วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

โชกุนติด18คนดีสุดตะลุยฟอร์มูล่าเจแปน #12bet




   สุดยอดแห่งความพากเพียร "โชกุน" ณณิน อินพยุง คนแรกในประวัติศาสตร์ของนักแข่งไทยที่ร่วมแข่งรายการฟอร์มูล่า เจแปน ประจำปี 2012 คัด 18 คนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เพื่อเส้นทางสู้ ฟอร์มูล่า 3 ในอนาคต เผยเติบโตมาจากสายล้อเปิดโดยเฉพาะ ประสบความสำเร็จถึงขั้นได้เป็นนักแข่งเกรด เอ ของญี่ปุ่นเป็นคนแรก ต้องใช้ความอดทนสุดขีด






        เรื่องราวของสุดยอดนักแข่งรถทางเรียบระดับฟอร์มูล่า 2,000 ซีซี ของ "โชกุน" ณณิน อินพยุง ยอดนักขับรถแบบล้อเปิดของไทยได้รับการเปิดเผยเมื่อ "น้องโชกุน" ณณิน อินพยุง เดินทางกลับสู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมร่วมงานแถลงข่าวการคว้าสิทธิ์เป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ได้ร่วมแข่งรถฟอร์มูล่า เจแปน ฤดูกาล 2012 ในวันที่ 22 มี.ค. นี้ 



        ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้รับการเผยจาก นายภาคภูมิ อินพยุง บิดาของโชกุนว่า การเดินทางกลับไทยครั้งนี้ เพื่อแถลงรายละเอียดของการเข้าร่วมรายการใหญ่ระดับโลก ซึ่งแต่ละปีจะมีนักแข่งเพียง 18 คนจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้รับการคัดเลือกให้แข่งขันรายการนี้ 



        โดยผู้ที่ได้อันดับดีๆ แต่ละปีมีโอกาสที่จะถูกซื้อตัวไปร่วมทีมแข่งระดับฟอร์มูล่า 3 มากกว่ารายการอื่น และในปีนี้มีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนจึงเตรียมเปิดการแถลงข่าวและถือเป็นการขอบคุณ ปตท. ด้วย



        นายภาคภูมิ เผยด้วยว่า ก่อนหน้าจะเข้าร่วมรายการฟอร์มูล่า เจแปน ได้ โชกุนต้องฝ่าฝันมาอย่างหนัก โดยเฉพาะช่วงที่ประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์รถคาร์ตในประเทศไทย หันไปหาประสบการณ์ระดับนานาชาตินั้น ต้องเดินทางไปแข่งที่ยุโรป 



        เนื่องจากมีเทคนิคและมาตรฐานที่สูงกว่าไทยมาก แต่โชกุนติดเรียนในไทย ทำให้ต้องใช้วิธี วันธรรมดาเรียนในไทยก่อนจะบินไปยุโรปกลางดึกคืนวันศุกร์ เพื่อแข่งในวันอาทิตย์ จากนั้นจะบินกลับไทยคืนวันอาทิตย์ เพื่อเรียนในวันอังคาร 



        คุณพ่อของโชกุน กล่าวอีกว่า ต่อมาได้ปรึกษากับทีมงานพบว่าการจะไปสู่ระดับโลกจริงๆ นั้น จะคิดแบบไทยไม่ได้จึงศึกษาและหาช่องทางใหม่กระทั่งพบว่าการจะไปขับรถระดับฟอร์มูล่าจริงๆ ต้องมาจากรถล้อเปิดเท่านั้น และต้องเป็นรายการที่มีการพัฒนาต่อไปจึงระดับฟอร์มูล่า 3 และ 1 ได้ ซึ่งในเอเชียมีเพียงญี่ปุ่นชาติเดียวที่มีระบบเช่นนี้ 



        แต่ปัญหาคือญี่ปุ่นจะใช้เฉพาะภาษาญี่ปุ่น ทำให้โชกุนต้องลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการเรียนภาษาญี่ปุ่นและเดินทางไปแข่งญี่ปุ่นแบบมืออาชีพ คือวันธรรมดาเรียน พอคืนวันศุกร์บินไปญี่ปุ่นเพื่อจะได้ซ้อมวันเสาร์ให้ได้ 5 รอบ แต่ถ้าเครื่องบินดีเลย์ จะเหลือแค่ซ้อมภาคบ่ายได้แค่ 3 รอบ 



        จากนั้นวันอาทิตย์จะแข่งขัน เมื่อเสร็จจะกลับไทยคืนวันอาทิตย์ โชกุนจะได้เรียนต่อในเช้าวันจันทร์ทันที หลายๆ ครั้งถึงขั้นเมื่อรับโชกุนที่สนามบินแล้ว ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถแล้วไปโรงเรียนได้เลยโดยไม่ต้องกลับบ้าน ใช้ชีวิตแบบนี้ร่วม 2 ปี เดินทางไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง และช่วงปิดเทอมได้ส่งให้โชกุนไปเรียนภาษาญี่ปุ่นและไปอาศัยอยู่กับชาวญี่ปุ่น เพื่อให้มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องรถยนต์ และรถฟอร์มูล่า อย่างแท้จริง 



        กระทั่งลูกชายประสบความสำเร็จจบอันดับ 5 ของการแข่งขันรายการ "แมกซ์ ชาลเลนจ์" ซึ่งแม้จะเป็นรายการระดับคลับเรซ แต่มีนักแข่งจากทั่วญี่ปุ่นกว่า 200 คนแข่ง แต่ละสนามต้องเจอคู่แข่งไม่ต่ำกว่า 80 คน โดยแข่งอยู่ 1 ปีก่อนจะได้รับการทาบทามเข้าสู่สถาบัน "โตโยต้า ฟอร์มูล่า เรซซิ่ง สกูล" ประเทศญี่ปุ่น 



        ซึ่งเป็นสถาบันพัฒนานักแข่งจากรถล้อเปิดธรรมดาเป็นสู่รถระดับฟอร์มูล่าที่สูงขึ้นจนถึงฟอร์มูล่า 1 อีก 1 ปีเต็มจึงได้ใบขับขี่ประเภท 1 ที่ใช้แข่งรถล้อเปิด และทีมโตโยต้า ฟอร์มูล่า เรซซิ่ง สกูล เลือกให้โชกุนเป็น 1 ใน 18 นักแข่งที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น แข่งรายการฟอร์มูล่า เจแปน ประจำฤดูกาลนี้ภายใต้สังกัดทีมโตโยต้า ฟอร์มูล่า เรซซิ่ง ทีม เจแปน ซึ่งเป็นความภูมิใจสูงสุดที่ตนและลูกเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต



        ต่อข้อถามว่าต้องใช้เงินงบประมาณมาแล้วเท่าไหร่ นายภาคภูมิเผยว่า เรื่องตัวเงินที่ใช้ไปในการสนับสนุนลูกชาย ขอไม่เปิดเผย เนื่องจากไม่ต้องการเรียกร้องอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่สนับสนุนและต้องลงทุนมาก เนื่องจากเป็นการเดินทางอย่างถูกต้องตามแนวทางการพัฒนาไปสู่ความเป็นนักแข่งอาชีพของลูกชายจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น