"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ พลิกนรกยิงช่วงทดเจ็บ2ลูก แซงเอาชนะ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค 3-2 กระชากแชมป์คืนจากอริร่วมเมือง อย่าง แมนฯยูไนเต็ด อย่างเหลือเชื่อ คว้าแชมป์ที่รอคอยในรอบ44ปี อย่างหัวใจแฟนบอลเรือใบ หัวใจแทบวาย ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2555
แมนฯ ซิตี้ 3 - 2 ควีนส์ปาร์ค
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ทำศึกชี้ชะตาแชมป์ กับ "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค โดยมีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน โดยเจ้าถิ่นจัดเต็มส่ง ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อเกวโร่ ประสานงาน ซามีร์ นาสรี่ และ คาร์ลอส เตเวซ ล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนส่ง บ็อบบี้ ซาโมร่า จับคู่ ฌิบริล ซิสเซ่
เริ่มเกมมา5นาที ด้วยลูกขยันของ เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลลุยมาถึงกรอบเขตโทษของีมเยือน ก่อนไหลบอลเข้ากลางให้ ยาย่า ตูเร่ สับไกยิงด้วยขวา แต่บอลโด่งข้ามคาน
นาทีที่10 แมนฯซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่า ได้โอกาสสับไกยิงอีกครั้งของ ซามีร์ นาสรี่ แต่ระยะไกลมากและบอลเบาไม่เข้ากรอบอีกต่างหาก
นาทีที่15 แมนฯซิตี้ มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ จ่ายให้ ดาบิด ซิลบา เข้าไปพลิกบอลยิงมุมแคบด้วยเท้าซ้าย แต่บอลยังตรงตัว แพทริค เคนนี่ เซฟไว้ได้
นาทีที่24 เป็นฝ่ายทีมเยือน ที่ได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกระยะหวังผล20หลา ริมกรอบเขตโทษ ฌิบริล ซิสเซ่ กดด้วยเท้าขวา บอลลอดกำแพงไปแล้ว แต่ โจ ฮาร์ท ยังล้มตัวรับไว้ได้
นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มีโอกาสบ้าง จากลูกฟรีคิก แต่ ดาบิด ซิลบา ปั่นไปชนกำแพงเต็มๆ ทีมเรือใบยังต้องควานหาประตูต่อไป
นาทีที่32 แมนฯซิตี้ พยายามบุกแหลก และมีโอกาสได้จบอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ ไหลบอลคืนกลับมาให้ ดาบิด ซิลบา กดเต็มๆด้วยเท้าซ้าย แต่ยังบังคับบอลให้เข้ากรอบไม่ได้
นาทีที่39 แฟนๆเรือใบได้กรี๊ดกันลั่นสนาม เมื่อได้ประตูที่รอคอย จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลให้ ยาย่า ตูเร่ ไหลบอลต่อให้ ปาโบล ซาบาเลต้า ที่เติมขึ้นมายิงเต็มๆ แพทริค เคนนี่ พยายามปัดบอล แต่ปัดไม่ออก บอลลอยเช็ดเสาเข้าตาข่ายให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่43 เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้โอกาสยิงอีกครั้ง แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟไว้ได้ ขณะเดียวกัน เจ้าถิ่นทำการเปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง ไนเจล เด ยองก์ ลงมาแทน ยาย่า ตูเร่ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ พยายามครองบอลไว้กับตัวเอง โดยปล่อยให้ คิวพีอาร์ ยืนคุมโซนในแดนตัวเอง หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ จึงขึ้นนำ คิวพีอาร์ อยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาเพียงนาทีแรก เจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูอีก เมื่อ กาแอล กลิชี่ เติมขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง เซร์คิโอ อเกวโร่ โฉบยิงที่เสาแรก แต่ แพทริค เคนนี่ ยังคุมเสาอยู่
แต่แล้วนาทีที่48 แฟนๆคิวพีอาร์ ได้เฮกันลั่น เมื่อ ตาเย่ ไตโว่ กระดกบอลโด่งไปที่หน้าประตู โจเลียน เลสค็อตต์ โหนโหม่งไม่ดี กลายเป็นการโหม่งเช็ดมาให้ ฌิบริล ซิสเซ่ หลุดเข้าไปล่อเป้า ก่อนยิงสวน โจ ฮาร์ท กลายเป็นประตูให้ คิวพีอาร์ ตีเสมอ 1-1
แต่แล้วนาทีที่59สถานการณ์ของคิวพีอาร์ ก็ย่ำแย่ลง เมื่อผู้ตัดสินมองว่า โจอี้ บาร์ตัน ไปศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ จึงทำโทษชูใบแดง ให้ บาร์ตัน ทันที ก่อนเกมจะพักชั่วคราวหลัง บาร์ตัน ยังอารมณ์ค้างไปเตะใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ อีก จึงทำให้นักเตะทั้งสองทีมมีทั้งวิ่งมาเอาเรื่อง บาร์ตัน รวมถึงห้ามปรามกันวุ่นวาย
ทีมเยือน คิวพีอาร์ ทำการเปลี่ยนตัวด้วยการส่ง อามองด์ ตราโอเร่ ลงมาแทน ฌิบริล ซิสเซ่
นาทีที่60 แมนฯซิตี้ เดินบุกแหลก ก่อน คาร์ลอส เตเวซ มีโอกาสยิงด้วยขวา แพทริค เคนนี่ พุ่งเซฟไว้ได้ ก่อนบอลจะชุลมุนไปโดนแขนของ เนดุม โอนูโอฮา นักเตะ ซิตี้ พยายามฟ้องแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ยังนิ่ง
6นาทีต่อมา แฟนเรือใบ ช็อกทั้งสนาม เมื่อ อามองด์ ตราโอเร่ พาบอลแหวก แว็งซ็องต์ ก็อมปานี ทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนเปิดโค้งมาที่หน้าประตูให้ เจมี่ แม็คกี พุ่งโหม่งส่งบอลตุงตาข่ายอย่างงามหยด ให้ คิวพีอาร์ พลิกแซงนำ 2-1 อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่68 แมนฯซิตี้ ต้องเปลี่ยนตัวโดยทันที โดยส่ง เอดิน เชโก้ ลงมาแทน แกเร็ธ แบร์รี่ แล้วก็เปิดเกมกดดัน แล้วก็มีโอกาสได้ลุ้น จากลูกโหม่งของ คาร์ลอส เตเวซ แต่บอลยังไม่เข้า
นาทีที่75 หลังจากพาบอลเจาะเข้าไปในกรอบเขตโทษไม่ได้ ซามีร์ นาสรี่ จึงหันมายิงไกลที่บอลก็ลอยโด่งออกหลังไป เจ้าถิ่นจึงต้องทำการเปลี่ยนตัวอีก ด้วยการส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทน คาร์ลอส เตเวซ
3นาทีต่อมา นักเตะทั้งหมดของ คิวพีอาร์ แทบจะยืนอยู่หน้าประตูทั้งหมด ขณะที่ แมนฯซิตี้ พยายามพับสนามบุก ก่อนได้ยิงโดย มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟได้
เกมผ่านมาถึงนาทีที่90 แฟน ซิตี้ เริ่มใจคอไม่ดี และมีโอกาสได้ลุ้น จากลูกโหม่งของ มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ แพทริค เคนนี่ ยังเซฟได้
ช่วงทดเวลาเจ็บ นาทีที่แรก จากจังหวะลูกเตะมุม และ แมนฯซิตี้ ก็ได้ประตูตีเสมอ จากการโหม่งของ เอดิน เชโก้ ให้ แมนฯซิตี้ ไล่มา 2-2
แต่แล้ว ปาฏิหาริย์ ก็มีจนได้ เมื่อ แมนฯซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ มา เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลแหวกเข้ามา ก่อนบอลไปติดกองหลัง มาริโอ บาโลเตลลี่ จิ้มบอลมาหนึ่งจังหวะให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลแหวกมายิงยัดเสาแรก กลายเป็นประตูขึนนำ ในนาทีที่94 ให้ ซิตี้ แซงนำ 3-2
แล้วก็กลายเป็นประตูชัย ให้ แมนฯซิตี้ พลิกนรกเอาชนะ คิวพีอาร์ โดยยิง2ลูกในช่วงทดเจ็บ ให้ แมนฯซิตี้ กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างหัวใจจะวาย
รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้(4-2-3-1):โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่,แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา,เซร์คิโอ อเกวโร่,ซามีร์ นาสรี่,คาร์ลอส เตเวซ
สำรอง : คอสเทล พานติลิมอน,ไมกาห์ ริชาร์ดส์,เจมส์ มิลเนอร์,เล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,ไนเจล เด ยองก์,มาริโอ บาโลเตลลี่,เอดิน เชโก้
ควีนส์ปาร์ค(4-4-2):แพทริค เคนนี่,เนดุม โอนูโอฮา, คลินท์ ฮิลล์,แอนทอน เฟอร์ดินานด์,ตาเย่ ไตโว่,เจมี่ แม็คกี, โจอี้ บาร์ตัน, ฌอน เดอร์รี่,ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์,บ็อบบี้ ซาโมร่า, ฌิบริล ซิสเซ่
สำรอง:ราเด็ก เคอร์นี่,ดาเนี่ยล แกบบิดอน,อเดล ทารับต์,ดีเจ แคมป์เบลล์,เจย์ โบธรอยด์,อามองด์ ตราโอเร่,อกอส บุซซากี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น