วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

ป.ประมุขลั่นฟ้องไทยไฟต์-สนง.มวยไม่เกิน2วีกรู้เรื่อง 12bet












 อุ ป.ประมุข และทนายความ แถลงข่าวฟ้องไทยไฟต์ และ สนง.มวย ทั้งแพ่งและอาญา เรียกค่าเสียหายเจ้าหน้าที่ ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ บอกไม่เกิน 2 สัปดาห์รู้เรื่อง ส่วน บัวขาว ปล่อยให้เป็นตามกระบวนการของ พ.ร.บ.กีฬามวย ชี้สิ่งที่เกิดขึ้นคนมวยไม่มีใครยอมรับกัน พร้อมแฉกลุ่มมือที่สาม ติดต่อบัวขาวไปชกโชว์ที่กาตาร์ พร้อม สมรักษ์ คำสิงห์ มีหลักฐานชัดเจนไม่กุข่าว กำนันแก๊เตรียมหาหลักฐานเรื่องเงินและรายได้มาชี้แจง พร้อมแถลงอีก 20 เม.ย. นี้






        ความคืบหน้าหลังจาก บัวขาว ป.ประมุข ฉีก พ.ร.บ.มวย ขึ้นชกศึกไทยไฟต์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา โดนชนะน็อก รัสเท็ม ซาริโว นักชกรัสเซีย ยก 2 พร้อมแถลงข่าวว่าค่าย ป.ประมุข ยืมเงินเป็นหลักล้านบาท พอทวงถามโดนดุโดนด่า จึงตัดสินแหกค่าย พร้อมทำค่ายมวย "บัญชาเมฆ" เพื่อปั้นนักมวยรุ่นใหม่ๆ จนเป็นข่าวดัง ที่คนมวยและประชาชนทั่วไปสนใจว่าจะเคลียร์ปัญหากันอย่างไร เพราะก่อนชกค่าย ป.ประมุข ได้ทำหนังสืออ็อบแยกต์คัดค้านการชก


     
อุและทนายแถลงข่าว



        ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่อาคารหมอเส็ง ลาดพร้าว 18 "อุ ป.ประมุข" ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หัวหน้าคณะ ป.ประมุข พร้อมด้วย นายวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความได้แถลงข่าวถึงการชกไทยไฟต์ของบัวขาว โดยมีสื่อมวลชนจากทุกสำนักงานนับร้อยคนเดินทางมาทำข่าว 

        โดยการแถลงข่าวครั้งนี้นายวิวรรธน์ได้เผยว่าแฟนมวยและสื่อมวลชนคงทราบกันแล้วว่าบัวขาวได้ฉีก พ.ร.บ.มวย ขึ้นชกเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่รู้ว่าขึ้นชกไม่ได้ เนื่องจากโดนอ็อบแยกต์โดยไม่สนใจหรือเกรงกลัวกฎหมาย การชกบัวขาวทำให้คนจัดรวยเละ เป็นการเห็นแก่ตัว ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง 




     
เชื่อคนมวยรับไม่ได้



        นายวิวรรธน์กล่าวต่อว่า เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ คนกระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่กลัวกฎกติกาที่กำหนดไว้ คนจัดไทยไฟต์ไม่ใช่คนมวย เป็นอดีตคนจัดละครทีวีและกำกับภาพยนตร์ ถ้าเป็นคนมวยคงไม่กล้าทำแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าคนมวยรับไม่ได้แน่นอน 

        ไทยไฟต์เข้ามาจัดมวย เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ เพื่อกอบโกย จัดการแสดงจัดละคร อาจจะทำได้หลอกลวงคนอื่นได้ แต่หลอกคนมวยไม่ได้ คนมวยทุกคนรู้เรื่องดี พอชกจบก็เอาพ่อขึ้นมาให้ลูกชายกราบเท้า มีการเปิดเพลง สร้างบรรยากาศให้ซาบซึ้ง ประทับใจคนดูทั่วประเทศ แต่คนมวยเขารู้ว่าเป็นการแสดงละคร คนมวยไม่ได้โง่ เขากินข้าวไม่ได้กินหญ้า 




     
บอก "นพพร" เลิกเล่นละครได้แล้ว



        ทนายความค่าย ป.ประมุข กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากถึง นายนพพร วาทิน ว่า เลิกเล่นละครได้แล้ว ละครจบแล้ว ต่อไปนี้คือเรื่องจริง บัวขาว อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติ ตนอยากถาม บัวขาว ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว อยุธยาน้ำท่วมหนัก นักลงทุนญี่ปุ่น จะย้ายฐานการผลิตกลับบ้าน รัฐบาลจึงเตรียมกระตุ้นการลงทุนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และติดต่อ บัวขาว ให้ไปโชว์ไหว้ครู แต่บัวขาวไม่ไป นี่หรือที่บอกว่าทำเพื่อชาติ ทำเพื่อตัวเองมากกว่า

        สำหรับนายนพพรนั้น ตนจะฟ้องเรียกค่าเสียหายแน่นอน ไม่เกิน 2 สัปดาห์เรื่องถึงศาล 




     
ฟ้องไทยไฟต์, สนง.มวย



        จากนั้นนายวิวรรธน์ ได้กล่าวถึงประเด็นการฟ้องร้องว่า เรื่องฟ้องร้องตน และทีมทนายความได้หารือ และเตรียมรวบรวมหลักฐานไว้แล้ว โดยจะฟ้องไทยไฟต์คดีแพ่งและอาญา เรื่องของการละเมิดและผิดสัญญา ส่วนจะฟ้องเท่าไรดูกันอีกที แต่รับรองว่าตนเรียกค่าเสียหายไม่น้อยแน่นอน 

        ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยก็ต้องฟ้อง เพื่อรู้แล้วว่า บัวขาว โดนอ็อบแยกต์ แต่ไม่คัดค้านปล่อยให้ชก เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละเลิกไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่รู้ว่าสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า เห็นบัวขาวขึ้นชกต้องหยุดต้องห้าม เพราะมีอำนาจหน้าที่แต่ไม่ทำ และตนจะดูต่อไปว่าสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยจะแจ้งความดำเนินคดีกับไทยไฟต์ และบัวขาว หรือเปล่า เพราะกระทำผิดชัดเจน 




     
"บัวขาว" ปล่อยให้เป็นตาม พ.ร.บ.มวย



        ส่วนการฟ้องบัวขาวนั้น นายวิวรรธน์เผยว่า กำนันแก๊ได้มาหารือกับตนและทีมทนายความว่า จะดำเนินอย่างไรกับ บัวขาว กำนันแก๊เปรียบเหมือนพ่อ ไม่อยากจะฆ่าลูก จึงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของ พ.ร.บ.กีฬามวย ซึ่งมีบทลงโทษถอนทะเบียนการเป็นนักมวย 

        หากเอากันจริงๆ บัวขาว โดนหนัก โดนฟ้องหมิ่นประมาท ที่กล่าวหาว่าค่าย ป.ประมุข อมเงินติดเงิน รวมทั้ง บัวขาว ได้ทำเอกสารเท็จ ยื่นเรื่องย้ายสังกัดกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย แต่กำนันแก๊ไม่อยากให้รุนแรง เลี้ยงดูบัวขาวมา 20 กว่าปี หากบัวขาวไม่สำนึกบุญคุณ ก็อย่ามีเนรคุณกัน ถ้าอยากจะเคลียร์ก็ยินดี ทางค่าย ป.ประมุข พร้อมต้อนรับ บัวขาว เสมอ คุยกันจะได้จบเรื่อง

     
แฉบัวขาวรับงานไปกาตาร์



        นอกจากนี้นายวิวรรธน์ ยังได้เอกสารเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน, สำเนาหนังสือเดินทางของบัวขาว และนักกายภาพบำบัด ที่เป็นต้นเหตุให้ บัวขาว แหกค่าย และผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นเลขาบริษัทเครื่องดื่มชื่อดังของไทย ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการบัวขาว และผู้ช่วยบัวขาว พร้อมอีเมลตอบโต้เกี่ยวกับการติดต่อบัวขาวไปโชว์ตัวที่กาตาร์ วันที่ 21-25 เม.ย. นี้ 

        โดยบัวขาวจะเดินทางไปชกโชว์ และมี สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่โอลิมปิก เดินทางไปสอนมวยด้วย แสดงให้เห็นว่า ไอ้โม่งที่ยุแหย่จนบัวขาวหนีออกจากค่ายจนเป็นเรื่องวุ่นวายมีจริง ตนและค่าย ป.ประมุข ไม่ได้กุข่าวขึ้นมา และคนกลุ่มนี้นี่เองที่ทำให้บัวขาวเปลี่ยนแปลงไป จากเด็กซื่อๆ กลายเป็นคนโกหก ไม่พูดความจริง 

        โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามเช็กว่าบัวขาวเดินทางไปหรือไม่ แต่ไม่สามารถเช็กได้ แต่ สมรักษ์ คำสิงห์ นั้นเดินทางไปสอนมวยตามกำหนดการที่ทางกาตาร์แจ้งมา 




     
"อุ" ยันไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน



        ช่วงท้ายของการแถลงข่าว อุ ป.ประมุข ได้เผยถึงเรื่องการยืมเงินบัวขาวว่า ตนไม่มีปัญหาเรื่องเงินและไม่เคยติดเงินบัวขาว หากตนมีปัญหาเรื่องเงิน ก็คงค้ำประกันให้บัวขาวออกรถบีเอ็มไม่ได้ แต่ตนเองเป็นคนค้ำประกันให้ บัวขาว และนำเงินสดไปออกรถให้บัวขาว ตนมีหลักฐานชัดเจน 

        เรื่องเงินและรายได้ต่างๆ ของบัวขาวนั้น คุณพ่อ (กำนันแก๊) จะเป็นคนแถลงรายละเอียดอย่างชัดเจนให้สื่อมวลชนได้ทราบ ชนิดละเอียดยิบ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร 




     
แถลงข่าวเคลียร์กัน 3 งาน



        สำหรับวันนี้ (20 เม.ย.) ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัวขาวจะแถลงข่าวเพื่อเคลียร์ปัญหาพร้อมๆ กัน 3 แห่ง โดยกำนันแก๊จะแถลงข่าวเปิดใจที่ 13 เหรียญพระราม 9 เวลา 11.00 น. จากนั้นทาง กกท. และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย จะประชุมหารือเพื่อเคลียร์ปัญหาบัวขาวที่อาคาร 25 ชั้น ของ กกท. เวลา 13.30 น. และไทยไฟต์จะแถลงข่าวบัวขาว เวลา  13.00 น. 




     
กกท.ยันใช้กฎหมายพิจารณาอย่างชัดเจน



        ด้าน "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากย้อนกลับไป กกท. พยายามที่จะเป็นตัวกลางยุติปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ยอมกัน มีการละเมิดพระราชบัญญัติกีฬามวย (พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ. 2542) ซึ่งอยู่ในการดูแลของคณะอนุกรรรมการ จรรยาบรรณ ระเบียบวินัย บุคลากรกีฬามวย 

        โดยมี นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ เป็นประธานอนุคณะกรรมการพิจารณา ในเหตุผล 3 ข้อ ดังนี้ 1. บัวขาว ป.ประมุข ทำผิดหรือไม่, 2. โปรโมเตอร์ซึ่งจัดการแข่งขันได้ทำผิดข้อบังคับหรือไม่ และ 3. กรณีที่บัวขาวออกจากค่าย ป.ประมุข เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือมีข้อเท็จจริงอย่างไร  

        "ในเมื่อเรามี พ.ร.บ.กีฬามวย ซึ่งเป็นกฎหมายที่นำมาบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องยึดปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คณะกรรมการกีฬามวย ก็จำเป็นต้องทำตามหน้าที่พิจารณา พร้อมกับนำกฎหมายมาใช้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ผมยังอยากให้ทั้งสองฝ่ายเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ไม่อยากให้เกิดปัญหาไปมากกว่านี้" บิ๊กหนุ่ม กล่าว








     วันเดียวกันมีรายงานเพิ่มเติมว่า "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ ได้มอบหมายให้ "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเอกลักษณ์ฯ ให้เข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยแก้ไขปัญหา เนื่องจากเห็นว่า บัวขาว เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยในด้านศิลปะมวยไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นย่อมไม่ส่งผลดีกับทั้งสองฝ่ายรวมไปถึงประเทศชาติด้วย
  
     มีรายงานว่า การหารือครั้งนี้ พล.ต.อินทรัตน์ ได้นัดให้ บัวขาว ป.ประมุข พร้อมด้วย ร.ท.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม นักกายภาพฯ โดยมีการสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และความต้องการของบัวขาวด้วย 
  
     จากนั้น พล.ต.อินทรัตน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และจะนัด บัวขาว ให้เข้าไปเคลียร์กับ นายประมุข โรจนตัณฑ์ ผู้จัดการค่าย และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาหลังวันที่ 1 พ.ค.ไปแล้ว เนื่องจากในช่วงนี้ บัวขาว ยังมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศ 
  
     พล.ต.อินทรัตน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนได้ถามบัวขาวแล้ว ได้ข้อเสนอ 2 ทางเพื่อที่จะยุติปัญหาทั้งหมด คือ 1. บัวขาว ขอยกเลิกสัญญาแลกกับหนี้สินที่ค่าย ป.ประมุข ติดค้างบัวขาว 
  
       2. บัวขาว ยังคงใช้ชื่อ ค่ายป.ประมุข เหมือนเดิม แต่ค่ารางวัลชกมวย (เฉพาะการชกเท่านั้น) แบ่งเป็นร้อยละ 60 และ 40 โดยบัวขาวได้ร้อยละ 60 และจะฝึกซ้อมเอง โดยค่ายป.ประมุข ไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง รับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 40 แต่ในระยะแรกรับเพียงร้อยละ 20 อีกร้อยละ 20 หักหนี้สินจนหมด เมื่อหนี้สินหมด เจ้าของค่ายป.ประมุข ก็จะได้ค่ารางวัลชกมวย ร้อยละ 40 ตลอดไป จนครบสัญญา ทั้งนี้สัญญานี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นนายแบบโฆษณาหรือโชว์ตัวต่างๆ ของบัวขาวทั้งสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น