ทีมฟันดาบเอเป้ของไทย โชว์ฟอร์มแกร่งผงาดคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ได้อย่างสวยงาม หลังโค่น ทีมเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ได้สำเร็จ ขณะที่ ขณะที่ ประเภทเซเบอร์หญิงสาวไทยทำได้เพียงแค่เหรียญทองแดงเท่านั้น หลังจบเกม "เจ้าอัพ" สุพจน์ ชวาลานฤมิต น้ำตาคลอ รับนี่คื
ฟันดาบ ชิง 2 ทอง ที่สนามมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ซึ่งทีมฟันดาบเอเป้ไทย ซึ่งประกอบด้วย วิทย์สรัช ก้องสุวรรณคีรี, ปัณถวิทย์ ฉ่ำเจริญ และ สุพจน์ ชวาลานฤมิต ทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอดเมื่อช่วยกันทำคะแนนจนเข้ารอบชิงชนะเลิศ เจอกับเจ้าภาพอินโดนีเซีย กติกาการแข่งขันจะทำการแข่งขันแบบพบกันหมด จะทำการแข่งขัน 9 บราวน์ ใครถึง 5 แต้มก่อนก็จะเปลี่ยนผู้เล่น และทีมใดถึง 45 คะแนนก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะ
คนแรกที่ลงทำการแข่งขันของไทย สุพจน์ ชวาลานฤมิต และเป็นฝ่ายอินโดนีเซียที่ทำได้ดีกว่านิดหน่อย ทำไปก่อน 5 แต้ม ขณะที่ไทยทำได้ 3 แต้ม ต่อจากนั้นเป็นคนที่สองของไทย วิทย์สรัช ก้องสุวรรณคีรี และเริ่มต้นการแข่งขัน วิทย์สรัชไล่จิ้มคู่ต่อสู้ทำคะแนนมาเสมอที่ 5-5 คะแนน และนักฟันดาบไทยก็ยังทำคะแนนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไทยขึ้นนำ 10-5 คะแนน
จากนั้นก็ถึงคิวของ ปัณถวิทย์ ฉ่ำเจริญ นักฟันดาบคนที่สามของไทย และไทยก็สามารถทำได้ 5 แต้มก่อน นำไปอีก 15-11 คะแนน จากนั้นนักกีฬาไทยกับอินโดนีเซียก็สลับคู่กันจนกว่าใครจะทำคะแนนถึง 45 แต้มก่อนจะเป็นฝ่ายชนะทั้งที่ไทยเป็นฝ่ายนำอยู่ แต่อินโดนีเซียก็ไล่ตามขึ้นมาจนเสมอที่ 27-27 คะแนน และก็เป็นอินโดนีเซียที่ขึ้นนำบ้าง 30-29 คะแนน
หลังจากทั้งสองทีมผลัดกันทำแต้มจนมาเท่ากันที่คะแนน 40-40 คะแนน ลุ้นอีก 5 แต้มสุดท้าย ซึ่งก็เป็น วิทย์สรัช ก้องสุวรรณคีรี ของไทยที่ลงทำการแข่งขัน โดยทั้งวิทย์สรัช และอินโดนีเซียต่างก็ทำคะแนนมาเสมอกันที่ 42-42 คะแนน แต่เวลาหมดลงเสียก่อน ทำให้ต้องมาตัดสินซัดเดนเดธ ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เพราะทั้งคู่ต่างก็เข้าทำพร้อมกันก่อนจะเป็นวิทย์สรัชที่เข้าทำอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายเอาชนะไป 43-42 คะแนน
คว้าทองประวัติศาสตร์ให้กับทีมเอเป้ชายอย่างสวยงาม ทองแดงเป็นของ มาเลเซีย กับเวียดนาม ขณะที่ประเภทเซเบอร์หญิงนั้น เหรียญทองเป็นของ อินโดนีเซีย เงิน เวียดนาม และทองแดง ไทย (ศิรวลัย สตารัตน์, อุไรพร แดนกมล, เปรมกมล เบ็ญจวรรณ, นันท์ทิพย์ ภูริยะพันธ์)
10ปีที่รอคอยยิ้มทั้งน้ำตา
"เจ้าอัพ" สุพจน์ ชวาลานฤมิต หัวหน้าทีมเอเป้ชาย ซึ่งเล่นมาถึง 2 ครั้ง กล่าวพร้อมกับกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจว่า "นี่คือเหรียญทองที่ทีมรอมานานกว่า 10 ปี เพราะเรายังไม่เคยได้เหรียญมานานมาก และเด็กชุดนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นซีเกมส์ครั้งแรก ทั้ง วิทย์สรัช ก้องสุวรรณคีรี, ปัณถวิทย์ ฉ่ำเจริญ และ วงศธร ทรงประไพ ทุกคนตั้งใจกันมาก เพราะเราต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก
โดยครั้งล่าสุดที่โคราชนั้นเราไม่ได้แม้แต่เหรียญเดียวเพราะตกรอบ แต่มาครั้งนี้เราสามารถทำเหรียญทองได้ เหรียญทองนี้ก็ขอให้กับทุกกำลังใจให้กับกองเชียร์ชาวไทยที่ร่วมกันเชียร์และติดตามพวกเรา ซีเกมส์ครั้งนี้ของผมอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะผมต้องกลับไปทำงานของตัวเองก็คือ สอนนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเมรุวราราม และก็ต้องขอบคุณผู้อำนวยการที่ให้โอกาสผมพักการสอนเพื่อมารับใช้ชาติในครั้งนี้ด้วยครับ"
ยิ้มร่าพร้อมลุ้นทีมฟอยล์17พ.ย.นี้
พลตรี ชาญชัย ยศสุนทร ผู้จัดการทีมฟันดาบทีมชาติไทยชุดซีเกมส์เปิดเผยถึงความสำเร็จของทีมฟันดาบไทยว่า ตอนนี้ฟันดาบไทยสามารถทำมาได้แล้ว 2 ทอง จากฟอยล์บุคคลเดี่ยว นนทพัฒน์ ปานจันทร์ กับทีมเอเป้ชาย นอกจากนี้เรายังสมารถทำได้อีก 1 เงิน และ 6 ทองแดง ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะประเภทเอเป้เหรียญนี้ที่เรารอคอยกันมานานมาก
และต้องชื่นชมเด็กๆ เพราะเด็กชุดนี้เก็บตัวและฝึกซ้อมกันหนักมาก และชุดนี้ยังเป็นชุดใหม่เกือบทั้งหมด และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารวมทีมกันในซีเกมส์ นอกจาก 2 เหรียญทองที่เราทำได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว เรายังเหลือลุ้นจากทีมฟอยล์ชาย เพราะเรามี นนทพัฒน์ ปานจันทร์ เจ้าของเหรียญทองในประเภทเดี่ยวชาย และ ศุภกร ศรีแตงอ่อน เหรียญเงินในประเภทชายเดี่ยวลงทำการแข่งขัน ดังนั้นฟอยล์ทีมจึงเป็นอีกประเภทที่เราเชื่อว่าไม่น่าพลาด
ขออนุญาติฝากประชาสัมพันธ์นะค่ะ
♥ วันนี้ ทุกๆ Like ของท่านบน แฟนเพจ 12BET จะช่วยซับน้ำตาพี่น้องชาวไทยผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่าน โดยมอบผ่านองค์การสภากาชาดไทย ..
ร่วมเป็นหนึ่งแรงใจฟื้นฟูความเสียหายอุทกภัยครั้งใหญ่ จากใจ 12BET ♥
ยอดสมทบทุนทั้งหมด มอบให้สภากาชาติไทยและครอบครัวข่าวช่อง 3 ค่ะ
ร่วมเป็น 52,000 Like แรกกับเรากันนะค่ะ !!!
https://www.facebook.com/12BET.Thai
ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น