ถึงแม้จะจบฤดูกาลแบบมือเปล่า แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมฟุตบอลที่ตราสินค้ามีมูลค่าสูงสุดอันดับ 1 ของโลก ตามการจัดของ "แบรนด์ ไฟแนนซ์" ขณะที่ บาเยิร์น รองแชมป์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2011-12 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 โดยเจ้าหน้าที่ของ "แบรนด์ ไฟแนนซ์" ชี้ ทีมลูกหนังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจมากเลยทีเดียว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเป็นทีมฟุตบอลที่แบรนด์มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดของโลก จากการที่ในด้านดังกล่าวของพวกเขามีมูลค่าถึง 543 ล้านปอนด์ (ประมาณ 27,150 ล้านบาท) ตามการจัดอันดับของ "แบรนด์ ไฟแนนซ์" ถึงแม้พวกเขาจะจบฤดูกาล 2011-12 ด้วยการที่ไม่มีแชมป์ติดมือเลยก็ตาม
นี่นับเป็นอีกครั้งที่ทีมของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยึดตำแหน่งแชมป์ในด้านดังกล่าวเอาไว้ได้ ในขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากเวทีบุนเดสลีกา เยอรมัน โดยถึงแม้ "เสือใต้" จะชวดการได้แชมป์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการดวลจุดโทษแพ้ เชลซี 3-4 หลังจบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่แบรนด์ของพวกเขาก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 186 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,300 ล้านบาท)
จากเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้มูลค่าตราสินค้าทางการตลาดโดยรวมของ บาเยิร์น ขึ้นมาอยู่ที่ 499 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,950 ล้านบาท) เลยทีเดียว แต่ แม็ตต์ ฮันนาแกน นักวิเคราะห์การประเมินราคาของแบรนด์ในวงการกีฬา เตือนเหล่ายักษ์ใหญ่จากลีกเมืองเบียร์ว่า พวกเขาต้องขยายแบรนด์ให้กว้างกว่านี้ ไม่งั้นก็ต้องถูกแซงในอนาคตแน่ "บาเยิร์น จำเป็นต้องเริ่มสร้างแบรนด์ของพวกเขาในตลาดใหม่ๆ ไม่งั้นพวกเขาก็ต้องถูกทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น จากการพึ่งพาฐานแฟนบอลภายในประเทศของพวกเขามากเกินไป"
ขณะที่ เดวิด ไฮจ์ ประธานบริหารของ "แบรนด์ ไฟแนนซ์" เสริมว่า ทั้ง "ปีศาจแดง" และ "เสือใต้" มีแผนทางการตลาดที่ต่างกันอย่างมาก "ทีมใน 2 อันดับแรกมีปฏิบัติการในกลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างกัน บาเยิร์น ให้ความสำคัญกับฐานแฟนบอลในประเทศเป็นอันดับแรก ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจไปที่โอกาสในการทำตลาดไปทั่วโลก"
ทั้งนี้ถึงแม้ เรอัล มาดริด แชมป์ศึก ลา ลีกา สเปน ทีมล่าสุด กับ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ จะครองความสำเร็จในโลกลูกหนัง และสร้างชื่อเสียงได้อย่างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่ก็ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศ จากการที่ สเปน มีจำนวนผู้ว่างงานเยอะ จนทำให้เกิดผลเสียกับทั้งเงินที่ได้จากตั๋วเข้าชม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เวลาดูเกมในสนาม จนส่งผลให้ "ราชันชุดขาว" ตกจากอันดับ 2 มาอยู่ที่ 3 ส่วน "เจ้าบุญทุ่ม" หล่นจากอันดับ 3 มาอยู่ที่ 4
สำหรับรายชื่อทีมอื่นๆ ที่น่าสนใจนั้น เชลซี แชมป์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมล่าสุด ยังคงอยู่ในอันดับ 5 ขณะที่ อาร์เซน่อล อยู่ในอันดับ 6 ตามเดิม ส่วน ลิเวอร์พูล แชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาล 2011-12 ขยับมาอยู่ที่ 7 ด้านอันดับ 8 ตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เวทีพรีเมียร์ลีก ทีมล่าสุด ที่กระโดดขึ้นมาจากอันดับ 11 ขณะที่ เอซี มิลาน ตกมาอยู่อันดับ 7 ส่วน ชาลเก้ 04 ขึ้นมาอยู่ที่ 10 โดย ไฮจ์ เชื่อว่า ทีมฟุตบอลได้รับผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจมากเลยทีเดียว
"การศึกษาในปีนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้แต่วงการฟุตบอลก็ไม่รอดจากวิกฤตค่าเงินยูโร ซึ่งเรื่องนั้นดูได้จากการที่ทีมจากสเปน และ อิตาลี โดนผลกระทบหนักที่สุด" ไฮจ์ ระบุ
รายชื่อทีมฟุตบอล 10 อันดับแรก ที่แบรนด์ทางการตลาดมีมูลค่าสูงสุด จากการจัดอันดับในปี 2012
อันดับล่าสุด อันดับปีก่อน ทีม มูลค่าแบรนด์โดยรวม
1. 1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 543 ล้านปอนด์ (ประมาณ 27,150 ล้านบาท)
2. 4. บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 499 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,950 ล้านบาท)
3. 2. เรอัล มาดริด (สเปน) 381 ล้านปอนด์ (ประมาณ 19,050 ล้านบาท)
4. 3. บาร์เซโลน่า (สเปน) 368 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,400 ล้านบาท)
5. 5. เชลซี (อังกฤษ) 253 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,650 ล้านบาท)
6. 6. อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 246 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,300 ล้านบาท)
7. 9. ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 233 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,1650 ล้านบาท)
8. 11. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 192 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,600 ล้านบาท)
9. 7. เอซี มิลาน (อิตาลี) 185 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,250 ล้านบาท)
10. 12. ชาลเก้ 04 (เยอรมนี) 167 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,350 ล้านบาท)
ข่าวเด็ดข่าวดังเพิ่มเติมได้ ที่นี่