วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวโอลิมปิก 2012 พ่อเงือกดาวรุ่งจีนจวกสื่อผู้ดีกล่าวหาลูกใช้สารกระตุ้น 12bet 01/08/2555




พ่อ ยี่ ชี่เหวิน เงือกสาวดาวโรจน์ชาวจีน โต้กลับสื่อผู้ดีที่กล่าวหาลูกสาวของตนใช้สารกระตุ้น หลังทำลายสถิติโลก เดี่ยวผสม 400 เมตรหญิง ในศึก 'ลอนดอนเกมส์ 2012' ได้เมื่อวันเสาร์ ยันไม่เป็นความจริง พร้อมท้าให้ไปลองดูผลตรวจก่อนเข้าแข่งขันเลย ขณะที่บอสใหญ่องค์กรต้านการโด๊ปยาในจีน เชื่อเจ้าภาพอิจฉาที่ทำไม่ได้เลยพยายามหาทางทำลายคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก


ยี่ คิงซ่ง พ่อบังเกิดเกล้าของ ยี่ ชี่เหวิน นักว่ายน้ำสาวดาวรุ่งจีน ยืนยันว่า ลูกสาวของตนไม่ได้ใช้สารกระตุ้นอย่างที่โดนสื่ออังกฤษกล่าวหาเลยแม้แต่น้อย ภายหลังคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ ประเภทเดี่ยวผสม 400 เมตรหญิง ในการแข่งขันโอลิมปิก "ลอนดอนเกมส์ 2012" มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับทำลายสถิติโลกอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 


ยี่ ทุบสถิติที่ สเตฟานี่ ไรซ์ เงือกสาวสุดสวยชาวออสเตรเลีย ที่เคยทำไว้ในการว่ายประเภทนี้เป็นเวลามากกว่า 1 วินาที และการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เธอยังทำเวลาว่ายในช่วง 100 เมตรสุดท้ายได้เร็วกว่า ไรอัน ลอชต์ และ ไมเคิ่ล เฟลป์ส 2 ฉลามหนุ่มชาวสหรัฐอเมริกา ที่ทำได้ในการแข่งขันประเภทชายอีกต่างหาก 


พ่อเงือกสาวแดนมังกร กล่าวว่า "มีผู้คนมากมายที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ผลการแข่งขันเช่นนี้เกิดขึ้นได้" พร้อมท้าผู้ที่มีความสงสัยในตัวของลูกสาวของเขาให้ไป "ดูที่ผลการตรวจ (สารกระตุ้น) ของเธอได้ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้คนที่จะต้องสงสัยได้ ทว่าสื่อตะวันตกมักจะมีความหยิ่งยโสอยู่เสมอ และชอบตั้งข้อสงสัยกับคนจีน" 


ขณะที่ เจียง ซื่อฉู ประธานฝ่ายต่อต้านการใช้สารกระตุ้นจีน เผยว่าบรรดานักกีฬาจากแดนมังกรต้องเข้ารับการตรวจกว่า 100 ครั้ง นับตั้งแต่เดินทางมาถึงแดนผู้ดีเพื่อแข่งขันรายการนี้ พร้อมพูดถึงประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่า "ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่สมควรสำหรับการกล่าวหานักว่ายน้ำชาวจีน เมื่อพวกเขาทำผลงานได้ดี คนบางคนก็แค่มีอคติ" 
   
นอกจากนั้น ยังมีความเห็นของหนึ่งในผู้ใช้งาน "ซิน่า เหว่ยโบ" เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมในแดนมังกร ที่โพสต์ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "การกล่าวหาว่าเราใช้สารกระตุ้นต่อจากการที่เราทำลายสถิติโลกได้ มันแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนของความมีจิตใจคับแคบของสื่ออังกฤษ" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น