LBJ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ ไมอามี่ ฮีท ยอมรับ การแพ้ ดัลลัส แมพเวอร์ริกส์ รอบชิงฯ ปีก่อน ทำให้เขาเปลี่ยนทัศนคติจากที่ลงเล่นด้วยความเกลียดชัง เพราะโดนด่าเยอะจากการทิ้ง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เป็นเล่นด้วยความรักในเกมยัดห่วง จนคว้าแชมป์มาครองได้ในปีนี้
ฟอร์เวิร์ดเอ็มวีพี 3 สมัยของ ไมอามี่ ฮีท เผยว่า ตอนนี้ฝันเป็นจริงหลังคว้าจากแชมป์เอ็นบีเอ มาครองได้เป็นสมัยแรก พ่วงด้วยรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่ารอบชิงชนะเลิศ (เอ็มวีพี) หลังเป็นหัวหอกพาขุนพล ไมอามี่ ทะลวงทีมพลังหนุ่ม โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ส กระจุย 121-106 ศึกบาสเกตบอล อ็นบีเอ รอบชิงชนะเลิศ ที่ อเมริกัน แอร์ไลนส์ อารีน่า วันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เจมส์ พลาดโอกาสชูถ้วย "แลร์รี่ โอไบรอัน โทรฟี่" ในปีแรกที่อยู่กับ ฮีต จากการแพ้ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 4-2 เกม ปีที่แล้ว แต่ปีนี้เขาไม่ยอมพลาดอีก พา ฮีต ชนะ 4 เกมรวด ปิดซีรี่ส์ที่ 4-1 เกม โดยเกมที่ 5 เขากดไป 26 แต้ม, 11 รีบาวด์ และ 13 แอสซิสต์ ทำให้ผลงานเฉลี่ยในรอบชิงฯ ปีนี้ คือ 28.6 แต้ม, 10.2 รีบาวนด์ส และ 7.4 แอสซิสต์ เทียบกับปีก่อนที่ทำแต้มเฉลี่ย 17.8 เท่านั้นในการเจอกับ ดัลลัส
"นี่เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต นี่คือฝันเป็นจริง" เจมส์ วัย 27 ปี กล่าว พลางบอกว่า การแพ้ ดัลลัส ปีก่อน กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นเขาทางบวก เพราะเขาโดนวิจารณ์เสียๆ หายๆ ตั้งแต่การทิ้งทีม คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ในบ้านเกิดเมืองนอน ที่เขาพาเข้ารอบชิงฯ ปี 2007, ออกทีวีรายการ "เดอะ ดีซิชั่นส์" ประกาศเลือกย้ายมาเล่นกับ ไมอามี่ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นดราฟต์ปี 2003 อย่าง ดเวย์น เวด และ คริส บอช
นอกจากนี้ เขายังโดนด่าจมหูจากการจับคู่ เวด ล้อเลียน เดิร์ค โนวิตซกี้ ที่ป่วยไอค่อกๆ แค่กๆ แต่กลับยิงลงเอาๆ ไปจนถึงใช้เวทีแถลงข่าวตอบโต้ทุกเสียงครหาที่ว่าเขาคู่ควรประสบความสำเร็จหรือไม่ พอแพ้ เจมส์ เลยบอกว่า เขาใช้เวลาช่วงปิดซีซั่น ค้นหาจิตวิญญาณ และเรียนรู้วิธีการรับมือกับแรงกดดัน และความคาดหวังต่างๆ นานา อาทิ อ่านหนังสือในห้องล็อคเกอร์รูม ก่อนเกม
"สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับผมในปีที่แล้วก็คือการแพ้รอบชิงฯ และการที่ผมเล่นในแนวทางที่เล่นในตอนนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในอาชีพของผม เพราะมันทำให้ผมกลับสู่พื้นฐาน มันกำราบผม ปีที่แล้วผมเล่นโดยพยายามพิสูจน์ตัวเอง ผมเล่นด้วยความเกลียดชัง นั่นไม่ใช่แนวทางการเล่นของผม ตอนนี้ผมเล่นด้วยความรัก ความหลงใหล และนั่นคือสิ่งที่ผมได้รับกลับมาในปีนี้"
เจมส์ ยอมรับอีกว่า ทุกอย่างของเขาเปลี่ยนแปลงไปหมดตั้งแต่ตอนประกาศว่าจะนำ "พรสวรรค์ไปสู่ เซาธ์ บีช" ทางรายการ เดอะ ดีซิชั่น ทางอีเอสพีเอ็น "ช่วง 7 ปีแรกในลีกผมก็แค่ลงไปเล่น แล้วปล่อยให้เกมดูแลตัวมันเอง ปีที่แล้วผมพยายามพิสูจน์ตัวเอง หลายๆ คนบอกว่าผมมันเห็นแก่ตัว เป็นนักบาสเกตบอลที่เห็นแก่ตัว ผมพยายามเป็นคนที่เล่นเพื่อทีม ทำอะไรก็ได้ที่ให้ทีมชนะ ผมใช้มันเป็นแรงกระตุ้น สิ่งที่นำผมมาอยู่ตรงนี้คือการทำงานหนัก และการอุทิศตัว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น