จากบันทึก เดือน พ.ค.2011 ที่ทีม เบอร์มิงแฮม, แบล็คพูล และเวสต์แฮม มีอันต้องตกชั้นลงไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับการเดินสวนทางขึ้นสู่ลีกสูงสุดของ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส, นอริช และสวอนซี 3 ทีมน้องใหม่
ก่อนเปิดซีซั่นเชื่อว่า หลายคนคงฟันธงให้ 3 ทีมนี้น่าจะเป็นทีมเต็งที่จะกลับไปเจอเพื่อนเก่าในแชมเปี้ยนชิพ โดยเฉพาะ “หงส์ขาว” สวอนซี (ทีมห่านอะไรก็ไม่รู้ในทีแรกที่ได้พบเห็นโลโก้) ที่ไร้สตาร์ดัง และ “นกขมิ้นเหลืองอ๋อย” นอริช ซิตี้ที่กลับมาเล่นบนลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจากอำลาไปในฤดูกาล 2004/05 ขณะที่ “ทหารเสือราชินี” ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ดูมีราคาพอสมควรเนื่องจากการกว้านซื้อนักเตะระดับ พรีเมียร์ลีก เข้ามาร่วมทีมหลายคนจนน่าจะอยู่รอดได้แบบไม่ลำบาก
แต่เวลาเดินทางผ่านปฏิทิน 2012 มาถึงปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า 3 ทีมน้องใหม่ยังคงยืนระยะบนลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้อย่างสง่างาม “นกขมิ้น” แห่งแคร์โรว์ โร้ด สร้างผลงานอุกฉกรรจ์บนพื้นที่อันดับ 9 หลังจากโม่แข้งไปเท่ากันทั้งหมด 22 นัด ขณะที่ สวอนซี ก็มีอันดับไม่ขี้เหร่ยึดพื้นที่หมายเลข 13 ส่วนควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ที่เพิ่งเปลี่ยนนายใหม่ได้มาร์ค ฮิวจ์ส มาแทนนีล วอร์น็อค ที่ออกไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนสามารถหนีโซนแดงขึ้นมารั้งอันดับ 16 ปล่อยให้ทีมอย่าง โบลตัน, แบล็คเบิร์น, วูล์ฟส และวีแกน ต้องดิ้นรนในโซนแดง
ซึ่งพอผ่านครึ่งฤดูกาลมาจนเหลืออีก 16 นัดให้ต่อกรกัน ทำให้มีหลายคนเริ่มคาดการณ์ถึงสถานการณ์ของ 3 น้องใหม่ว่า อาจจะเอาตัวรอดได้แบบครบเซ็ต
เมื่อย้อนกลับไปมองพงศาวดารลูกหนัง พรีเมียร์ลีก ที่เริ่มใช้ชื่อนี้บนลีกสูงสุดของอังกฤษเมื่อปี 1992-93 (มาถึงปีนี้ครบ 20 ปีพอดิบพอดี) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมี 3 น้องใหม่สามารถหักด่านฝ่าดงอยู่รอดบนลีกสูงสุดมาได้แล้ว และเป็นแบบยืนยาวเสียด้วยทั้ง ฟูแล่ม, แบล็คเบิร์น และโบลตัน ที่สร้างชื่อเป็น 3 ทีมน้องใหม่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีหลังเปลี่ยนชื่อ ที่อยู่รอดปลอดภัยแบบครบกระบวนในซีซั่น 2001-02 หรือพรีเมียร์ลีก ฉบับที่ 10
และปีนี้เมื่อดูจากคะแนนปัจจุบันก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ 3 ทีมน้องใหม่จะอยู่ยงต่อไปในลีกสูงสุดไล่จาก นอริช ซิตี้ ของพอล แลมเบิร์ต ที่เข้ามากุมบังเหียนในรัง “เดอะ คานารี่ส์” ตั้งแต่ปี 2009 ก่อนจะพาทีมขึ้นชั้นในฐานะอันดับ 2 ของศึก แชมเปี้ยนชิพ เมื่อซีซั่นก่อนทั้งที่มีซูเปอร์สตาร์ประจำทีมนาม แกรนท์ โฮลท์ และฤดูกาลนี้ก็แทบไม่มีนักเตะระดับสตาร์เข้ามา แต่ลูกทีมของ แลมเบิร์ต อดีตมิดฟิลด์ตัวเก่งทีมชาติสกอตฯกลับสามารถต่อกรกับทีมในระดับ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างน่าดูชม
มาที่ สวอนซี ที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นจากการเอาชนะใน แชมเปี้ยนชิพ รอบเพลย์ออฟมีสตาร์เพียง สกอตต์ ซินแคลร์ อดีตเด็กสร้างเชลซี และนาธาน ดายเออร์ สองตัวริมเส้น แต่ทว่าการเอาเงิน 1.5 ล้านปอนด์ให้ อูเทร็คชท์ ไปแลกลายเซ็น มิเชล วอร์ม โคตรเหนียวทีมชาติฮอลแลนด์กลับเป็นการซื้อสุดคุ้มแห่งปี จากการโชว์ฟอร์มเกินราคาเล่นงานแนวรุกทีมคู่แข่งให้ยิงจนเหนื่อย และรั้งอยู่บนอันดับ 13 ปัจจุบัน นอกจากนั้น ต้องชื่นชมแท็คติกของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือผู้เข้ามาสร้างทีม “หงส์ขาว” ในปี 2010 ที่สามารถวางระบบทีมเวิร์กให้ สวอนซี ทีมนี้สามารถเล่นบอลกับพื้นได้อย่างมีสไตล์ ไม่บุ่มบ่ามโยนยาวสะเปะสะปะเหมือนทีมเล็กทั่วไป
ส่วนควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส นั้น หลังจากนีล วอร์น็อค สามารถพาทีมขึ้นชั้นมาได้ในฐานะแชมป์ลีกรองของอังกฤษ ก่อนจะเปลี่ยนมาร์ค ฮิวจ์ส เป็นกุนซือก็สามารถกวาดเอานักเตะที่เคยค้าแข้งอยู่ในระดับ พรีเมียร์ลีก ได้หลายรายทั้ง ลุค ยัง, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, โจอี้ บาร์ตัน, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แอนตัน เฟอร์ดินานด์, คีรอน ดายเออร์, เจย์ โบธรอยด์, ดีเจ แคมป์เบลล์, แดนนี่ แก็บบิดอน ฯลฯ รวมถึงนักเตะที่เคยสัมผัสลีกสูงสุดอย่างไฮดาร์ เฮลกูสัน, อเดล ทารับต์, ปีเตอร์ ราเมจ, แพ็ดดี้ เคนนี่ รวมถึงการได้ตัวเสริมเข้ามาใหม่อย่าง เฟเดริโก้ มาเคด้า (ยืมตัว), เตย์ ตาอิโว่ ซึ่งดูจากนักเตะแล้วไม่น่าอยู่ในอันดับ 16 ณ ตอนนี้ด้วยซ้ำ
ถึงตรงนี้เมื่อลองมองดูคะแนนหลังจากผ่าน 22 นัดของทั้งสามทีมจะเห็นว่า นอริช มีถึง 29 คะแนน, สวอนซี มี 26 คะแนน ขณะที่ คิวพีอาร์ เก็บไป 20 คะแนน ยังคงเหลือคะแนนเต็ม 48 คะแนนให้เก็บในอีก 16 นัดที่เหลือ
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีสถิติสำหรับโซนตกชั้นว่า หากทีมใดสามารถเก็บได้ 40 คะแนนก็มีโอกาสรอดตกชั้นสูง และเมื่อลองวิเคราะห์ดูแล้วก็มีโอกาสที่ 3 น้องใหม่ในปีนี้จะสามารถเอาตัวรอดได้แบบครบเซ็ตก็มีเช่นกัน เมื่อดูจากขุมกำลังของ “ทหารเสือราชินี” ทีมที่ร่อแร่ที่สุดใน 3 ทีมนี้ ซึ่งถ้าหากทำได้จริงก็จะเป็นปรากฏการณ์ในรอบ 10 ปีเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง หลังจากฟูแล่ม, แบล็คเบิร์น, และโบลตัน เคยทำได้เมื่อ 10 ปีที่แล้วในซีซั่นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 ในฤดูกาล 2001/02
แต่ทว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เคยสอนให้เห็นแล้วว่า ทีมน้องใหม่มักจะสู้แรงเสียดทานไม่ไหวในบั้นปลาย เฉกเช่น แบล็คพูล ในฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะพลาดโอกาสเป็นทีมน้องใหม่อยู่รอดครบเซ็ตร่วมกับ นิวคาสเซิล และเวสต์บรอมวิช
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น