วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

AS Monaco - Lens FRANCE LIGUE 2 12bet 02.30 น. 30/1/12








ทรรศนะความน่าจะเป็นของเกม
เป็นสองทีมท้ายตารางมาพบกัน เจ้าถิ่นโมนาโกต้องการสามแต้มเพื่อถีบตัวเองให้พ้นโซนตกชั้นให้ได้ วันนี้เป็นโอกาสดีซะด้วยเนื่องจากได้เล่นในบ้านซึ่งที่ผ่านมาแม้ผลงานจะไม่ดีเลย แต่ว่าเมื่อเทียบกับล็องส์ที่ชนะนอกรังแค่สองนัดในรอบสิบห้าเกมแล้ว ต้องบอกว่านี่เป็นโอกาสที่จะคว้าสามแต้มของเจ้าถิ่นชัดๆ มองแล้วโมนาโกที่ชนะเกมลีกมาสองเกมติดความมั่นใจเต็มเปี่ยมประกอบกับเจอกับคู่แข่งสมน้ำสมเนื้อ มั่นใจเบียดชนะได้
ฟันธง สกอร์ สูง/ต่ำ
ระดับความมั่นใจ
โมนาโก 2-1 ล็องส์
สูง
โมนาโก 68%








Kayserispor - Besiktas JK TURKEY SUPER LEAGUE 12bet 01.00 น. 30/1/12








ทรรศนะความน่าจะเป็นของเกม


เบซิคตัส กำลังท็อปฟอร์มชนะรวดมา 4 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการจนตอนนี้มีแต้มห่างจาก กาลาตาซาราย ทีมจ่าฝูงแค่ 5 แต้มเท่านั้น  ไปเยือน เคย์เซริสปอร์ ที่ชนะในลีกเพียงหนเดียวจาก 5 เกมหลังสุด ดูแล้วทีมเยือนที่มีแนวรุกจัดจ้านจากโปรตุเกสทั้ง ฮูโก้ อัลเมด้า, ซิเมา และ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า รวมถึงแรงจูงใจที่จะทำแต้มทาบจ่าฝูงน่าจะเป็นฝ่ายบุกทะลวงแนวรับเจ้าถิ่น คว้า 3 แต้มไปครองได้ในเกมนี้




ฟันธง สกอร์ สูง/ต่ำ
ระดับความมั่นใจ
เคย์เซริสปอร์ 1-3 เบซิคตัส
สูง
ระดับความมั่นใจ
เคย์เซริสปอร์ 1-3 เบซิคตัส
สูง
เบซิคตัส 70%










Maritimo - Sporting Braga PORTUGAL SUPERLIGA 12bet 03.15 น. 30/1/12





ทรรศนะความน่าจะเป็นของเกม




ทั้งสองทีมฟอร์มกำลังพีคทั้งคู่ อย่างไรก็ตามบราก้าดูจะเหนียวแน่นกว่าเพราะไร้พ่ายต่อเนื่องมาเก้าเกมแล้วแถมชนะได้ถึงแปดเกม อย่างไรก็ตามมาริติโม่เฝ้ารังผลงานเยี่ยมสิบห้านัดหลังสุดแพ้แค่สองเกมเท่านั้น ส่วนนอกรังของบราก้างั๊นๆ มั่นใจมาริติโม่ไม่แพ้
ฟันธง สกอร์ สูง/ต่ำ
ระดับความมั่นใจ
มาริติโม่ 2-2 บราก้า
สูง
มาริติโม่ 70%







Osasuna - Atletico Madrid SPAIN PRIMERA LALIGA 12bet 03.00 น. 30/1/12






เปรียบเทียบความพร้อมของทีม
  โอซาซูน่า : 
โอซาซูน่าตามตีเสมอบาเลนเซีย 1-1 ได้อย่างเหลือเชื่อในเกมที่แล้ว ด้วยประตูในช่วงนาทีสุดท้าย ทำให้ไม่แพ้คาบ้านเป็นนัดที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ผลงานช่วงหลังของ ''ลอส โรฆิยอส'' แผ่วลงไป ไม่ชนะมา 6 เกมในทุกรายการ

สภาพทีมโดยรวม โอซาซูน่าไม่มีปัญหาผู้เล่นเจ็บเพิ่ม จาวัด เนกูนาม มิดฟิลด์ทีมชาติอิหร่าน ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมบู๊ค้างคาว เมื่อสัปดาห์ก่อน ผ่านความฟิตมีชื่อติดทีมและน่ายึดตำแหน่งตัวจริงเหมือนเดิม

แต่กลุ่มที่เจ็บก่อนแล้วอย่าง รูเบน กอนซาเลซ, มาซูด โชจาอี้, เอชายเด้, กีเก้ โซล่า, โรแวร์ซิโอ รวมถึง อับราฮิม่า บาลเด้ ยังคงชวดต่อไป โดยรายหลังสุดเป็นอดีตแข้งของตราหมีด้วย ทำให้เจ้าตัวหมดสิทธิ์ลงบู๊กับทีมเก่าทันที

ส่วนกลุ่มที่ถูกตัดชื่อออกไปด้วยเหตุผลทางแท็กติกคือ ริการ์โด้ โลเปซ ผู้รักษาประตู และ ยุคก้า รายตาล่า แบ็กซ้ายชาวฟินแลนด์ โดยรายหลังสุดเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ยังไม่ฟิตเท่าที่ควร ซึ่งนับเป็นเกมที่สามติดต่อกันแล้วที่ทุกคู่หลุดโผในทีมของ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ เทรนเนอร์

โอซาซูน่าจะเล่นภายใต้ระบบ 4-2-3-1 อันเดรส เฟร์นานเดซ รับหน้าที่มือหนึ่งของทีม แบ็กขวาเป็น มาร์ก เบร์ตราน ที่น่าเบียด ดาเมีย เป็นตัวจริงต่อไป ขณะที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ เซร์คิโอ ประสานงานกับ มิเกล ฟลานโย่ ฝั่งซ้ายเป็น เอเนโก้ ซาตรูสเตกุย

มิดฟิลด์ตัวตัดเกมใช้ ฟรานซิสโก้ ปูนยาล กัปตันทีมและ จาวัด เนกูนาม ปีกขวาให้ อัลบาโร่ เซฆูโด้ ลากเลื้อยร่วมกับ ราอูล การ์เซีย โดยอีกฝั่งเป็น โรลันด์ ลามาห์ จอมลุยชาวเบลเยียม หน้าเป็นเป็น นีโน่ โดยมี เดยัน เลกิช เป็นตัวสอดแทรก
แอต.มาดริด : 
''ตราหมี'' แอต.มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ใหม่ชาวอาร์เจนไตน์ ลงเล่นไปแล้ว 3 เกมโดยชนะ 2 เสมอ 1 และยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว นัดที่แล้วระเบิดฟอร์มสุดยอด บุกถล่มเรอัล โซเซียดาดขาดลอยถึง 4-0 

เกมนี้ ''ลอส โรฆิบลังกอส'' หมดสิทธิ์ใช้บริการของ กาบี และ ดีเอโก้ รีบาส สองผู้เล่นแดนกลางที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบทั้งคู่ แต่จะได้ ติอาโก้ เมนเดส มิดฟิลด์โปรตุกีส พ้นโทษแบนสวนทางกลับมาช่วยทีมได้ 

ทางด้าน อันโตนิโอ โลเปซ แบ็กซ้ายกัปตันทีมไม่หายเจ็บ ชวดบู๊ต่อไป โดยกลุ่มที่ถูกตัดออกไปด้วยเหตุผลทางแท็กติกคือ โฆเอล ผู้รักษาประตู และ ซิลวิโอ เปเรยร่า แบ็กขวาโปรตุเกส ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์

ในส่วนของแผนการเล่น การขาด ดีเอโก้ ในการปั้นเกมรุก ทำให้โอกาสอาจตกเป็นของ ซาลวิโอ หรือ โกเก้ ที่ทำหน้าที่ปั้นเกมรุกร่วมกับ อาร์ดา ตูราน ปีกตุรกี ที่ฟอร์มโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ และ อาเดรียน โลเปซ ที่ขยับมาเล่นปีกขวาอย่างต่อเนื่อง โดยหน้าเป้าจะเป็น ราดาเมล ฟัลเกา ศูนย์หน้าฟอร์มร้อนชาวโคลอมเบียที่ซัด 5 ประตูจาก 2 เกมหลังสุด

ทางด้านแบ็กขวา ฆวนฟราน จะถูกจับมาเล่นต่อไป หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา โดยเกมนี้ ซิเมโอเน่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเรียก เปโดร มาร์ติน กองหน้าจากทีมชุดเล็ก ขึ้นมาติดทีมอีกครั้ง และนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ่ายอัลบาเซเต้ ในเกมโกปา เดล เรย์ ด้วย
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


โอซาซูน่า : 
(4-2-3-1) : อันเดรส เฟร์นานเดซ - มาร์ก เบร์ตราน, เซร์คิโอ, มิเกล ฟลานโย่, เอเนโก้ ซาตรูสเตกุย - ฟรานซิสโก้ ปูนยาล, จาวัด เนกูนาม - อัลบาโร่ เซฆูโด้, ราอูล การ์เซีย, โรลันด์ ลามาห์ - นีโน่ (เดยัน เลกิช)


แอต.มาดริด : 
(4-2-3-1) : ติโบว์ กูร์กตัวส์ - ฆวนฟราน, เชา มิรันด้า, ดีเอโก้ โกดิน, เฟลิเป้ หลุยส์ - ติอาโก้ เมนเดส, มาริโอ ซูอาเรซ - อาเดรียน โลเปซ, เอดูอาร์โด้ ซาลวิโอ (โกเก้), อาร์ด้า ตูราน - ราดาเมล ฟัลเกา


วิจารณ์เกมการแข่งขัน
แอตเลติโก มาดริด คว้าชัยมาได้สองเกมติดเรียกความมั่นใจมาได้เยอะ เกมนี้ดูแล้วไม่ง่ายเลยที่จะบุกมาเอาชนะ โอซาซูน่า เพราะเจ้าถิ่นฤดูกาลนี้เล่นในรังได้ดีมากแพ้เพียงแค่นัดเดียว เชื่อว่ารูปเกมสูสีก่อนจะเสมอกันไปอย่างสนุก










คลิป:มอบเหรียญไทยลีกสุดยิ่งใหญ่ ธีราธรเป็นประธาน

หลังจาก บุรีรัมย์ พีอีเอ คว้าแชมป์ สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก มาครองได้สำเร็จ และไม่ขึ้นไปรับถ้วยแชมป์ในนัดส่งท้ายที่เสมอกับ เชียงราย ยูไนเต็ด 2-2 ซึ่งทางสมาคมได้จัดพิธีการมอบถ้วยแชมป์และเหรียญรางวัลไว้ให้ แต่เจ้าของแชมป์ไทยลีกทำแสบด้วยการส่งเพียงเจ้าหน้าที่ทีมเพียง 2 คนเป็นตัวแทนขึ้นไปรับถ้วย หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขุนพล “ปราสาทสายฟ้า” ได้ทำพิธีมอบเหรียญให้นักฟุตบอลที่สนามบินเชียงราย โดยมี “ธีราธร มอญยันหลัก” เป็นประธานในพิธีมอบเหรียญสุดฮาในครั้งนี้










จับติ้วเอฟเอ!หงส์รับไบรท์ตัน-สิงห์ฟัดเดอะบลูส์ #12bet



   หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจองานไม่หนักในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 5 หลังจับสลากได้เปิดถิ่น แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ขณะที่ เชลซี พบ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต้องออกไปเยือน สตีฟเนจ 


        สรุปผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา โดยจะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ 

- ลิเวอร์พูล พบ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
- เอฟเวอร์ตัน พบ แบล็คพูล หรือ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์
- เชลซี พบ เบอร์มิงแฮม ซิตี้
- ครอวลี่ย์ ทาวน์ พบ สโต๊ค ซิตี้
- สตีฟเนจ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- นอริช ซิตี้ พบ เลสเตอร์ ซิตี้
- ซันเดอร์แลนด์ หรือ มิดเดิ้ลสโบรช์ พบ อาร์เซน่อล หรือ แอสตัน วิลล่า
- มิลล์วอลล์ หรือ เซาธ์แฮมป์ตัน พบ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส









แคร์โรลล์ยันไม่เคยเสียใจที่ย้ายซบหงส์แดง #12bet






 แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันไม่เคยมีช่วงเวลาที่เสียใจเลยตลอดเวลา 1 ปีที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์มา แม้จะยังงัดฟอร์มเก่งไม่ได้เต็มที่ และตกเป็นข่าวย้ายทีมอยู่เป็นระยะ ชี้ทุกคนคอยสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี และตอนนี้เขาคุ้นเคยกับรูปแบบการเล่นของเพื่อนร่วมทีมแต่ละคนแล้ว




        แอนดี้ แคร์โรลล์ ศูนย์หน้าของ ลิเวอร์พูล ทีมยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่า เขาไม่เคยเสียใจที่ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มายังถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติถึง 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,750 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว หลังจากต้องประสบความยากลำบากตลอดช่วง 12 เดือนแรก และยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เต็มที่

        หัวหอกวัย 23 ปี ตกเป็นข่าวย้ายทีมอยู่เป็นระยะๆ โดยมักมีรายงานว่าเขาเตรียมจะกลับไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล และล่าสุดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็มีรายงานว่า ทัพ "หงส์แดง" เสนอเขาให้กับทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อแลกกับ คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ขณะที่สโมสรก็ปฏิเสธจะออกมาให้ความเห็นกับข่าวดังกล่าว

        เมื่อถูกถามว่า มีช่วงไหนบ้างมั้ยในรอบปีที่ผ่านมาที่รู้สึกเสียใจ หัวหอกอังกฤษ ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ กล่าวว่า "ไม่เลย สโมสรปฏิบัติต่อผมได้อย่างยอดเยี่ยม และทุกคนข้างนอกสโมสรก็น่าทึ่งมาก ผมสนุกสนานที่ได้มาที่นี่ ทุกคนหนุนหลังผม ช่วยเหลือเรามาตลอดเส้นทาง ผมเซ็นสัญญากับที่นี่ และนี่เป็นทีมที่ผมจะเล่นให้"

        แคร์โรล ที่เพิ่งทำไป 6 ประตู จาก 36 นัด ที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ก็มีส่วนสำคัญกับทั้ง 2 ประตู ในเกมที่ทีมเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 2-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และกล่าวอีกว่า "ผมคิดว่าผมทำได้ดี ทุกคนต่างก็ทำได้ดี แต่ผมต้องทำงานต่อไป และมันจะมาเอง ผมแค่จับจังหวะของผมได้แล้ว ทุกคนคุ้นเคยกับการเล่นของผม และผมคุ้นเคยกับการเล่นของทุกคน"

        "ทุกคนช่วยทีมสุดความสามารถ ทุกคนเล่นได้ดี และทีมสมควรชนะ ทุกคนพยายามอย่างหนัก และได้สิ่งที่เราต้องการในตอนท้าย แน่นอนว่ามันดีที่ช่วยให้เพื่อนทำประตูได้ แต่มันไม่สำคัญว่าใครจะช่วยหรือยิงประตู ตราบใดที่เราผ่านเข้ารอบโดยทุกคนทำได้ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเยือนที่นี่ และผู้เล่นทุกคนฮึกเหิม มันแสดงให้เห็นว่าทุกคนมุ่งมั่นกับเกมนี้ และเราได้ผลที่ต้องการ" กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ กล่าวปิดท้าย









อาร์วีพีเบิ้ลโทษ!ปืนรัวแซงวิลล่า3-2ฉลุยเอฟเอ #12bet



 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับบทเพชรฆาตรสังหารคนเดียวสองจุดโทษช่วย "ปืนใหญ่ " อาร์เซน่อล เปิดถิ่นไล่ยิงแซงเก็บชัยเหนือ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า แบบสุดมันส์ 3-2 ส่งผลให้ทัพปืนโตผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา


ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4
วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2555
อาร์เซน่อล 3      -      2 แอสตัน วิลล่า 

สนาม: อมิเรตส์ สเตเดี้ยม 

         "เดอะกันเนอร์ส" อาร์เซน่อล เปิดรังอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า ทำศึกเอฟเอคัพ โดยเกมนี้ เธียร์รี่ อองรี มีชื่อกลับมาเป็นตัวสำรองแล้ว โดยกองหน้ายังใช้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหอกคนสำคัญ ขณะที่ ทีมเยือน ใช้ สามประสาน กาเบรียล  อักบอนลาฮอร์,ร็อบบี้  คีน และ ดาร์เรน เบนท์ ล่าตาข่าย 


      เริ่มเกมมาเพียง5นาที เป็นฝ่ายเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ได้ยิงทักทายก่อน จากการได้ฟรีคิกระยะ 40 หลา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไหลให้ โธมัส แฟร์มาเล่น วิ่งมากดเต็มข้อ บอลพุ่งแรงตรงกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ เชย์ กิฟเว่น

     7นาทีต่อมา ธีโอ วัลค็อตต์ ใช้ความเร็ว พาบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ได้โอกาสซัด แต่บอลกลับหลุดกรอบไปแบบไม่มีลุ้น

     นาทีที่20 อาร์เซน่อล ได้ฟรีคิก ตรงกรอบเขตโทษอีกครั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้ยิง แต่บอลยังไม่ผ่านกำแพงของ แอสตันวิลล่า

     แต่แล้วนาทีที่32 กลายเป็นแฟนวิลล่าได้เฮกันก่อน เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย สเตลิยัน เปตรอฟ เล่นสั้นกับ ร็อบบี้  คีน ก่อน คีน จะเปิดหยอดไปที่หน้าประตู ให้ ริชาร์ด ดันน์ ขึ้นโขกเต็มหัวส่งบอลตุงต่าข่าย ให้ แอสตัน วิลล่า บุกนำก่อน 1-0

      10นาทีต่อมา อาร์เซน่อล มีลุ้นตีเสมอ จากความผิดพลาดของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ จ่ายบอลไม่ดีในกรอบเขตโทษของตัวเอง ถูก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ฉกบอล ก่อนพาไปยิง แต่ กิฟเว่น ยังเซฟไว้ได้

     นาทีต่อมา แอสตัน วิลล่า รับใบเหลืองไปก่อน เมื่อ ริชาร์ด ดันน์ ไปฟาวส์ใส่ โทมัส โรซิชกี้

     ช่วงท้ายครึ่งแรก แม้ อาร์เซน่อล จะแทบพับสนามบุกใส่ แต่ แอสตัน วิลล่า ก็มาได้ประตูเพิ่มจนได้ เมื่อได้ลูกสวนกลับอีกเช่นเคย ไอร์แลนด์ แทงบอลทะลุมาให้ ดาร์เรน เบนท์ กดด้วยเท้าขวาเสาแรก ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เซฟได้ในจังหวะแรก แต่บอลยังมาเข้าทางปืนของ เบนท์ ยิงสวนมุมแคบอีกครั้งเป็นประตูให้ วิลล่า นำห่าง 2-0

     ช่วงเวลาที่เหลือทำประตูกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก แอสตัน วิลล่า จึงบุกมานำ อาร์เซน่อล ก่อนถึง 2-0


     มาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลังเป็นทัพปืนโตที่เปิดเกมรุกหวังทวงประตูคืนให้โดยไวและเพียงแค่สองนาทีแรกได้ลูกแตะมุมถึงสองครั้งติดๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของสิงห์ผยองที่ช่วยกันลงไปตั้งรับไว้ได้


     นาทีที่ 49 ธีโอ วัลค็อตต์ กระชากบอลผ่านผู้เล่นทีมเยือนถึงสามคนเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายถูก ริชาร์ด ดันน์ แหย่บอลไปเข้ามือ เชย์ กิฟเว่น รับไว้ได้สบาย 




     นาทีที่ 51 โอกาสทองของทัพปืนโตเกิดขึ้นอีกครั้งจากการจ่ายบอลของ โทมัส โรซิชกี้ ผ่านไปให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปยิงแบบสุดเหยียดด้วยเท้าขวาบอลเบาเกินไปไหลเข้ามือ เชย์ กิฟเว่น นายด่านวิลล่ารับไว้สบายมือ จากจังหวะนี้กล้องจับไปที่ข้างสนาม ออรี ที่กำลังยืดกล้ามเนื้อถึงออกอาการเสียดายสุดๆ 




     นาทีที่ 52 เจ้าถิ่นมาได้ประตูไล่ตามเป็น 1-2 จากจังหวะที่ อารอน แรมซี่ย์ ถูก ริชาร์ด ดันน์ สะกัดฟาวน์ในเขตโทษและเป็น ฟานเพอร์ซี่ รับบทเพชรฆาตรสังหารเข้าไปไม่เหลือ


     นาทีที่ 57 ปืนโตที่โหมบุกอย่างหนักมาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จนได้จากจังหวะที่ วัลค็อตต์ กระชากไปถึงริมเส้นด้านหลังแล้วตัดสินใจยิงทันที แต่ไปติดเซฟของ เชย์ กิฟเว่น บอลยังไม่พ้นอันตรายไปเข้าทาง อลัน ฮัตตัน ที่พยายามแตะเคลียร์แต่บอลไปอัด วัลค็อตต์ อีกจังหวะบอลเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ


     นาที่ที่ 61 อาร์เซน่อล มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ แข้งปืนโตเลี้ยงเข้าไปในเขตโทษทำท่าว่าจะหลุดไปยิงเป็น ดาร์เรน เบนท์ วิ่งเข้ามาเสียบฟาวน์ชัดเจน ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ไม่รอช้าเป่าให้จุดโทษทันที และเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับบทสังหารเข้าไปไม่เหลือซากเช่นเคย และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมอีกด้วย


     เกมผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 65 ยังคงเป็นอาร์เซน่อล ที่พับสนามบุกแทบจะผ่านเดียวได้ลุ้นอีกจังหวะจากการดีดด้วยเท้าขวาของ โทรมัส โรซิชกี้ แต่บอลไปติดแผงหลังวิลล่าออกไป


     พลพรรคปืนโตเกือบได้เฮอีกครั้งในนาทีที่ 68 เมื่อ ธีโอ วัลค็อตต์ ใช้ความเร็วกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาของวิลล่าแล้วซัดด้วยเท้าขวาเต็มแรง บอลพุ่งตรงกรอบแต่เป็น เชย์ กิฟเว่น นายด่านทีมเยือนที่ทุบออกไปได้


     นาทีที่ 71 อาร์เซน่อลตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนแรกโดยส่ง มิเกล อาร์เตต้า ลงมาแทน โทมัส โรซิชกี้ และ แอสตัน วิลล่า ก็เปลี่ยนผู้เล่นเช่นกัน โดยเอา กาเบรียล  อักบอนลาฮอร์ ออกให้ แกรี่ การ์ดเนอร์ ลงมาแทน


     เกมผ่านพ้นมาถึง 15 นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ ยังคงเป็นทัพปืนโตที่เปิดเกมรุกโจมตีทีมเยือนได้อย่างต่อเนื่องโดยเกเมส่วนใหญ่จะเคลื่อนทาง ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เล่นได้โดดเด่นในเกมนี้


     นาทีที่ 80 โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ แผงหลังเจ้าถิ่นไปดึง ดาร์เรน เบนท์ ล้มลงก่อนแตะบอลอัดอีกจังหวะ ไมค์ โจนส์ ควักใบเหลืองให้โดยทันที


     สองนาทีถัดมา วิลล่าเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกหนึ่งคนโดยส่ง แบร์รี่ แบนเน่น ลงมาแทน สเตลิยัน เปตรอฟ


     นาทีที่ 89 อาร์เซน่อล ปรับแผนท้ายเกมโดยตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นถึง 2 คนพร้อมกัน โดยส่ง บาคารี่ ซานญ่า ลงมาแทน ธีโอ วัลค็อตต์ และ เธียร์รี่ อองรี ลงมาแทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน