“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ประกาศขอหยิบแชมป์ “เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปียนชิพ 2012” ในนามสโมสรบ้านทองหยอดให้ได้ ขณะที่ฟอร์มการเล่นของตนนั้นเหลือปรับสภาพจิตใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และมีความตั้งใจและมุ่งมั่นฝึกซ้อมเหมือนเดิม ก็จะทำให้เป็นมือ 1 โลกได้ไม่ยาก
ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันแบดมินตัน ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2555 รายการ “เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปียนชิพ 2012” ระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม 2555 ซึ่งจะระเบิดศึกที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ โดยรายการนี้มีนักกีฬาระดับทีมชาติไทย ลงแข่งขันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ล่าสุด “น้องเมย์” ได้ประกา ว่า “ตอนนี้เมย์พร้อมแล้วกับการกลับมาทวงแชมป์ เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปียนชิพ 2012 ให้ได้อีกครั้ง หลังเคยทำได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2552 แต่ก็ขอไม่ประมาทคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น “พีช” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข “แนท” ณิชชาอร จินดาพล หรือแม้กระทั่ง “ครีม” บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ซึ่งเป็นมือระดับทีมชาติด้วยกันทั้งสิ้น และขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ร่วงแบดมินตันรายการเจแปนโอเพน ว่า “วันนั้นยอมรับว่าตนมีสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตดีพอ จึงทำให้โดนโยก และตีผิดพลาดเองด้วย จึงทำให้ตกรอบไปก่อน ส่วนการแข่งขันแบดมินตันลีกอาชีพ ที่ประเทศจีน นั้น จะมีแข่งเยอะช่วง 2 เลกแรกค่ะ ที่เหลือก็ไม่เยอะขนาดนี้ เรื่องแรงเมย์จะมีปัญหาเฉพาะกับจีนค่ะ ซึ่งร่างกายแข็งแกร่งมากจริงๆ เพราะคนที่สามารถดึงเมย์ให้วิ่งทั่วคอร์ตได้ส่วนใหญ่จะเป็น วัง อิฮาน ส่วนคนอื่นๆ ถ้าในเกมวันนั้นตัวเองไม่นิ่งไม่ใจเย็นพอ และเสียเองเยอะก็แพ้เค้าได้ สำหรับเรื่องร่างกายในระหว่างแข่งเราจะซ้อมตลอดค่ะ จะไม่ได้ซ้อมก็แค่วันเดินทางค่ะ”
ทั้งนี้ สาวน้อยวัย 17 ปี ได้เผยสิ่งที่ได้จากการไปแข่งลีกอาชีพที่จีนเป็นการทิ้งท้าย ว่า “สิ่งที่ได้จากเค้า คือ ระเบียบวินัยค่ะ และเรื่องใจที่เค้าจะไม่กลัวคู่ต่อสู้แม้จะเป็นที่ 1 ของโลก หรือแชมป์โอลิมปิก ถึงแม้ทีมจะชนะแล้วไม่ตีต่อเพื่อชนะก็ได้เค้าก็จะตีอย่างเต็มที่เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง อีกด้านบางทีมแพ้แล้วคนที่เหลือรู้ว่าตีต่อไปก็ไม่มีประโยชน์เค้าก็จะยังสู้เต็มที่เหมือนเป็นแต้มแรกค่ะ ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของนักกีฬาจีนเรื่องซ้อมหรือทําร่างกาย โค้ชไม่ต้องสั่งเค้าจะทําเอง และตั้งใจด้วยค่ะ แม้เค้าจะเป็นมือ 1 มือ 2 ของโลกก็ไม่เลยที่จะขี้เกียจและไม่ทําค่ะ ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเมย์มากๆ”
เดวิส เลิฟ เดอะเธิร์ด กัปตันทีมไรเดอร์ คัพ ของสหรัฐฯ เผยวางแผนมาดีแล้วแต่ลูกทีมฟอร์มสะดุดจึงผิดพลาดเล็กน้อยบวกกับความยอดเยี่ยมของคู่แข่ง ทำให้ถูกทีมยุโรปของ โฆเซ มาเรีย โอลาซาบัล พลิกแซงในประเภทซิงเกิลแมตช์เพลย์ คว้าแชมป์ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่ 39 ไปครอง
เจ้าถิ่นสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ เลิฟ ที่ออกสตาร์ทอย่างสวยหรูในการแข่งแบบโฟร์ซัมและโฟร์บอลในช่วง 2 วันแรก นำห่างทีมยุโรป "แชมป์เก่า" 10-6 ขอเพียงแค่ 4 แต้มครึ่งในการเล่นวันสุดท้ายแบบ ซิงเกิลแมตช์เพลย์ 12 คู่จะเข้าป้ายเป็นแชมป์ไรเดอร์ คัพ ทันที ทว่ากลับมาโดนพลิกแซง 8 ครึ่ง ต่อ 3 ครึ่ง ชวดแชมป์ไปอีกอย่างน่าเสียดาาย
กัปทีมทีมเมืองมะกัน ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังสุดๆ ที่ต้องพ่ายแพ้ค่าบ้านตัวเองและรู้สึกช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้นึกถึงปี 1999 ที่ทีมสหรัฐฯสามารถพลิกกลับมาชนะได้ในวันสุดท้าย และโปรวัย 48 ปี เผยถึงแผนการจัดตัวว่าได้เลือกให้นักกอล์ฟฟอร์มแรงลงไปเล่นเป็นคนแรกๆ หวังเก็บแต้มและปิดแมตช์ให้ได้รวดเร็ว
โดย เลิฟ ยอมรับว่าแผนในการแข่งโฟร์ซัมและโฟร์บอลสำเร็จทั้งหมด ซึ่งในรอบสุดท้ายที่หวังให้ บับบา วัตสัน, เว็บบ์ ซิมป์สัน และ คีแกน แบรดลีย์ ก้านเหล็กสายเลือดใหม่ของทีมที่เล่น 2 วันแรกได้ดีออกมาเก็บแต้มให้ได้ก่อน แต่ก็แพ้ไปทั้งหมด โดยต้องยกความยอดเยี่ยมให้กับคู่แข่งที่เล่นได้สุดฝีมือ พร้อมชม เอียน โพลเตอร์ ที่อยู่ในฟอร์มสุดยอดเก็บชัยชนะ 4 แมตช์รวดตลอด 3 วัน
แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็คขวาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกล่าวถึงอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ว่าคงไม่ได้ถูกเรียกตัวกลับไปติดทีมชาติอังกฤษอีก เหตุอายุมากและไม่ได้ช่วยทีมมานานแล้ว
เนวิลล์ที่ปัจจุบันกินตำแหน่งเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชของรอย ฮ็อดจ์สันนายใหญ่ทัพ"สิงโตคำราม"มั่นใจว่าถึงจอห์น เทอร์รี่เซนเตอร์แบ็คเชลซีประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้วแต่ริโอคงไม่ถูกเรียกตัวมาติดทีมอีก
มีเพียงกี่เกมที่เฟอร์ดินานด์ได้ลงเล่นให้ทีมชาติในช่วงเวลา 18 เดือนที่ฟาบิโอ คาเปลโล่กุมบังเหียนอยู่"เนวิลล์ตั้งคำถามก่อนตอบเองว่า
"แค่ 3 นัดเท่านั้น เฟอร์ดินานด์ไม่ได้เล่นให้อังกฤษอย่างสม่ำเสมอพอในช่วงสองปีที่ผ่านมา
"ฮ็อดจ์สันกำลังสร้างทีมเพื่ออนาคตและเขาได้พูดเองว่าจะไม่เรียกนักเตะในวัย 34-35 ปีที่ติดธง 70-80 เกมไปเพียงเพื่อนั่งสำรองหรอก เพราะมันเสี่ยงที่จะเกิดความแตกแยกในทีมหรือในห้องแต่งตัวได้นั่นเอง
โทนี่ โครส มิดฟิลด์จอมผ่านบอลของบาเยิร์น มิวนิคยืนยันว่าตนเองเต็มไปด้วยกระหายที่อยากนำทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้มาครอง
ยอดทีมแคว้นบาวาเรียอกหักพ่ายเชลซีในนัดชิงชนะเลิศรายการนี้เมื่อซีซั่นก่อนเลยทำให้โครสมีความมุ่งมั่นที่อยากแก้มือในฤดูกาลนี้ให้ได้
"การครองถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม พอกับการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา"โครสกล่าว
"เมื่อคุณเข้าชิงชนะเลิศได้หนหนึ่งแล้ว คุณก็อยากทำได้อีกครั้งแน่ เราเสริมทีมให้แกร่งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้สำเร็จ"
"เราจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ นั่นคือเป้าหมายเดียวของเรา เราอยากจะชูถ้วย เรามีแรงใจที่กระตุ้นให้เราทำแบบนั้นอยุ่มากทีเดียว"
"เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะลืมเรื่องที่เราแพ้ในรอบชิงปีก่อน เพราะว่าเราเข้าใกล้ชัยชนะมาเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องเดินกันต่อไป ความพ่ายแพ้นั้นเป็นพลังให้เราทำให้ดีขึ้นอีกในปีนี้"
