สหรัฐฯ และอังกฤษ ยังรักษาความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีแดนลุงแซม พา เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีเมืองผู้ดี ไปชมเกมยัดห่วงระดับมหาวิทยาลัย ที่รัฐโอไฮโอ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมขอให้ผู้นำอังกฤษช่วยสอนเล่นคริกเก็ตเป็นการแลกเปลี่ยน
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำหน้าที่เจ้าภาพนำ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เข้าชมเกมบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยที่ เวสเทิร์น เคนตั๊กกี้ สามารถเฉือนชนะ มิสซิสซิปปี้ วัลเล่ย์ สเตท 59-58 คะแนน ติดขอบสนาม ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยเดย์ตัน เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เมื่อวันอังคารที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
โอบามา นั่งคุยกับแฟนๆ และโน้มตัวมาคุยกับ คาเมรอน เป็นระยะๆ เพื่ออธิบายเกมการแข่งขัน ก่อนที่ในช่วงพักครึ่งทั้งคู่จะออกไปรับประทานฮอทด็อกและน้ำอัดลม ซึ่งผู้นำสูงสุดแดนลุงแซม ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเกมนี้ว่า ทั้ง 2 ทีมชู้ตได้แย่มาก "อาจเป็นเพราะความประหม่า นี่ไม่ใช่ทีมที่ปกติจบด้วยการเข้ามายังทัวร์นาเมนต์"
ขณะที่ ผู้นำรัฐบาลเมืองผู้ดี ระบุว่านี่เป็นเกมบาสเกตบอลแรกของเขา และจังหวะของเกม "เร็วและรุนแรง" และบอกว่าเขาได้ โอบามา ช่วยอธิบายให้ตามเกมได้ทัน ขณะที่ โอบามา ก็ขอให้ คาเมรอน สอนการเล่นคริกเก็ตให้เขาเป็นการแลกเปลี่ยน "เพราะผมไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับคริกเก็ตเลย"
อย่างไรก็ตาม การมาเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ใช่มาสนุกและชมเกมอย่างเดียว แต่ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจเตรียมหารือกันเรื่องสงครามในอัฟกานิสถาน, สถานการณ์นิวเคลียร์อิหร่าน, ความรุนแรงในซีเรีย และเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ โอบามา ยังเปิดเผยสาเหตุที่เขาพา คาเมรอน มายังรัฐโอไฮโอ ว่า เขาต้องการให้ผู้นำอังกฤษ มาเห็น "ความเป็นรัฐใหญ่ของโอไฮโอ" หลังจากผู้นำต่างประเทศมักจะมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนเฉพาะเมืองใหญ่ติดชายฝั่งอย่าง นิวยอร์ก, วอร์ชิงตัน และลอส แอนเจลิส "ดินแดนใจกลางประเทศคือสิ่งที่มันเป็นทั้งหมด"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น