แกเร็ธ เบล ปีกกระชากวิญญาณ ทีม "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ขอถอนตัวจากทีมลูกหนังสหราชอาณาจักร ชุดลุยศึกโอลิมปิก 2012 หรือ "ลอนดอนเกมส์" เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หลังและสะโพก กำเริบขณะซ้อม
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 30 มิ.ย. ว่า "แกเร็ธ เบล" ปีกกระชากวิญญาณของทีม "ไก่เดือยทอง" ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ขอถอนตัวจากทีมลูกหนังสหราชอาณาจักร ชุดลุยศึกโอลิมปิก 2012 หรือ "ลอนดอนเกมส์" เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกำเริบขณะซ้อม
โดย เบล ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในขุนพลของ "สจวร์ต เพียร์ช" กุนซือทีมสหราชอาณาจักร เพื่อเตรียมลงดวลแข้งในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ล่าสุด ปีกทีมชาติเวลส์ที่เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดไปหมาดๆ ถูกอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หลังและสะโพกกำเริบขึ้นมา ในขณะที่กำลังซ้อมเตรียมความพร้อมก่อนไปโอลิมปิก
และจากการถอนตัวกะทันหันครั้งนี้ื ทำให้เพียร์ชต้องรีบหาตัวแทนผู้เล่นริมเส้นคนใหม่อย่างแน่นอน เพื่อให้ทันเป้าหมายของเขาที่จะประกาศรายชื่อนักเตะอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้
สำหรับศึกลูกหนังโอลิมปิกที่จะถึงนี้ ทีมสหราชอาณาจักร ได้อยู่ในกลุ่มเอ และมีกำหนดเปิดสนามในวันที่ 26 กรกฎาคม โดยจะพบกับทีมเซเนกัล ตามด้วยทีมเอมิเรตส์ และทีมอุรุกวัย ตามลำดับ
ไรอัน กิกส์ ปีกจอมเก๋า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความผิดหวังที่ เดวิด เบคแคม อดีตเพื่อนร่วมทีม “ปิศาจแดง” ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ แอลเอ แกแล็กซี ไม่มีชื่อติดทีมฟุตบอลสหราชอาณาจักรชุดเตรียมสู้ศึก กีฬาโอลิมปิก “ลอนดอน เกมส์ 2012” ในช่วงซัมเมอร์นี้
อย่างไรก็ตาม กิกส์ ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า น่าจะมีชื่อเป็น 1 ใน 3 นักเตะโควตาอายุเกิน 23 ปี ของ “ทีม GB” ยืนยันว่า เขาเคารพการตัดสินใจของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ ผู้จัดการทีมสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มที่ในการเลือกตัวผู้เล่น
“ในฐานะอดีตเพื่อนร่วมทีม และเพื่อนของ เดวิด ผมรู้สึกผิดหวังแทนเขาจริงๆ ผมหวังว่า เขาจะอยู่ในทีมของเรา แต่การเลือกทีมที่มีลุ้นคว้าเหรียญทองเป็นงานของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ และนั่นคือสิ่งที่เขาทำลงไป โชคร้ายที่ เดวิด ไม่ได้มีชื่อเป็น 18 คนสุดท้าย” กิกส์ กล่าว
คาร์เมโล แอนโธนีย์ ฟอร์เวิร์ดตัวเก่ง นิวยอร์ก นิกส์ คำรามพร้อมเจริญรอยตาม เลอบรอน เจมส์ เพื่อนร่วมทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในการคว้าแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มาครองให้จงได้
เห็นเพื่อนร่วม “ดรีมทีม” สหรัฐฯ อย่าง เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช นำไมอามี ฮีท ผงาดแชมป์ NBA ฤดูกาล 2011/12 ได้สำเร็จ จากชัยชนะที่มีเหนือ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 4-1 เกม ทำให้ คาร์เมโล แอนโธนีย์ วาดฝันมีความคิดอยากนำ นิวยอร์ก นิกส์ ประกาศศักดาเถลิงแชมป์บ้าง
โดย “เมโลแมน” เผยกับสื่อมะกันเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่น “เชื่อว่า เวลาของผมกำลังจะมาถึง ผมมีความเชื่ออันยิ่งใหญ่เช่นนั้น อาจเกิดขึ้นในปีนี้ (ซีซัน 2012/13) หรือในปีหน้า ผมเชื่อว่า มันจะเป็นเช่นนั้น และเรา (นิกส์) จะรักษาการเล่นที่ดีเอาไว้”
สำหรับ นิกส์ ฤดูกาลที่ผ่านมาเข้ารอบเพลย์ออฟ แต่ตกรอบแรกด้วยน้ำมือ ฮีท ซึ่งหลังซีซันรูดม่าน ไมค์ วูดสัน หัวหน้าโค้ชนิกส์ แนะนำให้ แอนโธนีย์ ลดน้ำหนักจากเดิม 239 ปอนด์ หรือประมาณ 106 กิโลกรัม ลงมาอีกสัก 12 ปอนด์ ซึ่งฟอร์เวิร์ดวัย 28 ปี เผยว่า “ผมและโค้ช (วูดสัน) คุยกันระหว่างซ้อม มีบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาอยากให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยในฤดูกาล 2012/13 สตาฟฟ์โค้ชจะได้ตกใจเมื่อน้ำหนักผมลดลง เราตื่นเต้นกับการทำงานของตัวเอง”
สุดท้าย “เมโลแมน” อยากให้ทั้งตัวเองและผองเพื่อนนิกส์ นำเอาแรงจูงใจแบบ “คิงเจมส์” ที่ตามหาแชมป์แรกมาตลอด 9 ปีที่เข้าลีก มาใช้เป็นแรงขับบ้าง “แรงจูงใจเป็นเรื่องน่าสนุก คงได้เห็นกันแล้วว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหนที่พวกเขา (ฮีท) เป็นแชมป์ เราได้เห็น เลอบรอน ทำทุกสิ่งอย่าง สำหรับผมแล้ว การมีแรงจูงใจย่อมเป็นเรื่องที่น่าสนุก”
แพ็ต คัมมิ่งส์ อดีตนักยัดห่วงเอ็นบีเอ ถูกพบว่าเสียชีวิตอย่างปริศนาด้วยวัย 55 ปี ในห้องพักที่นครนิวยอร์ค เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคาร โดยเวลานี้กำลังสืบสวนหาสาเหตุการตาย ทว่ายังไม่พบว่ามีการกระทำอันใดที่ขัดต่อกฎหมาย
คัมมิ่งส์ ซึ่งเล่นอยู่กับ 5 ทีมในศึกเอ็นบีเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลอดช่วงเวลาการเล่นอาชีพ 12 ปีของเขา หลังจากโดนดราฟต์ตัวมาจากมหาวิทยาลัยซินซิเนติ ในรอบที่ 3 โดย มิลวอคกี้ บัคส์ เมื่อปี 1978 ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในห้องพักของเขาที่มหานครนิวยอร์ค จากการเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างไร้วิญญาณของพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด เจ้าของความสูง 6 ฟุต 9 นิ้ว ในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา และพวกเขาก็กำลังดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ คัมมิ่งส์ ทำแต้มเฉลี่ย 17.1 คะแนน และรีบาวด์เฉลี่ย 8.3 ครั้ง ตลอดช่วงเวลา 4 ฤดูกาลของเขากับ แบร์แคทส์ (1975-76, 1978-79) ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ นิวยอร์ค นิคส์ ในฐานะฟรีเอเยนต์ เมื่อปี 1984 อีกทั้งเขายังเคยเล่นให้กับทั้ง ไมอามี่ และ ยูท่าห์ ด้วย
แอนดี ร็อดดิก นักเทนนิสอดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ส่อเค้าไม่กลับมาลงหวดแกรนด์สแลมวิมเบิลดันที่เมืองผู้ดีอีกในอนาคต หลังถูก ดาบิด เฟร์เรร์ หวดจอมเก๋าชาวสเปน เขี่ยตกรอบ 3 ไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังไม่ยืนยันในเรื่องนี้ แม้หลังจบแมตซ์จะไปส่งจูบให้แฟนๆ ราวกับเป็นสัญญาณแห่งการอำลาก็ตาม
เข้าสู่รอบ 3 ของศึกแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ณ สังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกมประเภทชายเดี่ยว แอนดี ร็อดดิก จอมเสิร์ฟหนักจากแดนลุงแซม ลงสนามพบกับ ดาบิด เฟร์เรร์ มือ 5 ของโลกชาวสเปน ซึ่ง "เอ-ร็อด" มีโอกาสเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายได้ไม่ยากหลังขึ้นนำก่อนเซตแรก แต่กลายเป็นว่า เฟร์เรร์ กลับพลิกสถานการณ์เขี่ย ร็อดดิก ตกรอบไปแบบสุดช็อก หลังหวดเอาชนะไป 3-1 เซต 2-6, 7-6 (10/8), 6-4, 6-3
หลังจบเกม สื่อตั้งข้อสังเกตุว่าความพ่ายแพ้ของ "เอ-ร็อด" รวมถึงการที่เจ้าตัวเดินออกจากสนามพร้อมส่งจูบให้แฟนๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า หวดวัย 29 ปี และรองแชมป์ 3 สมัย จะไม่กลับมาลงหวดสแลมวิมอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ดี อดีตมือ 1 โลก เปิดเผยเพียงสั้นๆในทีแรกว่า "ผมยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้ และยังไม่สามารถบอกอะไรกับคุณได้มากนัก"
"ผมรักในสิ่งผมทำมาตลอด การเป็นนักเทนนิสนั้นถือเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาระดับฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการแข่งขัน" ร็อดดิก กล่าวเสริมถึงอนาคตของตัวเองในภายหลัง
ขณะที่ มาร์ดี ฟิช หวดรุ่นน้อง เชื่อมั่นว่า ร็อดดิก จะยังไม่อำลาสังเวียน ออล อิงแลนด์ คลับ อย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า "เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดบนคอร์ตหญ้า เพียงแต่โชคร้ายที่เขาเจอกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศใน 3 ครั้งที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหลายคนที่ซิวแกรนด์สแลมได้นั้น เป็นเพราะไม่ได้เจอกับ เฟเดอเรอร์ และผมคิดว่าเขาจะต้องกลับมาลงแข่งที่นี่อีกครั้ง แต่ถ้าไม่ เขาก็ยังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่ยังไม่เคยคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ต่อไป"
เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสมือ 6 ของโลกจากสหรัฐฯ ยอมรับต้องรีบเค้นฟอร์มเก่งให้ได้ในแมตช์ที่จะลงพบกับ ยาโรสลาฟ ชเวโดวา หวดจากคาซัคสถาน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ในศึกวิมเบิลดัน พร้อมเอ่ยปากชมเป็นคู่แข่งที่ฝีมือดีคนหนึ่ง
อดีตหวดมือ 1 ของโลก เอาชนะ บาร์บอซา ซาลาโววา สไตโควา จากเช็ก และ เมลินดา ซิงค์ หวดชาวฮังการี มาได้แบบไม่ยากเย็นใน 2 รอบแรกของศึกเทนนิสวิมเบิลดัน และจะมาเจอของแข็งในรอบที่ 3 อย่าง เจิง เจี่ย มือ 25 ของรายการจากแดนมังกร ก่อนบดเอาชนะไปได้แบบหืดจับ 2-1 เซต 6-7(5), 6-2, 9-7 ในการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ในรอบ 16 คนสุดท้าย เซเรนา ที่มีคิวพบ ยาโรสลาฟ เชโดวา หวดม้ามืดมือไวด์การ์ดจากคาซัคสถาน ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มหรูทำสถิติ "โกลด์เดนเซต" โค่นเอาชนะ ซารา เออร์รานี มือ 10 ของรายการจากอิตาลี 2 เซตรวด 6-0, 6-4 โดยหวดวัย 30 ปียอมรับว่าตนเองต้องยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาให้ดีกว่าเดิม และลดความผิดพลาดให้น้อยลงจากแมตช์ล่าสุด
"ฉันจะต้องแน่ใจว่าตัวเองตีได้ดีกว่าเดิมและปกติจะทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ในแมตช์พวกับ เจิง เจี่ย ฉันตีลูกรีเทิร์นเสียบ่อยๆ โดยฉันยังคิดว่าตัวเองจะเล่นได้ดีขึ้นอีก และหวังว่าฉันจะเป็นผู้ชนะในเซตแรกไปก่อนนี่คือเป้าหมายของวันนั้น แน่นอนฉันจะเดินออกจากที่นั่นพร้อมชัยชนะ" เซเรนา กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
ทั้งนี้ หวดมือ 6 ของโลกที่มีคิวจะลงพบกับ เชโดวา ในรอบ 16 คนสุดท้ายศึกวิมเบิลดัน ที่คอร์ตหมายเลข 2 กล่าวชมคู่แข่งว่า "เธอเป็นนักเทนนิสที่ดีจริงๆ และเล่นได้ดีเอามากๆ เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมักจะทำอะไรได้ดีไปหมด"
ทัพแบดมินตันเยาวชนไทยต้านไม่ไหวพ่ายทีมเยาวชนมาเลเซียไป 1-3 คู่ ตกรอบไปอย่างน่าเสียดายในการแข่งขันแบดมินตัน รายการ ''ชิงแชมป์ทีมผสมเยาวชนเอเชีย 2012'' เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา
ขันแบดมินตัน รายการ "ชิงแชมป์ทีมผสมเยาวชนเอเชีย 2012" ที่เมืองกิมชอล ประเทศเกาหลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. 55 เป็นการประเดิมลงสนามแข่งขันวันที่สองในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ในรอบเช้า ต่อด้วยรอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย ในรอบบ่าย
สำหรับทีมเยาวชนไทย ถูกจัดให้อยู่ในสาย ซี ร่วมกับเจ้าภาพ เกาหลี ศรีลังกา อุซเบกิสถาน โดยในสองแมตช์แรกทั้งทีมไทย และเกาหลี ต่างเก็บชัยชนะเหนือ ศรีลังกา อุซเบกิสถาน มาด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ในแมตช์สุดท้ายที่พบกันถือเป็นการแย่งอันดับ 1 ของกลุ่ม ซี
ทีมผสมเยาวชนไทยลงสนามแมตช์สุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มพบกับ เกาหลี แมตช์นี้ทั้งสองทีมต่างสู้กันได้อย่างคู่คี่ก่อนที่จะเป็นทางทีมเยาวชนไทยที่มี บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธุ์ กับ ณริฎษาพัชร แลม ที่ผ่านประสบการณ์แข่งขันคว้าแชมป์ในรุ่นทั่วไปมาก่อนหน้านี้ช่วยกันทำคะแนนให้ทีมไทยเฉือนชนะไปได้หวุดหวิด 3-2 คู่ คว้าแชมป์กลุ่ม ซี
ประเดิมคู่แรกเป็นคู่ผสม สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ กับ ณริฎษาพัชร แลม ชนะ เบ กวางยอน กับ ชิน ซุนชาน 21-19, 21-14 คู่ที่สองชายเดี่ยว โฆษิต เพชรประดับ ชนะ จู แจวุค 22-20, 22-20 คู่ที่สามชายคู่ ทศพล ถาวรวงษ์ กับ ศักดิ์ศรัณย์ อำพันพร แพ้ ชอย ซองกู กับ ปาร์ค ซีวอน 8-21, 10-21 คู่ที่สี่หญิงเดี่ยว บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธุ์ ชนะ คิม โฮมิน 21-17, 21-17 คู่ที่ห้าหญิงคู่ ณริฎษาพัชร แลม กับ เมธาณี พัฒนพิฑูรย์ แพ้ ชิน ซุนชาน กับ ลี โซฮี 6-21, 18-21
จากนั้นทีมผสมเยาวชนไทยลงสนามแมตช์ที่สองในรอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย พบกับทีมอันดับสองของกลุ่ม เอ ทีมเยาวชนมาเลเซีย แมตช์นี้เป็นทางนักตบลูกขนไก่จากแดนเสือเหลือง ที่นักกีฬาชายหลายๆ คนผ่านแมตช์การแข่งขันในรุ่นทั่วไป ทั้งในระดับ ชาลเลนจ์ กรังด์ปรีซ์ โกลด์ มาอย่างโชกโชน อาทิ ตัน วีเคียง, ซุง จูเว่น ที่ช่วยกันทำคะแนนให้ทีมมาเลเซีย เอาชนะทีมไทย ไปได้ 3-1 คู่
ประเดิมคู่แรกด้วยคู่ผสม สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ กับ ณริฎษาพัชร แลม แพ้ ตัน วีเคียง กับ โชว เหม่ยกวาง 21-19, 15-21, 14-21 คู่ที่สองชายเดี่ยว โฆษิต เพชรประดับ แพ้ ซุง จูเว่น 14-21, 11-21, คู่ที่สามหญิงเดี่ยว บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธุ์ ชนะ ลิม ชิงเซียง 21-13, 21-13 คู่ที่สี่ชายคู่ ณัฐปพนต์ กิไพบูลย์ กับ พุทธพร บวรวัฒนุวงศ์ แพ้ ตัน วีเคียง กับ โอว เจียฮอง 22-20, 17-21, 13-21
โค้ชอ๊อด เกียรติพงศ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลสาวไทย และกัปตันทีม วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์ ระบุพอใจกับผลงานของทีมในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012 รอบสุดท้าย ที่แดนมังกร โดยได้เรียนรู้หลายอย่างจากการสู้กับทีมชั้นนำระดับโลก เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค.2555 เวลาประมาณ 14.30 น.ที่ผ่านมา ทีมนักตบลูกยางสาวไทย ลงแข่งขันแมตช์สุดท้าย ศึกวอลเลย์บอลหญิง “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012” รอบสุดท้าย ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเอาชนะ คิวบา แบบเหนือชั้น 3-0 เซต 25-22, 30-28 และ 25-23 ส่งผลให้ทีมมีสถิติชนะ 2 แพ้ 3 จากการลงแข่งขัน 5 แมตช์
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงศ์ รัชตเกรียงไกร เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เรามาเล่นรอบสุดท้ายและผู้เล่นทุกคนทำหน้าที่ได้ดี เกมวันนี้ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างเต็มที่ สำหรับเราแสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ดี เรายังได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างทั้งการรับและรุก ทุกคะแนนกว่าจะได้มาเป็นเรื่องยาก ขณะเดียวกัน ก็หวังว่า คิวบา จะเดินหน้าต่อไปและกลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งทีมหนึ่งในโลก”
ส่วน “กัปตันกิฟ” วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์ กล่าวว่า “เรายินดีมากกับชัยชนะ และเราได้เรียนรู้หลายอย่างจากเกมนี้ เราต้องพยายามอย่างเต็มที่ คิวบามีผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ตัวสูง และตบหนัก พวกเขาสร้างปัญหาให้เรา อย่างไรก็ตามเราก็เอาชนะได้ แต่ก็ขออวยพรให้ คิวบา โชคดีในทัวร์นาเมนท์ต่อไป”
ไทเกอร์ วูดส์ ยอดนักกอล์ฟสหรัฐฯ ออกรอบวันสุดท้ายในศึกกอล์ฟ "เอทีแอนด์ที เนชั่นแนล" ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์รายการ 3 ของปีและเป็นแชมป์พีจีเอที่ 74 แซงหน้า แจ็ค นิคลอส ตำนานก้านเหล็กสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา
กอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ รายการ "เอทีแอนด์ที เนชั่นแนล" ชิงเงินรางวัลรวม 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 195 ล้านบาท) ณ สนามคองเกรสชันแนล คันทรี คลับ ระยะ 7,529 หลา พาร์ 71 ในเมืองเบทเธสดา มลรัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการดวลวงสวิงวันสุดท้าย
ปรากฏว่า "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ ก้านเหล็กขวัญใจเจ้าถิ่นและแชมป์เก่าใน 2009 กลับมาผงาดคว้าแชมป์ได้อีกครั้งพร้อมทำสถิติคว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ครั้งที่ 74 แซงหน้า แจ็ค นิคลอส ตำนานก้านเหล็กสหรัฐฯ ที่ทำไว้ 73 ครั้ง หลังมีโชคเล็กๆ ทำสกอร์แซงในช่วง 3 หลุมสุดท้าย โดยตีเข้ามา 3 เบอร์ดี เสียโบกีเดียว ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ ทิ้งอันดับสองอย่าง โบ แวน เพล์ต สวิงเพื่อนร่วมชาติ ที่พลาดเองตีออกโบกีทั้งหมดในช่วงหลุม 16, 17 และ 18 ทำได้แค่เพียงอีเวนท์พาร์ ไปถึง 2 สโตรก
อดัม สกอตต์ โปรมือดีจากออสเตรเลีย วันสุดท้ายเร่งเครื่องทำอีก 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์กระโดขึ้นมาจบที่อันดับ 3 ด้าน ฮันเตอร์ มาฮาน ก้านเหล็กชาวอเมริกัน ออก 5 โบกี 3 เบอร์ดี จบวันสุดท้ายตีเกิน 2 โอเวอร์ สกอร์รวม -3 หล่นมาจบที่ 8 ร่วม ส่วน นิค วัตนีย์ อีกหนึ่งก้านเหล็กขวัญใจเจ้าถิ่น ไม่ได้และไม่เสียเพิ่ม เซฟพาร์ จบทัวร์นาเมนต์ที่ 2 อันเดอร์พาร์ ในที่ 10
ส่วน เบรนดอน เดอ ยองค์ โปรชาวซิมบับเว ผู้นำจากวันที่ 3 รอบฟอร์มพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลุดไป 6 โบกีรวด สกอร์รวมเหลือ 1 อันเดอร์พาร์ จบที่ 11 ร่วม ขณะที่ จิม ฟิวริค จอมเก๋าจากเมืองลุงแซม ออกรอบวันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ จบที่ 34 ร่วม
อันโตนิโอ โลเปซ แบ๊กซ้ายชาวสแปนิช ย้ายจากแอตเลติโก มาดริด ไปร่วมทีมมายอร์ก้า แบบไม่มีค่าตัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
กองหลังวัย 30 ปี เผยว่าเขาได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสรหลังจากที่หมดสัญญากับทีม "ตราหมี" แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกที่จะเซ็นสัญญา 2 ปีกับทีม "ชาวเกาะ" พร้อมกับอ็อปชั่นที่สามารถยืดสัญญาเพิ่มได้อีก 1 ปีหากว่าทำผลงานน่าพอใจ
โลเปซ เชื่อว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้น พร้อมทั้งกล่าวยกย่องกุนซือ เซร์ร่า เฟร์เรร์ ของมายอร์ก้า ว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกที่จะเล่นกับทีมชาวเกาะด้วย
โลเปซ เล่นให้กับทีม "ตราหมี" มาตลอดการเล่นอาชีพ 13 ปี โดยลงสนามให้กับทีมเมืองหลวงไปถึง 214 นัด และทำได้ 11 ประตู นอกจากนั้น ยังเคยติดทีมชาติสเปนไป 16 ครั้ง ทำได้ 1 ประตู
อิบราฮิม อเฟลลาย มิดฟิลด์ของ บาร์เซโลน่า ปฏิเสธไม่ย้ายไปร่วมทีม ลีลล์ เนื่องจากต้องการแสดงฝีเท้าสร้างความประทับใจให้กับ ตีโต้ บีลาโนบา กุนซือคนใหม่ จนได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องในซีซั่นหน้า
สื่อกีฬาเมืองน้ำหอม รายงานข่าว อิบราฮิม อเฟลลาย กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังศึกลา ลีกา ตัดสินใจปฏิเสธโอกาสย้ายไปเล่นกับ ลีลล์ ทีมดังในลีก เอิง ถึงแม้ว่าทั้ง 2 ทีมจะบรรลุค่าตัวได้แล้วที่ 8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ก็ตาม
ลีลล์ วางตัว อเฟลลาย ไว้สำหรับการเป็นตัวแทนของ เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ที่เพิ่งย้ายร่วมทีม เชลซี ยักษ์ใหญ่เวทีพรีเมียร์ลีก โดยพวกเขายื่นข้อเสนอมูลค่า 8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ซึ่งได้รับการตอบตกลงจากทาง บาร์เซโลน่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่า ดาวเตะวัย 26 ปี ปฏิเสธข้อเสนอ ลีลล์ เนื่องจากต้องการค้าแข้งกับ "เจ้าบุญทุ่ม" ต่อไปก่อน เนื่องจากหวังว่าจะสามารถโชว์ฝีเท้าเอาชนะใจ ตีโต้ บีลาโนบา เทรนเนอร์คนใหม่ของ บาร์เซโลน่า เพื่อที่จะได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและพาทีมประสบความสำเร็จในอนาคต หลังจากเจ้าตัวได้ลงเล่นเพียงแค่ 5 เกมเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จนทำให้หลุดโผทีมชาติฮอลแลนด์ชุดลุยศึก ยูโร 2012 ที่ผ่านมา
สื่อเยอรมันเล่นข่าว แวร์เดอร์ เบรเมนได้ยื่นข้อเสนอให้ยูเวนตุสพิจารณาปล่อยตัวเอจเจโร่ เอเลียปีกก้นด้านมาให้กับพวกเขาแล้ว
อดีตปีกของฮัมบวร์กย้ายไปอยู่กับ"เบียงโคเนรี่"ด้วยค่าตัว 9 ล้่านยูโรเมื่อซัมมเอร์ก่อนแต่การเซ็นสัญญานี้เกิดขึ้นก่อนที่อันโตนิโอ คอนเต้จะเข้ามารับงานคุมทีม
คอนเต้นั้นไม่ค่อยเลือกส่งแข้งวัย 25 ปีลงสนามเท่าไหร่นักโดยได้เล่นเกมลีกไปเพียงแค่ 4 เกมเท่านั้นทำให้เอเลียจะย้ายออกจากทีมไปโดยมีหลายสโมสรต้องการตัว
โดย บิลด์ สื่อพี่บิ๊กของเยอรมัน รายงานว่าทางเบรเมนได้เดินหน้ายื่นข้อเสนอจำนวน 7.5 ล้านยูโรให้"ม้าลาย"ยอมปล่อยตัวเอเลียออกมาแล้วซึ่งพวกเขาก็น่าจะยอมเช่นเดียวกันเพื่อนำเงินส่วนนั้นมาสมทบทุนซื้่อตัวและหวังว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นโดยไว
เอเลียนั้นประสบความสำเร็จในการค้าแข้งที่บุนเดสลีก้ามาทั้ง 2 ฤดูกาลก่อนจะย้ายไปอิตาลีและโทมัส ชาฟกุนซือของเบรเมนก็เชื่อว่าเอเลียจะกลับมามีอาชีพค้าแข้งที่ดีได้อีกครั้ง
บิเซนเต เดล บอสเก บิ๊กบอสหน้าหนวดของทีมชาติสเปนยกย่องว่านักเตะชุดนี้คือชุดที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลสเปน หลังจากไล่ต้อนอิตาลี 4-0 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 3 รายการติด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกมชิงชนะเลิศยูโร 2012 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. สเปน ที่เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าชัดเจนและไล่ยิงพลพรรค "อัซซูรี" ที่ต้องโชคร้ายเล่น 10 คนในช่วงท้ายเกมเนื่องจากมีผู้เล่นเจ็บ จนเอาชนะไปได้ 4-0 กลายเป็นทีมแรกที่สร้างประวัติศาสตร์มากมายไล่ตั้งแต่ป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จ และคว้าแชมป์รายการระดับชาติ 3 ทัวร์นาเมนต์ซ้อนนับตั้งแต่ยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และล่าสุดยูโร 2012
หลังจบเกม บิเซนเต เดล บอสเก ออกมายกย่องผู้เล่นแกนหลักของทีม อย่าง อิเคร์ คาซึยาส, ชาบี เอนานเดซ และ อันเดรียส อิเนียสตา ที่มีส่วนสำคัญในการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ครั้งนี้ โดยชี้ว่าจะเป็นยุคที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอล
"เรากำลังพูดถึงยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล พวกเขามีพื้นฐานรู้วิธีการเล่นด้วยกันอย่างดีเพราะว่าเติบโตมาจากประเทศที่ให้ความรู้เรื่องฟุตบอลอย่างถูกต้องเราทำงานของเราได้ดี ถึงตอนนี้เรามีนักเตะเก่งบางคนไปเล่นนอกประเทศ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน"
"นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังสเปน และตอนนี้เราเริ่มมองถึงศึกฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิล ซึ่งพวกเราจะต้องพยายามรักษามาตรฐานนี้เอาไว้ให้ได้" นายใหญ่ชาวสเปน กล่าว
สำหรับการคว้าแชมป์ยูโร 2012 ครั้งนี้ส่งผลให้พลพรรค "กระทิงดุ" กลายเป็นชาติที่ก้าวขึ้นมาครองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปสูงสุดที่ 3 สมัยเท่ากับทีมชาติ เยอรมนี
เซซาเร ปรันเดลลี กุนซือทีมชาติอิตาลี ออกมาชื่นชมลูกทีมที่สู้ด้วยหัวใจแม้ต้องเล่น 10 คนช่วงท้ายในเกมรอบชิงชนะเลิศที่แพ้ สเปน 0-4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะช่วยให้ มาริโอ บาโลเตลลี หัวหอกตัวเก่งแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต
"อัซซูรี" ตกเป็นรองทีมเต็ง 1 สเปน อย่างรวดเร็ว ในเกมรอบชิงชนะเลิศยูโร 2012 หลังถูก ดาบิด ซิลบา โหม่งประตูขึ้นนำตั้งแต่นาที 14 ก่อนจะมาเสียลูกที่ 2 ช่วงท้ายครึ่งแรก โดยเกมในครึ่งหลัง อิตาลี ที่ต้องพยายามเปิดเกมบุกใส่ต้องเล่นเพียงแค่ 10 คนในสนามหลังจาก ติอาโก มอตตา มิดฟิลด์จอมขยันเกิดเจ็บและใช้โควตาตัวสำรองไปครบแล้ว ทำให้ต้องเล่น 10 คนในช่วงที่เหลือและแพ้ไปในที่สุด 4-0
โดย เซซาเร ปรันเดลลี นายใหญ่ชาวอิตาเลียนออกมากล่าวยกย่องลูกทีมว่าเล่นกันได้อย่างเต็มที่แล้ว แม้สกอร์ที่ออกมาจะเป็นทีมมักโรนีที่แพ้อย่างขาดลอย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสเปนมีสภาพร่างการที่ฟิตมากกว่า และยังเชื่อว่าประสบการณ์ในแมตช์สำคัญนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ บาโลเตลลี ดาวเตะสายเลือดใหม่ของอิตาลีได้เป็นอย่างดี
"คุณสามารถพูดได้เลยว่าร่างการของพวกเขาสดกว่า เราแทบจะไม่มีเวลาพักฟื้นเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นในเกมวันนี้ และมันเป็นเรื่องยากมากที่กลับมาลงเล่นหลังถูกนำไป 2-0 เราพบคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมพวกเขาเพิ่งเป็นแชมป์โลกมา แน่นอนเมื่อคุณลงไปเล่นแค่ 10 คนมันแทบจะจบแล้ว"
"ผมบอกกับ มาริโอ ว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่ดีและต้องยอมรับมันให้ได้ คุณต้องไปจับมือกับคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่าและยอมรับในความพ่ายแพ้นี้ แต่คุณต้องแน่ใจด้วยว่าสิ่งนี่จะช่วยให้ก้าวต่อไปข้าวหน้าซึ่งประสบการณ์จะช่วยให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น สิ่งเหล่านี้เกิดมาแล้วกับผู้เล่นหลายคน และมันก็จะเกิดขึ้นอีกโลกของกีฬาก็เป็นแบบนี้" ปรันเดลลี ร่ายยาว
อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ชาวเมืองน้ำหอมของ อาร์เซน่อล ยืนยันตนเองไม่มีความคิดจะย้ายไปรับงานคุมทีมชาติฝรั่งเศสแทนที่ โลรองต์ บลองก์ กุนซือคนปัจจุบันที่ตัดสินใจไม่ขอต่อสัญญากับทีม "ตราไก่" ออกไป หลังพาทีมตกรอบยูโร 2012
บิ๊กบอส "เดอะกันเนอร์ส" อยู่ในสนใจของสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (เอฟเอฟเอฟ) และมีความเป็นไปได้มากที่สุดในการเข้ามารับงานคุมทีมชาติ ต่อจาก โลรองต์ บลองก์ อดีตกุนซือ บอร์กโดซ์ ที่กำลังจะหมดสัญญากับ "ตราไก่" แชะตัดสินใจประกาศไม่ขอต่อสัญญาออกไป
ขณะที่ เวนเกอร์ กุนซือที่นั่งเก้าอี้นายใหญ่ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม มายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ทว่าผลงานในช่วงหลังไม่มีถ้วยรางวัลติดมือมานาน และต้องขายนักเตะสำคัญออกอย่างต่อเนื่อง ยังยืนไม่สนใจตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติบ้านเกิด ขอมุ่งมั่นกับ อาร์เซนอล ต่อไป
"มีกุนซืออีกหลายคนที่พวกเขาสนใจ แต่สำหรับผมกำลังยุ่งมากๆ กับปืนใหญ่ และสัญญาของผมกับสโมสรนี้ก็ยังเหลืออีกตั้ง 2 ปี" เวนเกอร์ กล่าวผ่าน "เทเลฟุต"
นอกจากนี้ สหพันธ์ลูกหนังเมืองน้ำหอมยังเล็งผู้จัดการทีมชื่อดังรายอื่นๆ ไว้อีกหลายคน เช่น ปอล เลอ กูเอน, หลุย เฟร์นานเดซ และ คนบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง ดิดิเยร์ เดชช็องส์ กุนซือทีม โอลิมปิก มาร์กเซย เพื่อมาแทนที่ บลองก์ ไว้สำรองด้วย
รุด กุลลิท เปิดเผยว่า ตนเองต้องการเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ แทนที่ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ก ซึ่งประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากล้มเหลวในการทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
อดีตกุนซือของ เชลซี เคยเป็นกัปตันทีม “อัศวินสีส้ม” ชุดคว้าแชมปยูโร 88 ที่ประเทศเยอรมนี กำลังว่างงานและเชื่อมั่นว่า ตนเองจะสามารถเข้ามาพลิกชะตาของทีมจากแดนกังหันลม ถ้าหากสมาคมฟุตบอลของ เนเธอร์แลนด์ ติดต่อเข้ามา
อดีตนักเตะหัวงูเก็งกอง กล่าวว่า “ถ้าพวกเขาติดต่อผมสัปดาห์นี้ ผมจะรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้รับงานนี้ ผมรู้ว่า ผมสามารถทำได้ ผมอาจไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ในฐานะผู้จัดการทีม แต่ผู้คนมักลืมไปว่า ผมก็คว้าแชมป์หลายรายการเช่นกัน ในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม”
นอกจาก เจ้าของปรัชญา “เซ็กซี ฟุตบอล” แล้ว ยังมีกุนซือคนอื่นๆ อย่าง กุส ฮิดดิงก์ ซึ่งคุมทีม อันชิ มาคัชคาลา ของรัสเซีย และ โรนัลด์ คูมัน ก็ยังมีสัญญาอยู่กับ เฟเยนูร์ด และทั้งคู่ก็ตอบปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว
สตีเวน เจอร์ราร์ด ออกโรงปกป้อง เวย์น รูนีย์ โดยระบุไม่ยุติธรรมที่จะกล่าวโทษกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า เป็นสาเหตุทำให้ทีมชาติอังกฤษไม่ประสบความสำเร็จในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 ชี้เป็นเพราะความคาดหวังที่สูงและนักเตะทุกคนในทีมสมควรร่วมรับผิดชอบ
รูนีย์ กลับมาลงสนามช่วย อังกฤษ ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ศึกยูโร 2012 เนื่องจากต้องชดใช้โทษแบน 2 นัด แม้ยิงประตูให้ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน เอาชนะ ยูเครน แต่ผลงานโดยรวมไม่ดีนัก เช่นเดียวกับเกมที่พ่ายจุดโทษต่อ อิตาลี จนตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ความล้มเหลวอีกครั้งของ “สิงโตคำราม” มีบางส่วนตำหนิ รูนีย์ แต่ล่าสุด เจอร์ราร์ด ในฐานะกัปตันทีมปกป้องดาวยิงร่างอวบ ว่า “ผมคิดเรื่องนั้นตั้งแต่ที่ เวย์น ยังลงเล่นไม่ได้แล้ว เพราะการเล่นของเขาในยูโรปี 2004 ทำให้เกิดความคาดหวังว่าเขาจะช่วยให้ทีมชนะเกมต่างๆ ในทัวร์นาเมนต์ด้วยตัวเขาเอง แต่ผมคิดว่านั้นไม่ยุติธรรม”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผลการแข่งขันที่ออกมาไม่เป็นดังหวัง ผู้คนก็ชี้นิ้วมาที่ เวย์น พร้อมกับตำหนิเขา ไม่ยุติธรรมเลยถ้ามองว่า เวย์น เล่นไม่ดี เป็นเหตุให้ทีมไม่ชนะ ผู้เล่นทั้ง 23 คนควรรับผิดชอบ” มิดฟิลด์ลิเวอร์พูล กล่าวต่อ “ผมเคยพูดหลายครั้งหลายหนแล้วว่าในเกมระดับนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าคาดหวังและความกลัว ดังนั้น มันปกติที่ เวย์น เล่นไม่ออก เพราะความคาดหวังของทุกคนและต้องการให้เขาเล่นดี”
จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารจอมหนึบ ยูเวนตุส รับสู้ สเปน คู่แข่งในนัดชิงดำ ศึกยูโร 2012 ไม่ได้เลย จนโดนถล่มยับเยิน 4-0 พร้อมขอบคุณแฟนบอลชาติบ้านเกิด ที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน
บุฟฟ่อน ยอมรับว่า ต้านทานความแข็งแกร่งของ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 'ยูโร 2012' ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ไม่ไหวจริงๆ ส่งผลให้แพ้ไปเละเทะ 0-4
เกมนี้ 'กระทิงดุ' เป็นต่อ 'อัซซูรี่' อย่างชัดเจน โดย ดาบิด ซิลบา ประเดิมประตูแรกในนาทีที่ 14 ตามมาด้วยประตูที่ 2 ในนาทีที่ 41 จากผลงานของ ฆอร์ดี้ อัลบา ส่วนครึ่งหลัง ทีมของกุนซือ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ยังคงครองความเหนือชั้นเอาไว้ได้ และบวกเพิ่มอีก 2 ประตูจากฝีเท้าของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ฆวน มาต้า ในนาทีที่ 84 และ 88 ตามลำดับ
จบเกม นายด่านวัย 34 ปี กล่าวว่า 'ผมรู้สึกว่า เกมกับ เยอรมนี เหมือนเป็นเกมนัดชิงเลย แต่ในคืนนี้เราทำอะไรไม่ได้เลย พวกเขาเหนือกว่าเรามากเกินไป ดังนั้นเราจึงควรเสียใจให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อคุณเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง และไร้เทียมทานแบบนี้ คุณสามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ง่ายขึ้น เรามีทัวร์นาเมนต์อันยอดเยี่ยม มันเป็นการเดินทางที่น่าทึ่ง และแน่นอนว่า คุณอยากได้ชัยชนะในนัดชิงฯ แต่ที่นี่คุณเจอกับทีมที่อยู่ในระดับเดียวกัน คืนนี้เราเจอกับทีมที่ประเมินค่าไม่ได้'
'เราขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เห็นใจเรา เพราะพวกเขาไม่เคยทอดทิ้งเรา มันทำให้เราภาคภูมิใจที่ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับพวกเขา ตอนที่คุณเจอกับทีมที่แกร่งกว่าคุณ คุณต้องชื่นชมพวกเขา ทีมชาติอิตาลีเป็นของทุกๆ คน นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ทีมกลับมามีชีวิตชีวา และนำความสุขใจกลับมาสู่บ้านของแฟนๆ' จอมหนึบสังกัด ยูเวนตุส กล่าวทิ้งท้าย
ฆอร์ดี้ อัลบา ฟูลแบ็ก บาร์เซโลน่า หน้าบาน มีส่วนช่วย สเปน ไล่ถลุง อิตาลี 4-0 ในรอบชิงฯ ศึกยูโร 2012 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รับการได้มีชื่อยิงประตูในแมตช์สำคัญอย่างนี้ ถือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจอย่างแท้จริง
อัลบา กล่าวอย่างมีความสุข หลังช่วยทัพ 'กระทิงดุ' ถล่ม อิตาลี 4-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 'ยูโร 2012' ที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ทัพ 'กระทิงดุ' มามุกเดิม เล่นแบบไม่มีกองหน้า แต่ประสิทธิภาพเหลือล้น และได้ประตูนำตั้งแต่นาทีที่ 14 จากการโหม่งของ ดาบิด ซิลบา จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรก 4 นาที อัลบา จัดการบวกประตูที่ 2 ครึ่งหลังสถานการณ์ของ อิตาลี ยังไม่ดีขึ้น โดน 'กระทิงดุ' ขึงเกมตลอด และมีโอกาสได้ประตูเพิ่มแต่ยังทำไม่ได้ จากนั้นสถานการณ์ของทัพ 'อัซซูรี่' ต้องแย่เข้าไปอีกเมื่อ ติอาโก้ ม็อตต้า ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นได้แค่ไม่กี่นาทีก็เกิดอาการบาดเจ็บ จนถูกหามออกจากสนาม และ อิตาลี ต้องเล่นแค่ 10 คน เนื่องจากเปลี่ยนตัวครบ 3 คนแล้ว โดยช่วงที่เหลืออยู่ อิตาลี โดนยำใหญ่ และสุดท้ายทำนบแตกในนาทีที่ 84 เมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตัวสำรองอดทน ซัดประตูที่ 3 ก่อนที่ 'เอล นินโญ่' จะถวายพานให้ ฆวน มาต้า ยิงประตูปิดท้าย
สำหรับชัยชนะของ สเปน ทำให้พวกเขาเป็นชาติแรกที่ป้องกันแชมป์ยูโร ได้สำเร็จ รวมทั้งมีสถิติครองแชมป์รายการนี้ 3 สมัย เท่ากับ เยอรมนี (เยอรมันตะวันตก 2 สมัย) และยังเป็นชาติแรกที่คว้า 3 แชมป์ระดับชาติ (ยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012) นอกจากนี้แมตช์ดังกล่าวยังเป็นเกมคู่ชิงชนะเลิศที่มีผลการแข่งขันขาดลอยที่สุด
อัลบา ซึ่งจะย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลหน้า เปิดใจหลังจบแมตช์ว่า 'เพื่อนร่วมทีมของผมได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์มาก่อน และตอนนี้ผมได้ทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกับพวกเขาในการทัวร์นาเมนต์ ยูโร ครั้งแรกของผม ผมแทบไม่อยากเชื่อเรื่องนี้เลย แต่มันค่อยๆ ซึมซับทีละนิด ผมบอกกับเพื่อนๆ และครอบครัวของผมว่า ผมยิงประตูได้ในคืนนี้ และนั่นเป็นแนวทางที่สุดยอด'
โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานนักเตะชาวดัตช์ เชื่อรูปแบบการเล่นของ สเปน ที่เน้นต่อบอลเป็นหลักจนคว้าแชมป์และทำลายสถิติเป็นว่าเล่น มาจากระบบการเล่นของบาร์เซโลน่า ยอดทีมจากลา ลีกา สเปนนั่นเอง
ครัฟฟ์ เผยว่าสไตล์การเล่นของ 'กระทิงดุ' สเปน ที่เน้นส่งบอลเร็วสั้นๆ จังหวะเดียว หรือสองจังหวะเป็นหลัก ที่เรียกว่า 'ติกิ-ตาก้า' (Tiki-TaKa) นั้น เลียนแบบ 'เจ้าบุญทุ่ม' บาร์เซโลน่า ที่เน้นการเล่นแบบนี้มาตลอด
สเปน โดนวิจารณ์อย่างหนักจากการเล่นสไตล์ ติกิ-ตาก้า จนทำให้หลายคนมองว่าเป็นแท็คติกที่น่าเบื่อ อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบนี้ทำให้ 'กระทิงดุ' เหนือกว่าทีมคู่แข่งอย่างมาก โดย ครัฟฟ์ มองว่า บาร์ซ่า ควรจะได้รับเครดิตกับสไตล์การเล่นที่เหนือชั้นแบบนี้
อดีตแข้งเจ้าของฉายา 'นักเตะเทวดา' กล่าวว่า 'ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรุ้ว่า สเปน เล่นสไตล์แบบไหน แต่การมี ชาบี (เอร์นานเดซ) และนักเตะคนอื่นๆ แบบเขา พวกเขาถึงได้มีสไตล์เป็นของตัวเอง ต้นกำเนิดการเล่นแบบนี้มาจากแนวคิด และปรัชญาของ บาร์เซโลน่า พร้อมกับแนวคิดการเล่นต่อบอลอย่างต่อเนื่อง'
นอกจากนี้ อดีตนักเตะและเทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า เชื่อว่าวงการฟุตบอลอิตาลีมีแนวคิดในการเล่นที่สร้างสรรค์มากขึ้น แต่ค้านหัวชนฝาว่าสไตล์การเล่นของ บาร์ซ่า พัฒนามาจากแนวทางการเล่นของทัพมะกะโรนี 'สเปน และ อิตาลี มีการเล่นบอลที่สร้างสรรค์มากขึ้น ปรัชญาเหล่านี้ถูกปลูกฝังมาหลายปีก่อนใน สเปน แต่ที่ อิตาลี ถือเป็นเรื่องใหม่ พวกเขาเคยชินกับการเล่นแบบคาเตนัชโช่ (เน้นการเล่นตั้งรับ) นั่นเพราะโค้ชพวกเขาอยากเล่นแบบนี้'