บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ร่วมกับสหพันธ์สมาคมกีฬาแห่งชาติ มอบกรมธรรม์คุ้มครองประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (กลุ่ม) ให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 30 "ลอนดอนเกมส์ 2012" ที่ประเทศอังกฤษ
โดยมี พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาแห่งชาติ, พิตราภรณ์ บุณยรัตนพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด, ศ.เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุม 222 อาคารราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กทม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2555
ความคุ้มครองดังกล่าวมีวงเงินสูงถึง 41 ล้านบาท (รายละ 1 ล้านบาท) โดยจะคุ้มครองทั้งในกรณีอุบัติเหตุระหว่างการฝึกซ้อมและในระหว่างการแข่งขัน รวมไปถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ, ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ, คุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย แต่ไม่รวมถึงเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ส.ค. 2555
ทาง พิตราภรณ์ บุณยรัตนพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า การคืนกำไรให้กับสังคมในทุกๆ ด้านเป็นเรื่องที่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิตได้ทำมาโดยตลอด โดยเฉพาะในด้านกีฬา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้มีส่วนในการให้ความคุ้มครองนักกีฬาไทยที่จะไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน เพื่อให้นักกีฬาทุกคนได้อุ่นใจและมีสมาธิในการแข่งขัน ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุในระหว่างแข่ง
ด้าน "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย กล่าวว่า สมาพันธ์สมาคมกีฬาแห่งชาติ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ในการมอบความคุ้มครองให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะไปแข่งโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ "เสธ.ยอด" ยังได้เผยถึงเรื่องค่าปรับที่จะนำไปจ่ายให้กับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กรณีที่นักยกน้ำหนักเยาวชนไทยถูกตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม 7 คน เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาทว่า ขณะนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อไปจ่ายค่าปรับก่อน และจะมีการหักชำระหนี้คืนให้หลังจากที่มีการจัดสรรงบประมาณทางกีฬาในปีหน้า
โดยการชำระเงินค่าปรับให้กับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติจะแบ่งเป็น 2 งวดคือ งวดแรกจำนวน 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ ก่อนวันที่ 1 ก.ค. 2555 งวดที่สองจำนวน 1.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ ก่อนวันที่ 1 ธ.ค. 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น