ไรอัน กิ๊กส์ ปีกพ่อมดจอมเก๋า "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับหากพวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ จะเป็นแชมป์ที่หอมหวานที่สุดครั้งหนึ่งเลยทีเดียว เหตุต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทั้งอาการเดี้ยงของนักเตะคนสำคัญ ตลอดจนการดันนักเตะสายเลือดใหม่ขึ้นมาแทนที่ อีกทั้ง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็หว่านเม็ดเงินมหาศาลเพื่อหวังคว้าแชมป์ให้ได้เช่นกัน
ไรอัน กิ๊กส์ กองกลางประสบการณ์สูงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่า หากทีมสามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ได้ ซึ่งจะเป็นแชมป์สมัยลีกที่ 13 ของตัวเขาเองด้วย จะเป็นการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของตนเอง เนื่องจากทีมต้องเสียผู้เล่นสำคัญไปหลายคน และยังต้องขับเคี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้อีกต่างหาก
ทัพ "ปีศาจแดง" มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บยาวอย่าง เนมานย่า วิดิช กองหลังชาวเซอร์เบีย และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางชาวสกอตแลนด์ แถมยังต้องโบกมือลา พอล สโคลส์ ห้องเครื่องตัวเก๋า ที่ประกาศแขวนสตั๊ดไปหลังจบฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาเล่นอีกครั้งไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็ตาม
ยอดปีกเลือดเวลส์ เชื่อว่าด้วยอุปสรรคทั้งหมดทำให้แชมป์ครั้งนี้หอมหวานที่สุดครั้งหนึ่ง โดยกล่าวว่า "การคว้าแชมป์นี้จะเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่เมื่อคุณดูอำนาจเงินที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้ไป คุณต้องให้เครดิตกับ ซิตี้ ตอนเริ่มฤดูกาล เพราะพวกเขาเล่นได้ดีและทำประตูมากมาย ผู้เล่นสำคัญของพวกเขาทำผลงานได้ดี และพวกเขามีทีมที่ยอดเยี่ยม"
"ดังนั้นแม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บหรือโดนแบน พวกเขาก็รับมือได้ ขณะที่เราต้องฝืนไปทั้งอย่างนั้น ซึ่งเราก็ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน เราไม่ได้โชคช่วยมากนักในฤดูกาลนี้ เรามีนักเตะสำคัญบาดเจ็บ อย่างเช่น วิดิช และ เฟล็ทเชอร์ ดังนั้นความดีความชอบจำนวนมากต้องยกให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ก้าวขึ้นมาแทน"
ช่วงต้นฤดูกาลดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนผ่านทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ ซึ่ง กิ๊กส์ กล่าวว่า "เราเสียนักเตะประสบการณ์ไปหลายคน สโคลซี่ ในครึ่งฤดูกาลแรก, เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, เวส บราวน์ ความท้าทายคือการหาผู้รักษาประตูคนใหม่ ดาบิด เค เคอา เข้ามาและเจอเสียงวิจารณ์มากในช่วงแรก แต่เขาทำงานหนักและแสดงให้เห็นฟอร์มยอดเยี่ยมในช่วงเวลาสำคัญ มีนักเตะพรสวรรค์เลือดใหม่ทั้งหมดที่เราเสริมเข้ามา แชมป์นี้จึงเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่"
นับตั้งแต่ สโคลส์ หวนคืนสนามอีกครั้งในเดือนมกราคม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บได้ถึง 34 จาก 36 คะแนน จนแซง แมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปได้ และ กิ๊กส์ กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมยาวนานรายนี้ว่า "สโคลซี่ กลับมาถือเป็นโบนัสสำคัญของเรา ได้มีเขาอยู่ในสนาม และอยู่รอบๆ ในสนามซ้อม เขายังเป็นเทรนเนอร์ที่ดีที่สุด คุณไม่สามารถแย่งบอลจากเขาได้ เขาทำหลายๆ สิ่งที่ผู้เล่นคนอื่นทำไม่ได้"
อดีตกัปตันทีมชาติเวลส์ ทำประตูชัยในช่วงทดเวลาให้ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ นอริช ซิตี้ 2-1 เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และนั่นดูเหมือนเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฤดูกาล "คุณจะเห็นได้จากการฉลองว่ามันมีความหมายอย่างไรต่อเรา มันเป็นอารมณ์แท้ๆ ความโล่งอกจริงๆ มันสำคัญมาก และมันให้ขวัญกำลังแก่ทุกคนในทีม รวมถึงแฟนๆ"
"คุณจำเป็นต้องมีช่วงเวลาแบบนั้นในฤดูกาลหนึ่งถ้าคุณอยากไปต่อจนคว้าแชมป์ลีกได้ ช่วงเวลาแบบนั้นจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและเสริมความมั่นใจ ลองดูสิ่งที่ประตูของ เฟเดริโก้ มาเคด้า ทำได้ในเกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อ 2-3 ปีก่อนสิ ใครจะรู้? เกมนั้นที่นอริช อาจกลายเป็นหนึ่งในวันที่เราจะมองย้อนกลับมาว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ"
แม้จะนำอยู่ถึง 8 คะแนน แต่ ปีกวัย 38 ปี ยืนยันว่าเขาและเพื่อนร่วมทีมจะไม่ประมาทเด็ดขาดระหว่างตอนนี้จนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม โดยเริ่มตั้งแต่เกมที่จะบุกไปเยือน วีแกน แอธเลติก วันพุธที่ 11 เมษายนนี้ โดยกล่าวว่า "คุณมีสมาธิในการทำหน้าที่ของคุณ และดูแลฟอร์มการเล่นของคุณทั้งส่วนตัวและในฐานะทีม นั่นคือสิ่งที่เราทำ เรามีประสบการณ์มากพอจะรู้ว่ายังเหลือแต้มอีกมากให้ได้และเสีย"
"จนกว่าจะถึงตอนที่เราถูกไล่ไม่ทันในทางทฤษฎี เราจะยังไม่วางใจอะไรทั้งนั้น คำสำคัญคือแรงผลักดัน เราเคยไล่ตามหลายทีมมาก่อน และเคยไล่ตามตัวเราเอง สิ่งที่คุณกำลังมองหาคือชิ้นส่วนของฟอร์มการเล่นในเวลาที่ถูกต้อง จากนั้นก็ทำให้เกิดผลการแข่งขันที่ดี และให้มันดำเนินต่อไป ผมคิดว่าเรากำลังทำอย่างนั้นอยู่ในตอนนี้" เจ้าของฉายา "ปีกพ่อมด" กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น