ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ ระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เตรียมเตรียมส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ลงตัวจริงลุ้นปิดสกอร์อีกครั้ง โดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะกลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมบัญชาทัพรบ เกมปะทะแข้งกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ที่จะส่ง นิคิช่า เยลาวิช ดาวยิงเลือดโครแอตที่กำลังฟอร์มเข้าฝักลงหวังยิงหักปีกหงส์ ตามชมและเชี้ยร์ได้ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 14 เม.ย. ศกนี้
ปรีวิว ฟุตบอล เอฟเอ คัพ
รอบรองชนะเลิศ
วันเสาร์ที่ 14 เมษายน 2555
ลิเวอร์พูล - เอฟเวอร์ตัน
สนาม : เวมบลีย์
ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ ฉบับเอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน โคจรมาพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 ซึ่งครั้งนั้นเป็นเกมรอบ 4 ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ผ่านเข้ารอบโดยต้องเล่นนัดรีเพลย์
เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ หงส์แดง เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี หลังตัดสินใจพัก สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม กับ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่ง ในเกมล่าสุดที่บุกชนะ แบล็คเบิร์น 3-2
แต่ข่าวร้ายคือ อเล็กซานเดอร์ โดนี่ ประตูมือ 2 ที่คาดว่าจะเฝ้าเสาแทน โฆเซ่ เรน่า มือ 1 ที่ยังเหลือโทษแบนอีก 1 นัด ดันมาโดนใบแดงไปอีกในเกมที่ อีวู้ด พาร์ค ทำให้ต้องส่งมือ 3 แบร๊ด โจนส์ ลงเฝ้าเสาที่ เวมบลีย์
ข่าวดีคือ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวา กับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ พร้อมลงทำหน้าที่เป็นตัวจริงทั้งคู่ หลังหายเจ็บกลับมา และผ่านเกมกับ แบล็คเบิร์น มาแล้วทั้งคู่
การจัดทัพ 4-4-2 แบร๊ด โจนส์ เฝ้าเสา แผงหลัง เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลาง เจย์ สเปียริ่ง กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นตัวตัดเกม แนวรุก สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เค้าท์, มักซี่ โรดริเกซ หน้าเป้า หลุยส์ ซัวเรซ
ทางฝั่ง เดวิด มอยส์ กุนซือ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ผลงานกำลังยอดเยี่ยม 5 นัดหลังรวมทุกรายการ ชนะ 4 เสมอ 1 โดยเกมล่าสุดถล่ม ซันเดอร์แลนด์ 4-0 จาก มากาย กูเอเย่, สตีเว่น พีนาร์, ลีออน ออสแมน และ วิคเตอร์ อนิเชเบ้
สภาพทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน สตีเว่น พีนาร์ กองกลางที่ยืมมาจาก สเปอร์ส ติดคัพ-ไท เพราะเคยเล่นถ้วยใบนี้ในรอบ 3 มาแล้ว แต่ มอยส์ ก็จะเรียกตัวหลักหลายคนกลับมาเป็นตัวจริง
เลห์ตัน เบนส์ แบ็กซ้าย, ทิม เคฮิลล์ กองกลางจอมถล่มประตู และ นิคิช่า เยลาวิช กองหน้าโครแอตที่กำลังร้อนแรง ถูกพักใช้งานในเกมล่าสุด จะกลับคืนสิบเอ็ดคนแรกทั้งหมด
ดาร์รอน กิ๊บสัน กองกลางเท้าหนัก ก็มีโอกาสกลับมาเป็นตัวจริงด้วย หลังมีชื่อเป็นตัวสำรองเกมล่าสุด แต่ไม่ได้ลงเล่นเช่นเดียวกับ ซิลแว็ง ดิสแต็ง
ระบบการเล่น 4-5-1 ทิม ฮาวเวิร์ด เฝ้าเสา แผงหลัง โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ แดนกลาง ลีออน ออสแมน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, มารูอาน เฟลไลนี่, ทิม เคฮิลล์, รอยสตัน เดรนเธ่ หน้าเป้า นิคิช่า เยลาวิช
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : แบร๊ด โจนส์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - เจย์ สเปียริ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด - สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เค้าท์, มักซี่ โรดริเกซ - หลุยส์ ซัวเรซ
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - ลีออน ออสแมน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, มารูอาน เฟลไลนี่, ทิม เคฮิลล์, รอยสตัน เดรนเธ่ - นิคิช่า เยลาวิช
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
หงส์คึกหลังอัดทอฟฟี่สองนัดซีซั่นนี้
ผลงานการพบกันช่วงหลังระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน ปรากฏว่าเป็นทางฝั่ง หงส์แดง ที่โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าพอสมควร โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ในพรีเมียร์ลีก 2 นัด ลิเวอร์พูล คว้าชัยเหย้า-เยือนแบบไม่เสียประตูเลยด้วย
ซีซั่นนี้ หงส์แดง เริ่มต้นด้วยการบุกชนะที่ กูดิสัน พาร์ค 2-0 จากการยิงของ แอนดี้ แคร์โรลล์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนเกมที่ แอนฟิลด์ จะถล่มทีมเยือนไปอีก 3-0 จากแฮตทริกของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นอกจากนี้ 3 นัดหลังสุดที่พบกัน เอฟเวอร์ตัน ยังไม่พบชัยชนะเลยด้วย
6 นัดหลังสุดที่พบกันเป็นเกมพรีเมียร์ลีกล้วนๆ ใน 3 ฤดูกาลหลัง ปรากฏว่า ทอฟฟี่สีน้ำเงิน พบชัยชนะเพียงเกมเดียว คือเกมที่ กูดิสัน พาร์ค ที่ชนะ 2-0 ในปี 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น