สายสุนีย์ คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบ เอเป้ บุคคลหญิง ประเภท บี หลังจากรอบชิงชนะเลิศล้างตาเอาชนะ ซิโมเน บรีเซ-บาเอ็ตเค จากเยอรมนี ขาดลอย 15-8 แต้ม ทั้งที่แพ้มาแล้วรอบคัดเลือก 4-5 แต้ม เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2555 ที่สนาม เอ็กซ์เซล อย่างไรก็ตาม "แวว" วัย 38 ปีเผยว่าด่านที่หนักใจสุดคือรอบรองชนะเลิศที่เจอกับ ชาง ยุย ชอง คู่ปรับเก่าจากฮ่องกง ที่เคยโดนเขี่ยตกรอบเมื่อ 4 ปีก่อนที่ จีน โดยเสมอกัน 14-14 แต้มก่อนจะเฉือนชนะไปแบบบีบหัวใจ 15-14 แต้ม
หลังคว้าเหรียญทอง สายสุนีย์ เผยด้วยความดีใจสุดขีด เพราะศึก พาราลิมปิก เมื่อ 4 ปีก่อนได้เพียงแค่เหรียญทองแดงเท่านั้น "ตอนโดนไล่ตีเสมอ 14-14 ตื่นเต้นมาก ๆ ต้องมาตั้งสติใหม่ แต่พอเอาชนะ ฮ่องกง ได้ก็มั่นใจทันที เพราะ เยอรมนี แม้จะเป็นมือ 1 โลกแต่เขาแพ้ทางเราอยู่ จากนี้ไปก็จะตั้งใจฝึกซ้อมต่อไปตั้งเป้าจะคว้าเหรียญทองอีกครั้งที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลและถ้าหากยังเล่นไหวก็อยากจะสู้ไปจนถึงอายุ 50 ปี"
ขณะที่ คันฉัตร คงไพรสันต์ ผู้ฝึกสอนทีมฟันดาบไทย เผยว่าลุ้นกับเหรียญทองนี้เหนื่อยเหมือนกันเพราะการแข่งขันรอบแรกไม่เป็นไปตามแผน เพราะเราต้องการชนะทุกนัดเพื่อเป็นที่ 1 จะได้ไม่ต้องมาเจอกับ ฮ่องกง ที่เราไม่ค่อยชอบเล่นด้วยแต่เมื่อเป็นแบบนั้นก็ต้องสู้กันสักตั้ง ซึ่งรอบตัดเชือกนั้น สายสุนีย์ ค่อนข้างจะตื่นเต้นและกดดันมากๆ เนื่องจากหวั่นใจพอสมควรถึงกับขอตัวเข้าห้องน้ำไปอาเจียนเลยทีเดียว จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับทัศนคติความคิดอย่ากลัวว่าจะแพ้ซ้ำรอยเมื่อ 4 ปีก่อน"
สำหรับเงินอัดฉีดที่ สายสุนีย์ จะได้รับเมื่อกลับถึงเมืองไทย เจ้าตัวตั้งใจว่า "จะนำไปใช้หนี้ส่วนหนึ่ง จากนั้นนำไปให้พ่อและแม่ อยากให้ท่านอยู่สบายๆ ซึ่งเหรียญทองนี้เหมือนกับการสานฝันตัวเองให้เป็นจริง เพราะปรารถนามาตลอดกับการคว้าเหรียญทอง ลอนดอน เกมส์ จากนี้ก็จะทำตามฝันอีกอย่างก็คือเปิดร้านขายอาหารที่กำลังมองทำเลอยู่ว่าจะทำที่ไหน"
ด้าน นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการ พาราลิมปิก ประเทศไทย ผู้ให้การสนับสนุน กล่าวทิ้งท้ายว่า "ถึงเวลานี้ผ่านการแข่งขันมาครบ 1 สัปดาห์พอดีทัพนักกีฬาไทยเราคว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญซึ่งถือว่าเกินเป้าที่ตั้งมาในตอนแรกคือ 2 เหรียญทองมากกว่าที่ปักกิ่งเมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว สำหรับตัวผมแล้วยินดีกับนักกีฬาแต่เรื่องเหรียญทองมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นแต่สิ่งที่ยินดีและประทับใจมากกว่าก็คือการสร้างกระแสให้ผู้คนในสังคมไทยให้ความสนใจกับนักกีฬาคนพิการมากขึ้นซึ่งพวกเขาเหล่านี้ขอแค่โอกาสเท่านั้น การแข่งขัน พาราลิมปิก เกมส์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่พวกเราได้รับการตอบรับและกำลังใจดีที่สุดตั้งแต่เล่นกีฬามาเลยก็ว่าได้มีหลายหน่อยงานที่แสดงความปราถนาดีจะมอบเงินสนับสนุนพิเศษให้นักกีฬาทั้งภาครัฐและหลายองค์กรเอกชนเช่น เอไอเอส, ครอบครับข่าว 3, หนังสือพิมพ์ข่าวสด, คุณตัน ภาสกรนที,คุณบรรหาร ศิลปอาชา และ บุญรอดบริวเวอรี ที่ได้ดูแลสมาคมกีฬาคนพิการมาโดยตลอด"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น