เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มสุดแกร่งในบ้านหลังไล่ต้อนเก็บชัยเหนือ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ ผู้มาเยือนไปแบบสบาย 3-0 เก็บสามแต้มสุดสำคัญพร้อมทำแต้มห่าง แมนฯ ยู รองจ่าฝูงเป็น 5 แต้มแล้ว แต่แข่งมากว่า 1 นัด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555
แมนฯ ซิตี้ 3 - 0 แบล็คเบิร์น
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
"จ่าฝูง" แมนฯ ซิตี้ส่งมาริโอ บาโลเตลลี่กลับมาเป็นตัวจริงได้หลังชดใช้โทษแบนไปสี่เกม และใช้งานอดัม จอห์นสันในโผ 11 ตัวแรกเช่นกันเสียบแทนซามีร์ นาสรี่
อย่างไรก็ดี เจ้าบ้านไม่มีแกเร็ธ แบร์รี่ที่บาดเจ็บ ขณะที่ในแนวรับมีการสลับให้ปาโบล ซาบาเลต้ากับอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟลงบู๊ก่อนหน้าไมกาห์ ริชาร์ดส์กับกาแอล กลิชี่
ส่วนแบล็คเบิร์นที่ขายคริสโตเฟอร์ แซมบ้ากองหลังตัวกลั่นให้อันจิ มาคาชคาล่าไปแล้วประเดิมใช้งานขุนพลใหม่มาร์คุส โอลส์สันกองกลางที่ย้ายมาร่วมทีมในเดือนม.ค.พร้อมมาร์ตินคู่แฝดปราการหลั งและมีราโดซาฟ เปโตรวิชลงบู๊ในแผงกลางอีกราย
เขี่ยบอลได้แค่นาทีแรกเท่านั้น เรือใบสีฟ้าก็น่าจะมีสกอร์ตั้งแต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเมื่อบาโลเตลลี่ได้ตวัดยิงลูกจ่ายจากเส้นหลังกราบขวา แต่ถูกพอล โรบินสันปัดได้ที่เสาแรก
แมนฯ ซิตี้ค่อยๆหาโอกาสของตัวเองต่อไปโดยไม่เร่งรีบ ก่อนจะมีเสียวอีกหนในนาทีที่ 22 จากจังหวะที่ซาบาเลต้าเติมเกมขึ้นมาตักบอลจากกราบขวาไปเสาไกล แต่บาโลเตลลี่โขกจากระยะหกหลาไม่เต็ม บอลโดนหัวไหล่หลุดออกไปอย่างน่าใจหายใจคว่ำ
ขยับมาอีกนาทีเดียว แกรนท์ แฮนลีย์เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของกุหลาบไฟไปรวบบาโลเตลลี่จึงโดนจดชื่อเป็นรายแรก
นาทีที่ 24 จอห์นสันเลื้อยขึ้นฝั่งขวาแล้วลากตัดเข้ามาเข่นแถวหน้าเขตโทษถูกโรบินสันกัปตันทีมเยือนผวาปัดได้
จากนั้นอีกอึดใจเดียว ทีมเงินถังก็ได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านซ้ายจากการทำฟาวล์ของเดวิด ฮอยเล็ตต์ใส่ซิลบา และเป็นบาโลเตลลี่ที่ปั่นไปเสาไกล แต่โรบินสันยังเซฟได้สำเร็จ
กระทั่งนาทีที่ 30 เรือใบสีฟ้าก็ปลดล็อคได้สำเร็จจากเกมโต้กลับโดยดาบิด ซิลบาไหลบอลออกทางซ้ายให้โคลารอฟโยนจากเส้นหลังมาเสาแรกแล้วบาโลเตลลี่ตวัดยิงจากห้าหลาไม่เหลือเป็นสกอร์นำ 1-0 ของแมนฯ ซิตี้
ถึงตรงนี้เกมของเจ้าถิ่นเริ่มไหลรื่นมากขึ้น และอีกสี่นาทีต่อมาโคลารอฟเจ้าเก่าก็จ่ายบอลจากกราบซ้ายเข้าเสาแรกให้ซิลบาซัดระยะแปดหลาถูกโรบินสันหุบขาบล็อคได้ทัน
ล่วงมาถึงนาทีที่ 37 เรือใบสีฟ้าได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายแล้วแว็งซ็อง ก็องปานีตอกส้นระยะหกหลาที่เสาแรกถูกโรบินสันผวาปัดไปที่เสาไกล แต่ยาย่า ตูเร่เข้าซ้ำด้วยลูกวอลเลย์ระยะหกหลาหลุดกรอบไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด
ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านลุยอีกเฮือก และในช่วงทดเวลาเจ็บบาโลเตลลี่ก็เก็บบอลแถวเส้นหลังด้านขวาได้จึงป้ายให้ยาย่า ตูเร่ตวัดยิงจาก 14 หลาเฉี่ยวเสาแรกออกไป
อึดใจต่อมา กองหลังแบล็คเบิร์นให้บอลกันพลาดอีก บาโลเตลลี่จึงโยนยาวเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้เซร์คิโอ อเกวโร่ตามไปซัดมุมแคบถากหน้าปากประตูออกไป ครบ 45 นาทีแมนฯ ซิตี้ซึ่งเหนือกว่าชนิดเทียบกันไม่ได้จึงนำอยู่แค่ 1-0
กลับสู่ครึ่งหลังแมนฯ ซิตี้บุกทันที และนาทีที่ 52 แบรดลีย์ ออร์กองหลังกุหลาบไฟก็โดนจดชื่อในจังหวะทำฟาวล์ก่อนที่เจ้าบ้านจะได้ลูกเตะมุมด้านขวาแล้วโรบินสันทำพลาด ปัดบอลออกมาทั้งๆที่ไม่มีใครกดดันแทนที่คว้าเอาไว้ บอลเลยตกใส่ให้อเกวโร่ตะบันระยะสิบหลาที่เสาสองเพิ่มสกอร์ให้มหาเศรษฐีหนีไปเป็น 2-0
ยิ่งเล่นแมนฯ ซิตี้ก็ยิ่งสนุกข้างเดียว จวบจนนาทีที่ 70 ทีมเยือนก็ปรับหมากสู้ส่งสตีเว่น เอ็นซอนซี่กับรูเบน โรชิน่าลงไปแทนเปโตรวิชกับเมาโร ฟอร์มิก้า
นาทีต่อมา เรือใบสีฟ้าเปลี่ยนตัวสำรองเช่นกันให้ดาวิด ปิซาร์โร่ลงเล่นแทนจอห์นสัน และถึงนาทีที่ 79 เอดิน เชโก้ก็ถูกปล่อยลงบู๊แทนบาโลเตลลี่อีกราย
ให้หลังแค่สองนาที แมนฯ ซิตี้ก็เพิ่มสกอร์ได้อีกเมื่อโคลารอฟเปิดบอลยาวจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษแล้วเชโก้โขกฝังจากสิบหลาอย่างเด็ดขาดพาเรือใบนำโด่งเป็น 3-0
ช่วงสี่นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านส่งเจมส์ มิลเนอร์ลงบู๊เป็นตัวสำรองรายสุดท้ายแทนยาย่า ตูเร่ก่อนจะคว้าชัยไปอย่างสบายเกือก 3-0 ทำแต้มหนีแมนฯ ยูไนเต็ดที่มีโปรแกรมบุกไปเยือนนอริชในวันอาทิตย์เพิ่มเป็นห้าแต้ม
รายชื่อนักแตะทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.86), ไนเจล เดอ ย็อง, อดัม จอห์นสัน (ดาวิด ปิซาร์โร่ น.71), ดาบิด ซิลบา, มาริโอ บาโลเตลลี่ (เอดิน เชโก้ น.79), เซร์คิโอ อเกวโร่
สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเทล ปันติลิมอน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, กาแอล กลิชี่, ซามีร์ นาสรี่
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน, แบร๊ดลี่ย์ ออร์, สกอตต์ แดนน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, มาร์ติน โอลส์สัน, เมาโร ฟอร์มิก้า (รูเบน โรชิน่า น.69), ราโดซาฟ เปโตรวิช (สตีเว่น เอ็นซอนซี่ น.69), มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น, ดาวิด ฮอยเล็ตต์, มาร์คุส โอลส์สัน, ยาคูบู อเย็กเบนี่
สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์ค บันน์, อดัม เฮนลี่ย์, ซิมอน วุคเชวิช, เดวิด กู๊ดวิลลี่, อ็องโตนี่ โมแดสต์
ใบเหลือง : แบร๊ดลี่ย์ ออร์, แกรนท์ แฮนลี่ย์
ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์
แมน ออฟ เดอะแมตช์ : อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ (แมนฯ ซิตี้) ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วสนามหลังเสียงโฆษกประกาศเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของเกมนี้ ซึ่งเขาสมควรได้รับทุกประการ จากการเปิดบอลสวยๆ ให้เพื่อนยิงสองประตู และยังเติมเกมรุกทางกราบซ้ายตลอด ได้โอกาสยิงหลายครั้งด้วยแต่ไม่เข้าเป้า
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- เชลซี ชนะ โบลตัน 3 - 0
- นิวคาสเซิ่ล เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2 - 2
- ควีนส์ปาร์ค แพ้ ฟูแล่ม 0 - 1
- เวสต์บรอมวิช ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4 - 0
- วีแกน เสมอ แอสตัน วิลล่า 0 - 0
- แมนฯ ซิตี้ ชนะ แบล็คเบิร์น 3 - 0
โปรใหม่จาก 12bet คาสิโน เฉพาะวันนี้ SUPER SUNDAY *
สัมผัสความตื่นเต้นใหม่ กับ 12BET คาสิโน ทุกวันอาทิตย์ ที่นี่!
ฝากเงิน 2000 บาท รับเพิ่มทันที ฟรี 1000 บาท!
อย่าลืม บันทึกลงในปฏิทิน แล้วทำทุกวันอาทิตย์ของคุณเป็นวันสุดพิเศษ! สนใจดูรายละเอียดได้ที่นี้นะค่ะ
http://staticpage.99383899.com/Promotion/Casino/th/casino_sign_up_bonus.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น