รอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยวเมื่อวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่นประเทศอังกฤษ ณ ออล อิงแลนด์ คลับ เซเรนา อดีตมือ 1 ของโลกชาวสหรัฐฯ ชนะ รัดวานสกา มือ 3 จากโปแลนด์ 2-1 เซต 6-1,5-7,6-2 โดยเสิร์ฟเอซได้ถึง 17 ครั้งรวมทั้งทัวร์นาเมนต์ทำไป 102 ครั้งทุบสถิติเดิมของเธอที่ทำไว้ 89 ครั้งเมื่อปี 2010 คว้าแชมป์ วิมเบิลดัน สมัยที่ 5 ต่อจากปี 2002,2003,2009 และ 2010 รวมถึงเป็น แกรนด์ สแลม ลำดับที่ 14 พร้อมรับเงินรางวัล 1,150,000 ปอนด์ (ประมาณ 57.5 ล้านบาท) ขณะเดียวกันวันจันทร์ที่จะถึงนี้จากการประกาศอันดับของ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ จะขยับรั้งมือ 4 ของโลกอย่างเป็นทางการ ส่วน รัดวานสกา จะขึ้นไปเป็นมือ 2
หลังเกม เซเรนา กลายเป็นนักเทนนิสวัย 30 ปีขึ้นไปที่คว้าแชมป์ แกรนด์ สแลม ต่อจาก มาร์ตินา นาฟราติโลวา เมื่อปี 1990 กล่าวว่า "ฉันไม่รู้ว่าตนเองจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มี วีนัส รวมถึงไม่รู้ว่าจะได้แชมป์ แกรนด์ สแลม หรือไม่และจะได้เล่นเทนนิสหรือเปล่า เพราะเรามักทำอะไรด้วยกันเสมอ ฉันเติบโตขึ้นมาพร้อมลอกเลียนแบบอะไรหลายอย่างมาจากเธอ ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจและนำทางฉันตั้งแต่ชัยชนะครั้งแรก รวมถึงกลายเป็นมือ 1 ของโลก ฉันทำงานอย่งหนักและต้องการทำทุกสิ่งด้วยกำลังของตนเอง แต่เหนือใดคิดไม่ออกเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าไม่มีเธออยู่ข้างๆ"
พร้อมกันนี้ เซเรนา ยังประสานงานกับ วีนัส คว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ประเภทหญิงคู่หลังเอาชนะ อันเดรีย ฮลาวัคโควา และ ลูซี ฮราเด็คกา คู่มือ 6 ของรายการจากเช็ก 2-0 เซต 7-5,6-4 โดยถือเป็นแชมป์หญิงคู่ระดับ แกรนด์ สแลม ครั้งที่ 13
สำหรับ วีนัส วัย 32 ปีตกรอบแรก วิมเบิลตัน เมื่อแพ้ให้กับ เอเลนา เวสนินา จากรัสเซีย ถือเป็นผลงานเลวร้ายที่สุดของเธอนับตั้งแต่ลงแข่งรายการนี้เมื่อปี 1997 ปัจจุบันรูดรั้งมืออันดับ 58 ของโลก มีโอกาสสูงที่จะแขวนแร็กเก็ตหลัง แกรนด์ สแลม สุดท้ายของปีนี้คือ ยูเอส โอเพน รวมถึงรับใช้ สหรัฐฯ ในศึก โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ ที่จะเปิดฉากวันที่ 27 กรกฎาคมนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น