ส่วน “น้องเมย์” รัชนก ขอทำผลงานในโอลิมปิกครั้งแรกให้ดีที่สุด แม้ต้องพบกับคู่ปรับเก่าจากเยอรมนี อย่าง จูเลียน แชค ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่า เป็นโอกาสสำคัญ เพราะถ้าผ่าน แชค ไปได้จะทำให้มั่นใจในเกมของตนเองยิ่งขึ้น ทางด้าน บุญศักดิ์ พลสนะ ที่จะลงสนามนัดแรกในวันที่ 28 กรกฎาคม ลงซ้อมได้เบาๆ หลังมีอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งโค้ชสมพล ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจมีอาการอ่อนเพลียบ้างแต่ก่อนหน้านี้ “เจ้าแมน” เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว
หลังจากทีมแบดมินตันไทยเดินทางถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นักกีฬาได้ลงสนามเพื่อฝึกซ้อมทันที และในช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 26 กรกฎาคม ทีมแบดมินตันไทยได้เดินทางไปฝึกซ้อมยังสนาม เวมบลีย์ อารีน่า ชานกรุงลอนดอน โดยขาดเพียง บุญศักดิ์ พลสนะ ที่ยังมีอาการอ่อนเพลียจากอาหารเป็นพิษอยู่ โดยจะตามมาร่วมซ้อมในช่วงบ่ายหลังจากที่ทีมแบดย้ายเข้าพักที่โรงแรมเวมบลีย์ พลาซ่า ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามการแข่งขัน
โดยหลังจากฝึกซ้อมเสร็จสิ้นในเวลา 11.15 น.สุดเขต ประภากมล สราลีย์ ทุ่งทองคำ และ รัชนก อินทนนท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงความพร้อมก่อนลงสนามทำการแข่งขัน โดย สุดเขต ได้กล่าวถึงความพร้อมก่อนลงสนาม ว่า “ถึงเวลานี้ทุกคนพร้อมเต็มที่ ส่วนคู่ระหว่างผมกับ สราลีย์ นั้น ก็เล่นด้วยกันมานาน รู้อยู่แล้วว่าจะวางแผนในเกมของเราอย่างไร” โดย สราลีย์ ได้กล่าวเสริมว่า “ที่ผ่านมา เราทั้งคู่ก็เล่นตามมาตรฐานของตนเอง และมองผลงานแบบรอบต่อรอบมากกว่า” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากดดันหรือไม่ที่กลายเป็นคู่ความหวังที่มีลุ้นเหรียญ เพราะนอกจากฝีมือแล้ว ประสบการณ์ในสนามการแข่งขันก็ไม่เป็นรองคู่แข่งชาติใด ซึ่ง สุดเขต ได้ตอบก่อนว่า “ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร คือ เราทุกคนเตรียมความพร้อมมานาน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งเราก็ต้องเตรียมความพร้อมมาเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ผลงานก็ต้องไปวัดกันในสนาม” ทางด้าน สราลีย์ กล่าวเสริมว่า “คือที่ผ่านมาผลงานของเราทั้งสองคนมีทั้งขึ้นและลง เพียงแต่รายการอาจไม่ใหญ่เท่ากับโอลิมปิก เมื่อถึงทัวร์นาเมนต์นี้คนจึงให้ความสนใจกันมาก แน่นอนว่า เราทั้งคู่ก็ต้องเล่นอย่างเต็มที่เช่นกัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงม้ามืดของทีมแบดมินตันไทยในโอลิมปิกหนนี้ สุดเขต ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมอยากให้มองที่ประเภทชายคู่ เพราะ บดินทร์ และ มณีพงศ์ นั้นทำผลงานมาดีทั้งคู่ถ้าเล่นได้ตามมาตรฐานที่วางเอาไว้ ก็น่าจะมีลุ้น” ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงโอกาสของน้องเมย์ รัชนก ที่ลงสนามโอลิมปิกเป็นครั้งแรก รุ่นพี่อย่าง สุดเขต กล่าวว่า “น้องเมย์ มีโอกาสมากที่จะสร้างผลงานในโอลิมปิก หากครั้งนี้ไม่สามารถคว้าเหรียญได้ ผมเชื่อว่า อีก 4 ปีข้างหน้า ต้องทำได้อย่างแน่นอน”
ทางด้าน น้องเมย์ รัชนก ได้กล่าวถึงความพร้อมของตนเองก่อนลงสนาม ว่า “ถึงเวลานี้พร้อมเต็มที่ และพยายามไม่กดดันตนเอง สำหรับคู่ต่อสู้ในรอบแรกนั้น เจ้าของตำแหน่งจูเนียร์เวิลด์แชมเปียน 3 สมัย กล่าวว่า ไม่ค่อยหนักใจเท่าไรนัก แต่รอบที่สองจะต้องพบกับนักแบดจากเยอรมนี จูเลียน แชค นับว่าเป็นงานหนักทีเดียว เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเอาชนะ จูเลียน ได้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ถอดใจ เพราะวางแผนการเล่นไว้แล้ว และจะใช้เทคนิคการเล่นรวมไปถึงความแข็งแกร่งต่อสู้กับนักแบดจากเยอรมนีรายนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น