4 นักชกไทยควงหมัดคว้าชัยสุดสวย วรพจน์ เพชรขุ้ม ถึงป่วยก็ยังทุบปินส์ดิ้น สายลม อาดี อัด เมียนม่าร์ กระเจิง โสภิดา สะทุมรัมย์ พลิกแซงสะเด่า ได้เข้าไปต่อยตัดเชือกทั้งสามคน ส่วน เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม สอนมวยสาวลาว ลิ่วชิงชนสาวปินส์แล้ว 17 พ.ย. ขณะที่ "ซูเปอร์ฮีโร่" มนัส บุญจำนงค์ ได้ฤกษ์ขึ้นสังเวียนระดับชาติ ครั้งแรกรอบ 3 ปีครึ่ง ดวลแชมป์เก่าจากมาเลย์ ลั่นไม่กดดัน จะกลับมาเป็นมนัสคนเดิมให้ดู
นิพนธ์ ขาวอุบล และ บรรพต ศรศาสตร์ ผู้สื่อข่าวและช่างภาพสยามกีฬา รายงานผลการแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่น กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่สอง และมีนักชกไทยขึ้นสังเวียนทั้งหมด 4 ปรากฏว่า กวาดชัยกันสุดสวยทุกรุ่น
โสภิดาพลิกแซงปินส์ดุเดือด
หมัดไทยคนแรกที่ขึ้นเวทีคือมวยสากลหญิง "น้องมุก" โสภิดา สะทุมรัมย์ ชกในรุ่น 51 กก. เจอกับ สาวฟิลิปปินส์ อนาลิซ่า คอนโคว่า ครูซ ทั้งคู่แลกหมัดกันสนุกตื่นเต้นมากๆ ในสองยกแรก โดยที่โสภิดาเปิดเกมลุยรัวหมัดเป็นชุดสุดคึก แต่จบยกแรกฟิลิปปินส์นำก่อน 6-4
ก่อนที่ยกสองจะเป็นโสภิดาที่พลิกสถานการณ์ไล่ขยี้อย่างหนัก ต่อยไม่มีหยุด พลิกแซงนำบ้างและแต้มห่างถึง 16-10 พอได้นำ "น้องมุก" ก็ชกอย่างได้ใจ รวมถึงสาวปินส์เจอไล่บดหนักๆ ออกอาการแผ่วอย่างเห็นได้ชัด หมดยกสาม โสภิดานำ 21-12 และยกสี่ ก็ประคองตัว ถอยวนไม่แลกด้วย ครบสี่ยก "โสภิดา" เอาชนะไป 25-12 แต้ม เข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับเวียดนาม ที่ชนะ พม่า ขาดลอย 21-7 แต้ม ในวันที่ 18 พ.ย.
น้องมุกเกร็งกลัวกลับบ้านมือเปล่า
"น้องมุก" โสภิดา ลงจากเวทีพร้อมชัยชนะ สีหน้ามีความสุขมาก เพราะเธอยอมรับเลยว่าชกครั้งนี้เกร็งมาก เพราะมีคนทางบ้านรอเชียร์อยู่มากมาย "เหนื่อยมากเลยค่ะไฟต์นี้ ผ่านศึกนี้ไปได้รู้สึกว่าโล่งใจมากเลย ก็ยอมรับว่าเกร็ง และตื่นเต้นมาก ยิ่งรู้ว่าแต้มเราตามด้วยก็ยิ่งต้องสู้สุดใจ คนทางบ้านเขารอดูเราอยู่ หนูไม่ยอมกลับบ้านมือเปล่าแน่ หนูต้องทำให้ได้
พอชนะลงมาได้ หนูรู้สึกโล่งมากเลย เพราะกลัวจะกลับบ้านมือเปล่า หนูจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้ค่ะ เจอกับเวียดนามรอบหน้าก็ไม่ประมาทค่ะ สำหรับหนูแล้วคู่แข่งทุกคนน่ากลัวหมด เราต้องชกเต็มที่ทุกไฟต์"
เปี่ยมวิไลสอนเชิงสาวลาวหลุดลุ่ย
ต่อมาสาวไทยอีกคนที่ขึ้นชกในรุ่น 54 กก. "เจ้าแสบ" เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม เจอกับ วิไลพอน ดาหวัน นักชกหญิงของลาว คู่นี้เปี่ยมวิไลฝีมือเหนือกว่าบานตะเกียง ชกแบบไม่ต้องเหนื่อยใจอะไรเลย เปิดยกแรกก็ไล่ต่อยนำห่าง 5-0 ยกสองหนีไปเป็น 10-0 แต่สาวลาวก็สู้สุดใจไม่ยอมแพ้เกมศูนย์
ก่อนตีไข่แตกได้สำเร็จ หมดยกสาม เปี่ยมวิไลนำ 15-1 และยกที่สี่ เปี่ยมวิไลจะชกแบบประคองเกม ไม่แลกให้เจ็บตัว ก่อนเอาชนะไปแบบมวยคนละชั้น 17-3 แต้ม ได้ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับสาวฟิลิปปินส์ เพเดอซิโอ เนส ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ในวันที่ 19 พ.ย. เพราะรุ่นนี้มีส่งแข่งแค่สามชาติเท่านั้น
แสบบอกโชคดีที่ได้อุ่นเครื่องก่อน
"เจ้าแสบ" เปี่ยมวิไล ลงจากเวทีก็ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าสดใสว่า "วันนี้เขาไม่ได้หมูนะ ก็เหนื่อยเหมือนกัน ก็ดีค่ะที่ได้เคลื่อนไหวอุ่นเครื่องก่อน ซ้อมมาตั้งนานและมาอยู่นี่เกือบอาทิตย์แล้ว ก็อยากขึ้นชกเรียกความมั่นใจสักหน่อย เจอกับฟิลิปปินส์เขาไม่ใช่หมูแน่ เคยเห็นเขาชกมาแล้ว ใช้ได้เลยนะ
แต่เราโชคดีที่ได้เคลื่อนไหว ทำให้เราปรับสภาพได้บ้าง ก็มั่นใจ 80 เปอร์เซ็นต์จะได้เหรียญทอง อีก 20 เปอร์เซ็นต์ต้องไปวัดบนเวที เผื่อใจไว้เจ็บบ้าง จะได้ไม่เสียใจมาก แต่หนูเต็มที่แน่นอนค่ะ"
ตัดแต้มวรพจน์ได้เก๋าชนะปินส์
มาถึงคนที่สามของทีมกำปั้นไทย วรพจน์ เพชรขุ้ม เจอกับนักชกตากาล็อก โจแอล แคนตันวิโอ ในรุ่น 56 กก. ยกแรก "ฮีโร่กว่างโจวเกมส์" พลิ้วถอยวนดักบวกหมัดขวา แย็บซ้ายสวยงาม ชิงจังหวะต่อยนำไปก่อน 3-2 ยกสอง มวยปินส์ไล่บด แต่ก้มต่ำเจอกรรมการสั่งตัดแต้ม ทำให้วรพจน์ชกอย่างมั่นใจ ดักต่อยลำตัว แย็บซ้าย ฮุกซ้าย เลือกต่อยแบบเน้นๆ ไม่ปะทะมากนัก
ขึ้นยกสาม วรพจน์นำ 8-3 ออกมายกสุดท้ายเลยชกแบบถอยวนไปรอบเวที แต่ก็พลาดเจอตัดแต้มด้วยเหมือนกัน เพราะไปพุ่งเข้ากอด ยังดีที่อาศัยลูกเก๋า บล็อกหมัดได้ดี แล้วทิ่มซ้ายสกัดเหนือชั้น ครบยก "วรพจน์" ชนะไป 12-6 แต้ม เข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับมวยพม่า คะยอ คะยอ แลท ต่อไปในวันที่ 18 พ.ย.
พจน์ป่วยฟิตแค่60เปอร์เซ็นต์
วรพจน์ เพชรขุ้ม เปิดใจหลังชกว่าการชกครั้งนี้ ตนมีปัญหาสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ยอมรับว่าไม่สบายมาร่วมสัปดาห์แล้ว "ชกไฟต์นี้ไม่สบายเลยครับ เพราะผมไม่สบายจริงๆ อากาศมันเปลี่ยน ตั้งแต่อยู่สนามบินจาการ์ตาแล้ว เดี้ยงตั้งแต่วันแรกแล้ว เป็นไข้แล้วทำให้ซ้อมได้ไม่เต็มร้อย ก็กินยาของทาง กกท. ที่จัดมาให้ครับ
ยอมรับเลยว่าชกอืดมาก สภาพของผมตอนนี้แค่ 60 เปอร์เซ็นต์ ชนะได้ก็โอเคนะ หลังจากฟื้นไข้มา มาเจออากาศร้อน เจอฝุ่นของอินโดฯอีก แทบแย่เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นหน่อยแล้ว เจอกับพม่าก็คงไม่ง่าย แต่ก็เชื่อว่าจะผ่านได้ และมั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองที่ 5 ให้กับตัวเองได้ และคว้าเหรียญทองให้พี่น้องชาวไทยได้ชื่นใจด้วยเช่นกันครับ"
สายลมมันมือตะบันพม่าไม่มีเสียว
นักชกคนสุดท้ายที่ขึ้นชกเมื่อวาน สายลม อาดี เจอกับ พม่า เพียว พโย เฮือน ในรุ่น 60 กก. คู่นี้ สายลม นักชกจากขอนแก่น ฝีมือครบเครื่องเหนือกว่าทุกอย่าง เปิดเกมยกแรกก็เดินไล่ต่อยนำไปก่อน 5-2 นักชกพม่าพยายามสาวหมัดแลก แต่สายลมต่อยแม่นกว่า หมดยกสอง สายลมดักฮุกซ้ายเต็มๆ หลายหมัด นำห่าง 12-3 แต้ม
และยกสุดท้าย สายลมเปลี่ยนมารับรอบวกบ้าง ก็ทำได้ดีกว่าก่อนเอาชนะไปขาดลอย 18-5 แต้ม ได้เข้ารอบตัดเชือกไปพบกับนักชกฟิลิปปินส์ ชาร์ลี ซัวเรส ต่อไป ในวันที่ 19 พ.ย.
สายลมลุ้นทีละรอบตัดปินส์หืด
สายลม อาดี หอบตัวโยนลงมา เพิ่งไล่ทุบมวยพม่าจนเหนื่อย ก่อนกล่าวว่า "เป็นไปตามเกมที่เราวางแผนไว้ครับ แต่ยังอืดไปหน่อย เพราะเพิ่งชกนัดแรก ที่จริงผมน่าจะชกได้ดีกว่านี้ ก็ดีใจครับที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป เจอกับฟิลิปปินส์รอบตัดเชือก ผมไม่เคยชกกับเขา แต่เคยเห็นฝีมือมาแล้ว ใช้ได้เลย คงจะเป็นนัดที่ผมต้องชกให้ดีที่สุด ส่วนนัดชิงตอนนี้ยังไม่นึกถึง เอาให้ผ่านรอบตัดเชือกไปก่อนดีกว่า ผมเต็มที่ทุกรอบครับ"
หนักใจเจอเจ้าภาพ-วิตกกก.
ทางด้าน พ.อ.ศักดา เพชรจินดา ประธานเทคนิคสมาคมมวยสากลฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังสี่นักชกคว้าชัยกันทั่วหน้าว่า "จากผลงานของทั้งสี่คน ผมดูว่าเรายังอืดไปหน่อย เจอกับมวยต่ำชั้นกว่า แล้วต่อยอ่อนตามไปด้วย เจอกับระดับเวิลด์คลาสต้องขยันกว่านี้ การเคลื่อนที่ต้องมากกว่านี้ ไฟต์หน้าต้องดีกว่านี้ ส่วนวันพฤหัสฯนี้ ฉัตรชัย, มนัส, อภิเชษฐ์ ผมว่าไม่น่ามีปัญหา เราจะชนะทั้งหมด เพราะคู่แข่งยังห่างกับเรามาก
จากสองวันที่ผ่านมา นักมวยแต่ละชาติผมไม่หนักใจนะ แต่ผมชักหวั่นใจเรื่องกรรมการ โดยเฉพาะถ้าต้องเจอกับอินโดนีเซีย เพราะไม่รู้การให้คะแนนสรุปจะมีปัญหาตามมาบ้าง ยอมรับว่ากลัวถ้าต้องเจอเจ้าภาพ แล้วตอนชกแต้มเราไม่ขึ้นครับ"
วันนี้(17 พ.ย.)เชียร์สด,เติ้ล,เอ
สำหรับ วันนี้ (17 พ.ย.) นี้ ศึกมวยซีเกมส์ ที่เริ่มลุยตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป จะมีนักชกไทยขึ้นสังเวียนทั้งหมด 3 รุ่น คือ "เจ้าสด" ฉัตรชัย บุตรดี พบกับ มาเลเซีย, "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ พบกับ มาเลเซีย เช่นกัน และอีกคน "เจ้าเอ" อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ตัดเชือกกับ เวียดนาม ซึ่งเมื่อดูจากคู่ชกของทั้งสามคน ไม่น่ามีปัญหาที่จะคว้าชัยเพื่อทะลุเข้าสู่รอบต่อไป
โดยรุ่นของฉัตรชัยนั้นถ้าชนะได้ก็จะเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วนมนัสกับอภิเชษฐ์ถ้าชนะก็จะเข้ารอบชิงเหรียญทองทันที คาดว่าในคู่ของมนัสนั้นจะได้รับความสนใจติดตามจากชาวไทยอย่างมากแน่ เนื่องจากเป็นซูเปอร์สตาร์ที่คว้าเหรียญทองและเหรียญเงินโอลิมปิกได้สองสมัย
ชกตามสไตล์มนัสไม่กดดัน
"เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ มีโปรแกรมจะเจอกับแชมป์เก่าจากมาเลเซีย ในรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.) วันที่ 17 พ.ย.นี้ เจ้าตัวบอกว่า ไม่มีความกดดันอะไรแม้จะเรื้อเวทีไปนานกว่าสามปี ศึกซีเกมส์สำหรับตนแล้วบอกได้เลยว่าเป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง เพื่อเป้าหมายไปชกโอลิมปิก แต่ก็จะไม่ประมาท ตัดเชือกกับมาเลย์เรื่องฝีมือความเก๋าเราเหนือกว่าแน่ ถ้าเราทำให้เขามาต่อยตามเกมของเราได้ก็ไม่น่ามีปัญหา
ส่วนรอบชิงเหรียญทองต้องเจอกับนักชกอินโดนีเซียเจ้าภาพ ที่ชนะคะแนนเวียดนามขาดลอย 19-9 มนัสเผยว่า ตนนั่งดูฟอร์มอยู่สองยก เห็นเลยว่ามวยอินโดฯไม่ได้เก่งเท่าไหร่ ชกสองหมัดเหมือนว่ายน้ำ และส่วนใหญ่จะฟาดโดยท่อนแขนซะส่วนใหญ่ ดูแล้วเอาชนะไม่ยาก ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการตัดสินอย่างเดียว
ขออนุญาติฝากประชาสัมพันธ์นะค่ะ
♥ วันนี้ ทุกๆ Like ของท่านบน แฟนเพจ 12BET จะช่วยซับน้ำตาพี่น้องชาวไทยผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่าน โดยมอบผ่านองค์การสภากาชาดไทย ..
ร่วมเป็นหนึ่งแรงใจฟื้นฟูความเสียหายอุทกภัยครั้งใหญ่ จากใจ 12BET ♥
ยอดสมทบทุนทั้งหมด มอบให้สภากาชาติไทยและครอบครัวข่าวช่อง 3 ค่ะ
ร่วมเป็น 52,000 Like แรกกับเรากันนะค่ะ !!!
https://www.facebook.com/12BET.Thai
ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น