พาร์ ผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟ อัลเฟรด ดันฮิลล์ ลิงค์ส แชมเปียนชิป เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ทิ้งห่าง ธอร์บียอร์น โอเลเซน และ อเล็กซานเดอร์ โนเรน ซึ่งตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 อยู่ 2 และ 4 สโตรค ตามลำดับ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา
ศึกกอล์ฟยูโรเปียน ทัวร์ รายการ "อัลเฟรด ดันฮิลล์ ลิงค์ส แชมเปียนชิป" ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 150 ล้านบาท) เป็นรายการดวลวงสวิงกันบน 3 สนามชื่อดังของสกอตแลนด์ อาทิ เซนต์ แอนดรูวส์, สนามคาร์นุสตี และ สนามคิงส์บาร์นส์ ในเมืองไฟฟ์ สกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 4-7 ต.ค. โดยวันนี้เป็นการลงดวลสวิงรอบสุดท้าย โดยใช้สนาม เซนต์ แอนดรูว์ เป็นสังเวียนตัดสินแชมป์
ผลปรากฏว่า แบรนเดน เกรซ โปรกอล์ฟชาวแอฟริกัน เก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมเงินรางวัลราว 620,000 ยูโร (ประมาณ 24.8 ล้านบาท) ตามด้วย ธอร์บียอร์น โอเลเซน ก้านเหล็กชาวเดนมาร์ก หวดเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 2 รับเงินไปราว 412,000 ยูโร (ประมาณ 16.5 ล้านบาท) ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ โนเรน สวิงแดนไวกิง เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 4 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี เข้าป้ายอันดับ 3 รับเงินราว 230,000 ยูโร (ประมาณ 9.2 ล้านบาท)
ด้าน โจเอล สโจฮอล์ม โปรเลือดสวีดิช เก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 5 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ เข้าป้ายอันดับ 4 รับเงินราว 185,000 ยูโร (ประมาณ 7.4 ล้านบาท) และ ราฟาเอล จาคเคอแล็ง สวิงแดนน้ำหอม หวดเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 6 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี จบอันดับ 5 ร่วมกับ คริส วูด โปรอังกฤษ ซึ่งเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 4 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี โดยมีสกอร์รวมเท่ากันที่ 15 อันเดอร์พาร์ รับเงินคนละ 102,000 ยูโร (ประมาณ 4.08 ล้านบาท)
ส่วนผลงานของ นักกอล์ฟชาวไทย มีดังนี้ "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี หวดเกิน 1 โอเวอร์พาร์ จากการทำ 1 เบอร์ดี เสีย 2 โบกี สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ หล่นมาอยู่ที่ 15 ร่วม รับเงินราว 48,000 ยูโร (ประมาณ 1.92 ล้านบาท) ด้าน "โปรพาย" ปริยะ ชุณหสวัสดิกุล ไม่ผ่านตัดตัวในการหวดรอบสุดท้าย
มาแล้วสำหรับ กำหนดบิน 7 นักตบสาวไทยชุดแชมป์เอเชียนคัพ 2012 เพื่อร่วมเล่นลีกอาเซอร์ไบจาน ให้กับสโมสรอิกติซาดชิ บากู ออกเดินทางในวันที่ 9 ต.ค. นี้ สายการบินอุซเบกิสถาน แอร์เวย์ เวลา 06.55 น. เตรียมลงสนามนัดแรก 22 ต.ค. นี้ ด้าน วรรณา บัวแก้ว เผย ไม่ตื่นเต้น แต่รู้สึกวาบหวิวนิดหน่อย เพราะไปนานร่วม 6 เดือน ส่วนตอนนี้ต่างคนต่างเตรียมของสำหรับเดินทาง
ความเคลื่อนไหวนักตบสาวทีมชาติไทย ชุดแชมป์เอเชียนคัพ 2012 ที่จะเดินทางไปร่วมเล่นวอลเลย์บอลอาชีพ ให้กับสโมสร อิกติซาดชิ บากู ที ทีมลีกของประเทศอาเซอร์ไบจาน ซึ่งจะเปิดฤดูกาลแข่งขันนัดแรกวันที่ 22 ต.ค. 55
ล่าสุดนักตบสาวไทยทั้ง 7 คน ประกอบด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา และ วรรณา บัวแก้ว ได้ดำเนินการเรื่องเอกสารเดินทางเป็นที่เรียบร้อย และมีกำหนดเดินทางในวันที่ 9 ต.ค. นี้ ด้วยสายการบินอุซเบกิสถาน แอร์เวย์ เวลา 06.55 น.
โดย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีมชาติไทย เผยว่า ตอนนี้ยังไม่รู้โปรแกรมอะไรเลย รู้เพียงว่าต้องลงแข่งขันนัดแรกในวันที่ 22 ตุลาคม ส่วนรายละเอียดอื่นๆ หรือโปรแกรมการซ้อมต้องรอให้ไปถึงก่อนและทางทีมงานเขาจะแจ้งเราอีกที
"หลังกลับจากเอเชียนคัพ และเพลาๆ จากการเดินสาย ก็ได้นัดซ้อมกันเองที่อาร์แบค โดยส่วนตัวของตัวเองก็เล่นเวตเอง และวิ่งออกกำลังกาย ซึ่งเพื่อนๆ ในทีมทุกคนก็เหมือนกันต้องดูแลตัวเองออกกำลังกาย เพราะเราไม่รู้ว่าไปที่นู้นโค้ชจะซ้อมแบบไหน และสไตล์การเล่นจะต้องทำยังไง ก็คงต้องไปปรับกันอีกที" วิลาวัณย์ กล่าว
ขณะที่ วรรณา บัวแก้ว ผู้เล่นตัวรับอิสระ ที่ห่างหายจากการเล่นวอลเลย์บอลอาชีพในต่างประเทศมา 2 ปี เผยว่า ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นในเรื่องของการเดินทาง หรือการไปอยู่กับสโมสรของอาเซอร์ไบจาน เพราะอย่างน้อยสองปีที่แล้วเราก็เคยไปอยู่ที่นั่น แต่มันรู้สึกหวิวเล็กน้อยตรงที่ไปนานตั้งหกเดือน แต่โชคดีอย่างคือไปกันทั้งทีม คงไม่เหงามาก แต่ถ้าไปคนเดียวและเวลานานแบบนี้คงน้ำตาตกในเหมือนกัน
"จริงๆ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก แค่เตรียมซื้อข้าวของที่จำเป็น เพราะเราไปปกติเหมือนเวลาไปแข่งขันต่างประเทศ ไม่ได้ซีเรียสอะไร ส่วนที่ผ่านมาหลังจากพักออกงานเราก็ซ้อมกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่น่ามีอะไรให้กังวล" วรรณา กล่าวทิ้งท้าย
"น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทยมือวางอันดับ 1 ของรายการ คว้าแชมป์ "เอสซีจี ออลไทยแลนด์ แชมเปียนชิป 2012" หลังเอาชนะ "แนท" ณิชชาอร จินดาพล 2-0 เกม พร้อมอุทิศแชมป์และเงินรางวัลให้ ด.ต.ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ อดีตโค้ชและนักตบขนไก่ทีมชาติที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด
การแข่งขันแบดมินตันรายการ "เอสซีจี ออลไทยแลนด์ แชมเปียนชิป 2012" หรือชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยประจำปี 2555 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมเงินรางวัลรวม 550,000 บาทที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมการขับเคี่ยวดำเนินมาถึงวันสุดท้ายรอบชิงชนะเลิศ
ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ประเภทหญิงเดี่ยวเป็นการชิงกันระหว่าง รัชนก อินทนนท์ (บ้านทองหยอด) กับ ณิชชาอร จินดาพล (รอยัล สตาร์) ปรากฏว่า "น้องเมย์" ดีกรีมือ 10 ของโลกสมราคาเอาชนะ 2-0 เกม 21-12, 21-14 คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ไปครองพร้อมรับเงินรางวัล 44,000 บาท ส่วน ณิชชาอร คว้ารองชนะเลิศเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันรับเงินรางวัลปลอบใจ 22,000 บาท
หลังเกมการแข่งขัน รัชนก เผยว่า "รู้สึกดีใจที่คว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้เป็นสมัยที่สองได้สำเร็จและขอมอบแชมป์กับเงินรางวัลให้กับ พี่ปราโมทย์กับครอบครัว สำหรับรูปเกมนั้นในตอนแรกไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่นัก เพราะพี่แนท ณิชชาอร มีฝีไม้ลายมือที่ดีมาก แต่เหมือนวันนี้ตีเสียเองเยอะเกินไป จึงส่งผลให้คะแนนไหลอย่างรวดเร็วเช่นนี้"
"สำหรับการแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลกปีนี้ที่ญี่ปุ่นนั้น เมย์ ขอถอนตัวไปแล้วเพราะอยากเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ขึ้นมาเล่นและเสริมสร้างประสบการณ์ แต่ปีหน้าที่จะจัดที่ประเทศไทยนั้นตนก็พร้อมกลับมาเล่นให้กับทีมชาติอย่างแน่นอน" สาวน้อยวัย 17 ปีเผยทิ้งท้าย
ส่วนผลการแข่งขันประเภทคู่ผสม ปฏิพัทธ์ ฉลาดแฉลม กับ สาวิตรี อมิตรพ่าย (บ้านทองหยอด/เสนานิคม) มือวางอันดับ 3 ของรายการ ชนะ จ.ท.ฐิติพงษ์ ลาโพธิ์ กับ ร.อ.หญิงสราลีย์ ทุ่งทองคำ มืองวางอันดับ 2 จากทหารอากาศ 2-1 เกม 14-21, 21-14 และ 21-18 ประเภทชายเดี่ยว พิสิษฐ์ พูดฉลาด (บ้านทองหยอด) มือ 4 ชนะ สิทธิคม ธรรมศิลป์ (เอ็นจอย) 2-0 เกม 21-19 และ 21-15
ตามมาด้วยประเภทชายเดี่ยว พิสิษฐ์ พูดฉลาด จากบ้านทองหยอด ซึ่งพบกับ สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ จากเอ็นจอย ก่อนพิสิษฐ์ชนะไป2-0 21-19 ,21-15 คว้าแชมป์ชายเดี่ยวไปครอง มาที่ประเภทหญิงคู่ ณริฎษาพัชร แลม-ร.อ.หญิงสราลีย์ ทุ่งทองคำมือวางอันดับ 3 จากบ้านทองหยอดและทหารอากาศ เป็นฝ่ายชนะทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย-สาวิตรี อมิตรพ่าย มือวางอันดับ2 จากตรีเลิศและเสนานิคม 2-1 เกม 21-13 12-21 21-15
สุดท้ายในประเภทชายคู่ บดินทร์ อิสระ-มณีพงศ์ จงจิตร(แกรนูล่า/ภูเก็ต) ชนะพิสิษฐ์ พูดฉลาด-สุดเขต ประภากมล(บ้านทองหยอด) 2-0 เกม 24-22, 21-18 คว้าเงินรางวัล 44,000 บาท
