"เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มสุดดุ ยกพลบุกถล่ม "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช แบบไร้ความปราณี 6-1 คาร์ลอส เตเวซ คืนชีพ โชว์ลีลายิงแฮตทริกในเกมนี้ ทำให้เรือใบเก็บสามคะแนน ทำแต้มไล่บี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มีคิวเตะวันอาทิตย์แค่สองแต้ม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ ที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ ที่ 14 เมษายน 2555
นอริช 1-6 แมนฯ ซิตี้
สนาม : แคร์โรว์ โร้ด
เจ้าบ้าน นอริช ยึดตัวผู้เล่นหน้าเดิมๆ จากชุดบุกชนะ สเปอร์ส นำโดยกองหน้ากัปตันทีม แกร้นท์ โฮลต์ ส่วน แมนฯ ซิตี้ จัดอาวุธหนักทั้ง คาร์ลอส เตเวซ, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ดาบิด ซิลบา และ ซามีร์ นาสรี่ ลงสนาม หวังเก็บสามแต้ม ไล่จี้จ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีคิวเล่นวันอาทิตย์
ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกหมัดกันทันที และเจ้าบ้านได้เสียวในนาทีที่ 5 เมื่อ แอนโธนี่ พิลคิงตัน ปีกซ้ายตัวเก่ง ได้บอลทางกราบซ้ายแล้วล็อกหลบตัวประกบหักเข้าในก่อนอัดเน้นๆ ด้วยซ้ายหลุดเสาสองแบบมีลุ้น
"เรือใบสีฟ้า" โต้ตอบทันควันในไม่กี่อึดใจถัดมาเมื่อ คาร์ลอส เตเวซ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วแตะให้ ดาบิด ซิลวา กระหน่ำเต็มข้อไม่ถึงสิบหลาตรงตัว จอห์น รัดดี้
แมนฯ ซิตี้ เริ่มเร่งเกม นาทีที่ 9 เตเวซ โดนย่ำเท้าจนล้มในกรอบ แต่ผู้ตัดสิน คริส ฟอย ไม่ให้จุดโทษ แถมยังชูใบเหลืองให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์อีก ก่อนที่จังหวะต่อมา เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" จะเรียกร้องจะเอาจุดโทษอีกหลังโดนกระแทกหน้าคะมำ ทว่าก็ยังไม่ได้
นาทีที่ 14 "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ใกล้เคียงต่อการได้ประตูสุดๆ เมื่อ แกร้นท์ โฮลต์ เทกตัวขวิดบอลข้าม โจ ฮาร์ท ไปแล้ง แต่โดน โจลีออน เลสค็อตต์ เคลียร์จากเส้นหวุดหวิด
อีกสี่นาทีต่อมา กองเชียร์เจ้าถิ่นเงียบกริบเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูนำ 1-0 เหลือเชื่อจากจังหวะที่ ซิลบา ตัดบอลได้จากนักเตะเจ้าบ้านก่อนไหลให้ เตเวซ กดด้วยขวากว่า 30 หลามุมแคบเข้าไปชนิดตะลึงกันทั้งสนาม
แมนฯ ซิตี้ ได้ใจ นาทีที่ 27 "กุน" จ่ายให้ เตเวซ ก่อนที่ "เตฟ" จะตอกส้นจังหวะเดียวให้ "กุน" ตะบัน 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษเสียบสามเหลี่ยมสุดงามบวกสกอร์ให้อาคันตุกะหนี 2-0
นอริช พยายามฮึด ตอนครึ่งชั่วโมง โฮลต์ กองหน้ากัปตันทีมเอี้ยวตัวตวัดยิงลูกเปิดจากกราบขวาแบบไม่จับ แต่ไม่แรงพอ ฮาร์ท เลยรับสบายๆ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ บุกมานำอยู่ 2-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง พอล แลมเบิร์ต กุนซือ นอริช แก้เกมด้วยการส่ง แอนดรูว์ เซอร์แมน กับ เวส ฮูลาฮาน แทน แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน กับ พิลคิงตัน พร้อมสั่งลูกทีมดาหน้าบุกแหลก
กระทั่งนาทีที่ 51 นอริช ตีไข่แตกไล่มา 1-2 เมื่อบอมบ์ใส่ แมนฯ ซิตี้ ก่อนที่ ฮาร์ท จะชกออกมาเข้าทางปืน เซอร์แมน แตะแล้วซัลโวเสียบมุมเด็ดขาด
แต่ แมนฯ ซิตี้ ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายตั้งรับฝ่ายเดียว อีกห้านาทีต่อมา "กุน" ลากบอลเข้าไปหวดด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวา ทว่า รัดดี้ ทุบทิ้งได้เยี่ยม ก่อนที่ รัดดี้ จะปิดมุมเซฟลูกวอลเล่ย์ของ ปาโบล ซาบาเลต้า ได้อีกก่อนครบหนึ่งชั่วโมง
นาทีที่ 63 โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมเยือน ส่ง ยาย่า ตูเร่ แทน ซามีร์ นาสรี่ แต่อีกสี่นาทีต่อมา เจ้าบ้านหวิดตีเสมอได้เมื่อ โฮลต์ หลุดไปแปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ แกแร็ธ แบร์รี่ บล็อกไว้หวุดหวิด ก่อนที่ แลมเบิร์ต จะเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง สตีฟ มอริสัน แทน อารอน วิลบราแฮม
อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 73 กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่หนีเป็น 3-1 เมื่อ ยาย่า ตูเร่ ตะบันเรียดเต็มข้อ รัดดี้ รับไม่อยู่ เลยโดน เตเวซ ตามมาโขกซ้ำย้อยข้ามหัวมือกาวเจ้าบ้านเข้าไป
อีกแค่นาทีต่อมา ทีมเยือนหนีห่าง 4-1 จากความยอดเยี่ยมของ กุน ที่ลากบอลจากครึ่งสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อกเข้าในก่อนปั่นโค้งเสียบเสาสองอย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่ 19 ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
จากนั้น มันโช่ ขยับเปลี่ยนตัวโดยส่ง อดัม จอห์นสัน แทน ซิลบา ก่อนที่กองหลังเจ้าบ้าน ไรอัน เบนเน็ตต์ จะจ่ายคืนหลังเบาเกินเลยถูก เตเวซ ฉกเข้าไปแตะหลบ รัดดี้ แล้วแปง่ายๆ เป็นแฮตทริกของตัวเองพร้อมส่งให้ แมนฯ ซิตี้ หนี 5-1 ในนาทีที่ 80
เตเวซ โดนเปลี่ยนออกมาเก็บทันที โดยเป็นทาง ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ที่ลงสนามแทน จากนั้น แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูอีกเม็ดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่น่าเสียดายที่ลูกดีดของ จอห์นสัน ไปชนคาน
อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่อึดใจต่อมา "เรือใบสีฟ้า" จะได้ประตูจนได้จากจังหวะโต้กลับ "กุน" กระชากขึ้นทางขวาแล้วเปิดข้ามฟากไปทางซ้ายให้ กาแอล กลิชี่ แตะให้ จอห์นสัน สอดมาแปเน้นๆ ตรงกลาง จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกถล่มแหลก 6-1 ทำแต้มไล่บี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่มีคิวเตะวันอาทิตย์แค่สองแต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นอริช : จอห์น รัดดี้, รัสเซลล์ มาร์ติน, เอลเลียตต์ วอร์ด, ไรอัน เบนเน็ตต์, อดัม ดรูรี่, เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, จอนนี่ ฮาวสัน, แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน (เวส ฮูลาฮาน น.46), แอนโธนี่ พิลคิงตัน (แอนดรูว์ เซอร์แมน น.46), แกร้นท์ โฮลต์, อารอน วิลบราแฮม (สตีฟ มอริสัน น.68)
สำรองไม่ได้ใช้ : เจด สเตียร์, ซิเมี่ยน แจ็คสัน, เดวิด ฟ็อกซ์, ไคล์ นอตัน
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, ไนเจล เด ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ (ยาย่า ตูเร่ น.63), คาร์ลอส เตเวซ (ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ น.81), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ดาบิด ซิลบา (อดัม จอห์นสัน น.75)
สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเมล พานทิลิมอน, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น