ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555
ลิเวอร์พูล 0 - 1 ฟูแล่ม
สนาม : แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูลซึ่งไม่เคยแพ้คารังให้กับฟูแล่มในลีกปรับทีมเก้ารายจากเกมบุกไปขยี้นอริช 3-0 รอเล่นนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพกับเชลซีในวันเสาร์นี้เหลือแค่จอนโจ้ เชลวีย์กับจอร์แดน เฮนเดอร์สันในโผตัวจริงเพียงแค่สองรายเท่านั้น
ขณะเดียวกัน สตาร์อย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด , โฆเซ่ เรน่า , หลุยส์ ซัวเรซ และเคร็ก เบลลามี่ต่างก็ได้พักทั้งหมด
ส่วนเจ้าสัวซึ่งเกมล่าสุดบุกไปแพ้เอฟเวอร์ตันยับ 4-0 ยังไม่มีกุนซือมาร์ติน โยลที่ป่วยคุมทีม ทำให้ผู้ช่วยบิลลี่ แม็คกินลีย์ทำหน้าที่แทนเป็นเกมที่สอง แต่กลับมาใช้งานแดนนี่ เมอร์ฟีย์อดีตกองกลางเร้ด แมชีนและสตีเฟ่น เคลลี่ พร้อมเปิด
โอกาสให้ดาวรุ่งอเล็กซ์ คากานิคลิชได้โชว์ฝีเท้าเป็นการปรับทัพสามจุด
เริ่มเกมมา 5 นาทีลิเวอร์พูลก็สังเวยประตูให้กับทีมเยือนอย่างเร็วจี๋เมื่อคลิน เดมป์ซีย์ไหลบอลออกกราบซ้ายให้ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่อดีตกองกลังหงส์เติมไปโยนบอลเข้าหาเสาแรกโดยมีพาเวล โปรเกร็บเนี๊ยคชาร์จ แต่บอลกระดอนไปโดนหน้าอก มาร์ติน สเคอร์เทล กัปตันทีมเจ้าบ้าน เป็นการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองโดยที่อเล็กซานเดอร์ โดนี่ผวาปัดไม่ทันทำให้ทีมจากลอนดอนนำ 1-0
ถัดมาในนาทีที่ 15 เดมป์ซีย์ก็แผลงฤทธิ์ชิพบอลจากแถวสองข้ามแนวรับลิเวอร์พูลให้โปรเกร็บเนี๊ยคสปีดเข้าจิ้มด้วยหัวเกือกระยะ 12 หลา ทว่าโดนี่กระโจนปัดทิ้งได้ทัน
กระทั่งนาทีที่ 24 เจ้าบ้านจึงจะได้เสียวจากจังหวะขลุกขลิกหน้าเขตโทษที่บอลปลิ้นมาให้เดิร์ก เคาท์ปราดเข้าส่องระยะ 20 หลาเฉี่ยวกรอบประตูออกไป
จากนั้นอีกสี่นาที หงส์แดงก็น่าจะตีเสมอได้จากการวางบอลยาวทางกราบขวาที่มาร์ค ชวาร์เซอร์ขยับออกมาคว้าหลุดมือ แล้วเชลวีย์ได้เก็บตกจาก 15 หลาผ่านการปัดของชวาร์เซอร์แล้ว แต่มีเบรเด้ ฮังเกลันด์เตะทิ้งได้ก่อนที่บอลจะพ้นเส้นประตู
เกมของลิเวอร์พูลเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ และนาทีที่ 36 จากลูกเตะมุมด้านขวา แอนดี้ แคร์โรลล์ก็โขกจากเสาไกลกลับมาให้มักซี่โหม่งจาก 12 หลาโด่งข้ามคานออกไป
ล่วงมาถึงนาทีที่ 45 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีกหน คราวนี้เป็นฟาบิโอ ออเรลิโอตักบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้แคร์โรลล์โขกจาก 12 หลา แต่บอลไปตรงตัวให้ชวาร์เซอร์ปัดได้พอดี จบครึ่งแรกเจ้าสัวจึงนำหน้า 1-0
ครึ่งหลังเจ้าบ้านส่งสจ๊วร์ต ดาวนิ่งลงเล่นแทนเฮนเดอร์สัน และนาทีที่ 49 ก็ได้เสียวเมื่อเดมป์ซีย์ลงต่ำไปรับบอลจากฮังเกลันด์แล้วลื่นล้ม เลยถูกเจย์ สเพียริ่งฉกไปยิงจาก 20 หลา ดีที่ว่าชวาร์เซอร์ล้มตัวตะครุบได้
ล่วงมาในนาทีที่ 54 ฟูแล่มก็ได้ลุ้นเช่นกันจากลูกเตะมุมฝั่งขวาของเดเมี่ยน ดัฟฟ์ที่เดมป์ซีย์ได้โขก แต่บอลเฉี่ยวเสาแรกออกไป
ให้หลังอีกสี่นาที ทีมเยือนเปลี่ยนคากานิคลิชออกส่งเคริม ฟรายลงไปแทน แต่นาทีเดียวกันนี้เกือบเสียประตูคืนให้เจ้าบ้านเมื่อมักซี่เกี่ยวบอลหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปตะบันระยะ 12 หลา แต่มีฮังเกลันด์ตามมาบล็อคได้ทัน ทำให้บอลเปลี่ยนทิศหลุดออกเส้นหลัง
ถึงนาทีที่ 62 ฟูแล่มเกือบหนีไปอีกเม็ดจากจังหวะที่เดมป์ซีย์พาบอลลุยขึ้นทางขวาแล้วป้ายไปอีกฝั่งให้ฟรายเข่นจากหน้าเขตโทษ แต่บอลชนเสาแรก
นาทีต่อมา เดมเบเล่ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้รีเซ่สปีดหนีมาร์ติน เคลลี่เข้าส่อง แต่มีโดนี่ปรี่เข้าบล็อคที่เสาแรกได้สำเร็จ นาทีที่ 64 เร้ด แมชีนได้โอกาสอีกครั้งจากการวางบอลทางฝั่งซ้ายของออเรลิโอ แต่แคร์โรลล์โขกจากหกหลาที่เสาแรกไม่เข้ากรอบก่อนจะมีการเปลี่ยนออเรลิโอออกให้โฆเซ่ เอ็นริเก้ลงสนามในนาทีที่ 66
จากนั้นในนาทีที่ 76 หงส์แดงก็ปล่อยดาวรุ่งราฮีม สเตอริ่งลงไปแทนเคาท์ แต่ไม่อาจทวงสกอร์คืนได้แม้จะพยายามแล้ว
"เจ้าสัวน้อย" ยังเล่นได้ดีและเกือบได้ประตูที่สองในนาทีที่ 78 เมื่อ เมอร์ฟี่ จ่ายบอลให้ฟราย แทงบอลต่อให้ เด็มพ์ซี่ย์ หลุดไปทางซ้ายของเขตโทษก่อนซัดทันทีแต่โดนี่ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันได้เยี่ยม
เกมในช่วงเวลาที่เหลือก่อนทดเวลาบาดเจ็บหงส์แดงพยายามบุกหนักหวังทวงประตูตีเสมอแต่ก็หาจังหวะจบไม่ลง
ช่วงทดเวลานาทีที่ 93 หงส์แดง มาได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่ แคร์โรลล์ ถูกทำฟาวน์นอกเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา จอนโจ้ เชลวีย์ อาสารับหน้าที่ซัดฟรีคิกแต่บอลโด่งแรงข้ามคานออกไปจบเกมเจ้าสัวจึงบุกมาคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 1-0 อันดับยังอยู่ที่เดิมทั้งคู่ แต่ทีมเยือนทำแต้มเท่าเจ้าบ้านโดยเป็นรองแค่ประตูได้เสีย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อเล็กซานเดอร์ โดนี่, มาร์ติน เคลลี่, เซบาสเตียน โกอาเตส, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ (โฆเซ่ เอ็นริเก้ น.65), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง น.46), จอนโจ เชลวี่ย์, เจย์ สเพียร์ลิ่ง, มักซี่ โรดริเกซ, เดิร์ค เค้าท์ (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.76), แอนดี้ แคร์โรลล์
สำรองไม่ได้ใช้ : แบร็ด โจนส์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, จอน ฟลานาแกน, แจ็ค โรบินสัน
ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อาร่อน ฮิวจ์ส, ยอน อาเน่ รีเซ่, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, แดนี่ เมอร์ฟี่, มุสซ่า เด็มเบเล่ (คริส แบร็ด น.86), อเล็กซ๋ คารานิกลิช (เคริม ฟราย น.58), คลิ้นท์ เด็มพ์ซี่ย์, พาเวล โพเกรบเนี๊ยค (ดิ๊กสัน เอตูฮู น
สำรองไม่ได้ใช้ : เดวิด สต็อคเดล, คาร์ลอส ออร์ลันโด้ ซา, ปาจติม คาซามี่, แม็ตธิว บริ๊กก์ส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น