ซามเมอร์ ออกมายกย่องบรรดาแข้งแกนหลักของทัพ "เสือใต้" ว่าอยู่ในระดับโลกทั้งนั้น หลังจากเพิ่งโชว์ฟอร์มแกร่งเชือด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-0 ในฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อวันพุธที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
บาเยิร์น กำลังอยู่ในเส้นทางสู่การคว้า 3 แชมป์รายการใหญ่ในฤดูกาลนี้ หลังจากนำเป็นจ่าฝูงในลีกโดยทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง ดอร์ทมุนด์ ไปแล้ว 17 คะแนน ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โอกาสของพวกเขาก็สดใสเหลือเกินหลังจากบุกไปคว้าชัยเหนือ อาร์เซน่อล 3-1 เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา โดย ซามเมอร์ ยกเครดิตในความสำเร็จครั้งนี้ให้กับบรรดาผู้เล่นคนสำคัญที่มีความเป็นผู้นำสูงนั่นเอง
ซามเมอร์ กล่าวว่า "เมื่อเราพูดถึงความเป็นผู้นำ ผมเห็น บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์, ดานเต้, ฟิลิปป์ ลาห์ม และ มานูเอล นอยเออร์ เป็นแกนหลักของเรา พวกเขาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างไม่มีข้อสงสัย ชไวน์สไตน์เกอร์ วิ่งแบบไม่หยุดเลยแถมเล่นตามแท็กติกได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเล่นด้วยความเป็นผู้นำที่เคยแสดงให้เห็นมาแล้วแต่กลับไม่ได้แสดงออกมาในช่วงหลังมานี้"
"เช่นเดียวกับ ดานเต้ และ นอยเออร์ รวมถึงความมั่นคงในแนวรับที่พวกเขามอบให้ทีม ลาห์ม ก็โชว์ฟอร์มระดับโลกให้เรามาหลายปีแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญในเกมเช่นนี้ที่นักเตะแบบนี้จะต้องแสดงตัวตนของพวกเขาออกมา"
สำหรับ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกซ้ายทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เป็นฮีโร่ยิงประตูชัยให้ บาเยิร์น นั้น ซามเมอร์ ไม่ได้กล่าวชื่นชมแต่อย่างใด เพียงแต่ยอมรับว่า ดาวเตะวัย 29 ปี สังหารประตูได้อย่างสวยงามหยดย้อยจริงๆ "เราขอบคุณผลงานของผู้เล่นทุกคน ผมเลยไม่ได้สนใจนักเตะคนใดเป็นพิเศษ เขา (ร็อบเบน) ยิงประตูที่สุดยอดเลย แต่เราควรจะถ่อมตัวเข้าไว้ เรามีความสุข แต่เราควรจะสัมผัสถึงความความปกติในเร็วๆนี้"
ถึงแม้จะกำลังทำผลงานยอดเยี่ยมใน 3 รายการในเวลานี้ แต่ อดีตกองกลางวัย 45 ปี ยังปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องการสร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ "ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ผมพูดในช่วงเบรกหน้าหนาวว่าคุณจะได้ในสิ่งที่คุณสมควรได้รับในท้ายที่สุด และเราควรจะร่วมกันทำงานเพื่อทำให้เรื่องนั้นเป็นจริงให้ได้ ไม่ใช่แค่พูดถึงมันเท่านั้น"
นอกจากนี้ ซามเมอร์ ยืนยันว่าจะไม่มีผู้เล่นคนไหนที่จะคาดหวังว่าตัวเองจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ร็อบเบน และ มาริโอ โกเมซ กองหน้าทีมชาติเยอรมนี เริ่มจะเปลี่ยนสถานะเป็นตัวสำรองเท่านั้นในช่วงหลังมานี้ "สโมสรใหญ่ที่แข็งแกร่งต้องมีผู้เล่นตัวจริงอย่างน้อย 15-16 คน เราควรเลิกพูดถึงนักเตะที่ดีที่สุด 10 คน เพราะมันยังมีอีกอย่างน้อย 5-6 คนที่อยู่ในระดับนั้นเช่นกัน ทีมเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ ไม่ใช่นักเตะเพียงคนเดียว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น