เดวิด มอยส์ กุนซือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ยกให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงกว่าที่จะเป็นผู้ชนะในรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ วันที่ 14 เม.ย. นี้ แต่ย้ำว่าจะขอทำเต็มที่เพื่อพาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงให้ได้
เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน สโมสรชั้นนำศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่า ลิเวอร์พูล คู่ปรับร่วมเมือง มีโอกาสสูงกว่าที่จะเป็นผู้ชนะในเกมที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกันในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ หลังจากขุนพล "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" คว้าชัยเหนือ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์ เมื่อวันอังคารที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา
มอยส์ ยืนยันว่านักเตะ "หงส์แดง" เหนือกว่าในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 14 เม.ย. นี้ หลังจากที่พวกเขาเป็นฝ่ายยัดเยียดความปราชัยให้เอฟเวอร์ตัน ใน 2 เกมที่พบกันในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ "ลิเวอร์พูล จะเป็นตัวเต็ง พวกเขาชนะเราได้ 2 ครั้งในปีนี้ พวกเขาจะลงสนามในฐานะทีมที่เป็นต่อ แต่เราก็จะลงไปเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน"
นอกจากนี้ กุนซือวัย 48 ปี ยืนยันว่าต้องการจะนำทีมกรุยทางเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ หลังจากเพิ่งฉลองการทำงานครบ 10 ปี ในถิ่นกูดิสัน พาร์ค เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา "ผมคิดว่าทุกคนจะคิดว่าการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นความสำเร็จแล้ว ไม่ว่าคุณจะได้เล่นมาที่นี่เพียงแค่ปีเดียวหรือ 10 ปีก็ตาม แต่ เอฟเวอร์ตัน มีประวัติศาสตร์อันยอดเยี่ยมนการผ่านเข้าสู่รอบชิง, รอบรองชนะเลิศ และ การคว้าแชมป์ต่างๆ"
"ผมไม่ได้ผ่านเข้ามาถึงจุดนี้บ่อยครั้งเท่าที่ผมอยากจะทำได้ แต่ผมคิดว่าสถานการณ์มันกำลังดีขึ้น เอฟเวอร์ตัน คุ้นชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว พวกเขาเคยผ่านมาถึงตรงนี้บ่อยครั้งในช่วงก่อนหน้านี้ และมันจะไม่ใช่สถานที่ที่แปลกสำหรับพวกเขาแต่อย่างใด"
ทั้งนี้มีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนเกมเมื่อ แฟนบอลเอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถเดินทางเข้าสู่สนามจนกระทั่งเหลือเวลาอีกเพียง 50 นาทีก่อนจะเริ่มการแข่งขัน โดยมอยส์ กล่าวติดตลกว่า "ตำรวจซันเดอร์แลนด์ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นด้วยวิธีในการจัดการของพวกเขาก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้น มันทำให้เราได้เปรียบเล็กน้อย พวกเขาไม่เคยปล่อยให้เราเข้าสนามแบบตรงเวลา และผมได้ยินมาว่ามันเป็นเรื่องปกติของที่นี่เลย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น