ถือเป็นคู่แรกของศึก ยูโร 2012 ที่ โปแลนด์ และ ยูเครน ซึ่งต้องต่อเวลาออกไปและตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า อังกฤษ ยิงเข้าแค่ 2 คน คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เวย์น รูนีย์ ส่วนเพชฌฆาตของ อิตาลี มาริโอ บาโลเตลลี อันเดรีย ปิร์โล อันโตนิโอ โนเชริโน และ อเลสซานโดร เดียมานติ ซัดไม่พลาด ส่งผลให้ “อัซซูรี” เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายไปพบกับ เยอรมนี แชมป์สูงสุด 3 สมัย วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายนนี้ต่อไป
หลังเกมมีคนรุมซูฮก ปิร์โล กองกลางวัย 33 ปี ที่พา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต อิตาลี แบบไร้พ่ายเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา รวมถึง เรดแน็ปป์ คอลัมนิสต์ของสำนักข่าว “เดลี เมล” ว่า “คืนวันอาทิตย์ผมไม่รับโทรศัพท์เลย เพราะคงจะต้องมีคนโทร.มาบอกว่า “นักเตะแบบ ปิร์โล ของเราล่ะ ทำไมจึงไม่สามารถเล่นได้แบบนั้น ไม่มีทางที่จะเทียบเขาติดเลยหรือ” ถือเป็นหนึ่งในผลงานของกองกลางที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา แต่เราก็มีแนวทางของตัวเองแข้งที่ตอนนี้กำลังเร่งเรียกความฟิต ต้องภาวนาให้หายเร็วๆ ซึ่งคนๆ นั้น ก็คือ แจ็ค วิลเชียร์ ของ อาร์เซนอล”
“วิลเชียร์ สามารถผ่านบอลแบบ ปิร์โล โดยสวมบทเป็นจอมทัพในระบบมิดฟิลด์ 3 คน ฟุตบอลระดับทัวร์นาเมนต์แสดงให้เห็นว่า 2 คนสู้กองกลาง 3 คนของคู่ต่อสู้ไม่ได้จริงๆ อังกฤษ พึ่ง สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ สกอตต์ ปาร์เกอร์ มากเกินไป ผมเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่เกมแรกแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อคืนก็ได้เห็นแล้วรายแรกขโยกเขยก รายที่ 2 วิ่งจนหมดแรง” อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ วัย 38 ปีเผย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น