วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

คีโน่เชื่อเซอร์กลัวเตฟจึงหยันซิตี้จนตรอก 12bet 25/3/12




  รอย คีน ตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สวมบทกูรูลูกหนัง วิจารณ์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังโชว์ความเก๋าเกมในการทำสงครามประสาทกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรณีบอกว่า ซิตี้ จนตรอก ยอมให้ คาร์ลอส เตเวซ กลับมาเล่น เผยประเด็นหลักคือ เฟอร์กี้ รู้ว่า เตเวซ จะทำให้ ซิตี้ แกร่งขึ้น พร้อมถามว่า เชื่อกันด้วยเหรอว่า เฟอร์กี้ เห็นด้วยที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ เคยสาปส่ง เตเวซ ว่าจะไม่ได้เล่นให้ทีมอีก ชี้ เฟอร์กี้ พูดไปแบบนั้นเฉยๆ เพราะหากเป็นจริงขึ้นมา ทีมที่รับส้มคือ ยูไนเต็ด ที่จะมีโอกาสคว้าแชมป์มากขึ้น
  
        รอย คีน ตำนานแข้งชาวไอริชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่ายปากกาลงคอลัมน์หนังสือพิมพ์ "เดอะ ซัน" บอก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตเจ้านายเก่าสมัยอยู่ทีม "ปีศาจแดง" พูดผิดแล้วที่บอกว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าตาจนสุดๆ ถึงได้ยอมให้นักเตะที่เคยขับไล่ไสส่งอย่าง คาร์ลอส เตเวซ กลับมาช่วยทีม ชี้ถ้าจะให้ถูกควรเรียกว่า "การจัดการที่ดี" และเชื่อว่า เตเวซ จะเป็นตัวแปรทำให้ ซิตี้ มีแรงใจในการสู้เพื่อถ้วยแชมป์มากขึ้น

        เฟอร์กี้ ออกมาพูดถึง เตเวซ หลังจากโดน ปาทริค วิเอร่า เปรียบเปรยการดึง พอล สโคลส์ มาเล่น แสดงว่าพวกเขาเป็นทีมที่อ่อนแอ แต่ คีน เป็นคนหนึ่งที่มองคนละมุมกับ เฟอร์กี้ โดยบอกว่า นี่ไม่ใช่การเข้าตาจนเลย แต่เป็นการบริหารจัดการที่ดีมากกว่า 

        "อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผิดแล้วที่บอกว่าการกลับมาของ คาร์ลอส เตเวซ เป็นเรื่องของการเข้าตาจน มันเรียกว่าการบริหารจัดการที่ดี ด้วยการกลับมาของ เตเวซ นั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอะไรให้แพ้มากกว่า ซิตี้ เพราะ เฟอร์กูสัน รู้เต็มอกว่า เขาเป็นนักเตะที่สามารถเปลี่ยนเกมที่ตื้อๆ ให้เข้าทางทีมของเขาได้ ถ้าเขาไม่สนใจ ซิตี้ แล้วจะเสียเวลามาพูดถึงทำไม ?" 

        "เราเห็นแล้วว่า เตเวซ สร้างจังหวะประตูชัยของ ซามีร์ นาสรี่ ในเกมชนะ เชลซี 2-1 เมื่อวันพุธ ในช่วงที่พวกเขากำลังต้องการตัวจุดประกาย คุณต้องอย่ากัดลิ้นกระทบฟันสิ และคุณคงบ้าไปแล้วถ้าหากมีนักเตะดีๆ อย่าง เตเวซ แล้วไม่ยอมใช้งาน โอเคว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องรอบคอบเรื่องการเสียหน้าเพราะเขาเป็นพูดเองว่า เตเวซ จะไม่ได้เล่นให้ทีมอีกแล้วหลังการปฏิเสธการเปลี่ยนตัวลงสนาม แต่ในเมื่อ เตเวซ ขอโทษแล้ว ทำไมคุณถึงจะไม่ใช้เขาหละ ?" 

        "เฟอร์กูสัน ผิดแล้ว นี่ไม่ใช้การเข้าตาจน สิ้นหวัง มันเป็นเรื่องปกติ สมเหตุสมผล คุณคิดว่าเขาจะเชื่อจริงๆ เหรอว่า เตเวซ ไม่ควรเล่นให้ ซิตี้ อีกแล้วเพียงเพราะ มันชินี่ พูดแบบนั้นหลังจากเขาปฏิเสธลงสนามในเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ? เฟอร์กูสัน เก๋าพอจะรู้ว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงได้ และถ้าคุณต้องการให้ทีมมีมาตรฐานที่สูง คุณต้องมั่นใจว่าคุณมีความคงเส้นคงวา"

        "จำได้มั้ยว่าเมื่อเดือนกันยายนที่แล้วนี่เอง พอล สโคลส์ ออกมาบอกว่าเคยปฏิเสธลงเล่นให้ ยูไนเต็ด ในเกมลีก คัพ กับ อาร์เซน่อล ปี 2001 ตอนนั้นไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลยว่าอนาคตของ สโคลส์ กับ ยูไนเต็ด มันจบแล้ว แม้เขาจะยอมรับในเวลาต่อมาว่า เขาทำสิ่งที่เลวร้ายกว่า เตเวซ ในเกมฟุตบอลคุณต้องก้าวไปข้างหน้า เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้ในช่วงอารมณ์ที่คุกรุ่น แต่ถ้าหากคุณใจเย็นๆ และมีเหตุผล มันก็สามารถคลี่คลายได้" 

        "หาก เตเวซ ไม่ได้เล่นให้ ซิตี้ ไปจนจบมันก็จะเข้าทาง ยูไนเต็ด ทันที เพราะเขามีพรสวรรค์ และจะทำให้ ซิตี้ มีทางเลือกในแนวรุกเพิ่มมากขึ้น และ เฟอร์กูสัน รู้ดีว่า เตเวซ เก่งอย่างไรจากการที่ทำงานกับเขามาแล้ว เขาอาจยอมให้นักเตะย้ายออกไปจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ยอมรับเขาในฐานะนักเตะที่ดี เขาอาจไม่ชอบเท่าไหร่ที่นักเตะมาคอยกดดันเขาเรื่องสัญญาใหม่ แต่เขารู้ดีว่านักเตะเก่งอย่างไรในสนาม"     

        "เหตุผลเดียวที่ เฟอร์กูสัน รู้สึกว่าเขาต้องออกมาพูดเรื่อง เตเวซ เพราะสงครามประสาทมันเริ่มต้นแล้ว เป็นสัญญาณบอกถึงการลุ้นแชมป์ที่เข้มข้น พอ ปาทริค วิเอร่า บอกว่าการเอา สโคลส์ กลับมาเล่นเป็นสถานการณ์ที่จนตรอก เขาก็ต้องออกมาตอบโต้ นั่นเป็นสิ่งที่เขาทำ ปกป้องสโมสร และนักเตะ ผมว่าเขาชอบเรื่องพวกนี้ นักกีฬาอย่าง โมฮัดหมัด อาลี หรือ ยูเซน โบลท์ กระหายการเป็นข่าว และสร้างข่าว ซึ่งผมว่า เฟอร์กูสัน ก็ประเภทเดียวกัน"

        "เราเห็นเขางัดข้อกับ อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล แต่คราวนี้มันต่างไป เพราะว่าความท้าทายมันมาเคาะประตูหน้าบ้านเขาเลย เขาพยายามลดชั้นพวกเขา (ซิตี้) ด้วยการบอกว่า - เพื่อนบ้านน่ารำคาญ - แต่ ซิตี้ ยังคืบคลานมา และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยูไนเต็ด รู้สึกถึงการโดนคุกคามอยู่" 

        "ก่อนหน้านี้ เฟอร์กูสัน เคยมีเรื่องขัดแย้งกับ อาร์แซน เวนเกอร์, ราฟา เบนิเตซ และ เควิน คีแกน แต่ประเด็นคือ เขามีทีมที่สามารถหนุนหลังเขาได้เสมอ ยูไนเต็ด เดินหน้าอย่างยิ่งใหญ่หลังจากเขาพูดแล้วพูดอีก เขาก็เลยไม่เคยรู้สึกถึงการต้องเสียหน้า แล้วมันจะเป็นยังไงนะถ้าหากสิ่งที่เขาพูดถึงอดีตนักเตะของตัวเองกลับมาหลอนเขาตอนที่ทั้งสองทีมเจอกันวันที่ 30 เม.ย. ?"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น