ฮือฮาสะท้านสะเทือนวงการลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2013-14 มีหวังทำสถิติแพงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อสิทธิ์มายังเมืองไทย หลังจากเซอร์ เดวิด ริชาร์ดส์ ประธานพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเผยว่ามี 5 ยักษ์ใหญ่ในไทยนำโดย แกรมมี่ และทรูวิชั่นส์ แย่งกันประมูล โดยคาดว่าจะสูงกว่าเดิมไม่ต่ำกว่า 30% เท่ากับว่าค่าลิขสิทธิ์หนต่อไปจำนวน 3 ฤดูกาลอาจแตะหลักเฉียดๆ หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
หลังจากได้รับเชิญจากนาย วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ มาเยือนประเทศไทยช่วงปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เซอร์ เดวิด ริชาร์ดส์ ประธานพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ตว่า ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งได้มีการถ่ายทอดสดไปกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ส่วนของไทยนั้นเดิมทีทางทรูวิชั่นส์ ได้เป็นเจ้าของสิทธิ์อยู่นั้นจะหมดสัญญาในฤดูกาลหน้า คือฤดูกาล 2012-13
ทำให้ต้องมีการประมูลลิขสิทธิ์ใหม่เป็นลิขสิทธิ์ของฤดูกาล 2013-14 ซึ่งการประมูลจะประมูลครั้งละ 3 ฤดูกาล ขณะนี้ลิขสิทธิ์ในเมืองไทยนั้นมีถึง 5 รายด้วยกันที่แสดงความจำนงยื่นประมูลมา โดยทางพรีเมียร์ลีกจะทำการตัดสินชี้ขาดว่าใครจะได้ลิขสิทธิ์ตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ไปอีกรวม 3 ฤดูกาล ในเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นี้ทางพรีเมียร์ลีก จะไปทำการโร้ดโชว์เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกันที่ฮ่องกงอีกด้วย
แหล่งข่าววงในคาดการว่าจากการที่มีถึง 5 รายที่คงจะต้องเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหมดโดดเข้ามาทำสงครามช้างชนช้างแย่งกันซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในครั้งนี้ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่านด้วยจำนวนเม็ดเงินอย่างมหาศาล ชนิดที่ใครที่ประมูลได้จะต้องจ่ายด้วยจำนวนมูลค่าแพงที่สุดในประวัติการณ์เท่าที่เคยมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลลีกจากต่างประเทศมายังเมืองไทยเลยทีเดียว ในการประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกครั้งที่แล้ว ฮ่องกง นั้นจ่ายสู้ประมูลกันแพงมากที่สุดขึ้นจากเดิมถึง 30% แต่หนที่จะถึงนี้คาดว่าในไทยจะดุเดือดกว่า และค่าลิขสิทธิ์ในไทยน่าจะแพงกว่าเดิมไม่ต่ำกว่า 30% อย่างแน่นอน ราคามูลค่าในการประมูลหนนี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในไทยน่าจะขึ้นมากกว่า ฮ่องกง ที่เคยฮือฮามากเมื่อครั้งที่แล้วแน่
สำหรับยักษ์ใหญ่ 5 รายที่โดดร่วมชิงชัยประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นเท่าที่เปิดเผยออกมาชัดเจนแน่ๆ 2 เจ้าคือ ทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เดิม และ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยักษ์แห่งวงการเพลงที่ก่อนหน้านี้เพิ่งประมูลได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน มาได้
ส่วนอีก 3 รายน่าจะมีการเผยโฉมออกมาชัดเจนในเร็วๆ นี้ สำหรับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ครั้งก่อนนั้นมีการคาดกันว่าทางทรูวิชั่นส์ จ่ายไปฤดูกาลละประมาณ 2,000 ล้านบาท รวม 3 ฤดูกาลตกประมาณ 6,000 ล้านบาท เท่ากับว่าในการประมูลครั้งต่อไปที่ถูกประเมินว่าราคาจะพุ่งสูงจากเดิมอีกประมาณ 30% ดังนั้นมูลค่าเม็ดเงินที่จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ใน 3 ฤดูกาลจะพุ่งกระฉูดเฉียดระดับ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น