โฆเซ่ กาเยฆ่อน รับบทฮีโร่ซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วย "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกเก็บชัยเหนือ มายอร์ก้า เจ้าบ้านไปได้แบบลุ้นเหนื่อย 2-1 เก็บเพิ่มอีกสามแต้มสุดสำคัญ ทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า รองจ่าฝูงออกไปเป็น 8 แต้มแล้วแต่ชุดขาวแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555
มายอร์ก้า 1 - 2 เรอัล มาดริด
สนาม : อิเบโรสตาร์ เอสตาดี้
มายอร์ก้า ของเทรนเนอร์ ฆัวกิน กาปาร์รอส ปรับทีมจากเกมโคปา เดล เรย์ เมื่อกลางสัปดาห์ถึงแปดคนโดยเรียกตัวจริงอย่าง ดูดู อาวัต, เฟร์นานโด ติสโซเน่ และ บิคตอร์ กาซาเดซุส กลับมาลงสนามอีกครั้ง
ฟากทีมเยือนอย่างจ่าฝูง เรอัล มาดริด นัดนี้ปรับทีมเล็กน้อยโดยเรียก มาร์เชโล่, , เมซุต โอซิล และ คาริม เบนเซม่า กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งและที่เซอร์ไพรส์คือแดนกลาง โชเซ่ มูรินโญ่ เลือกส่ง โฆเซ่ กาเยฆ่อน ลงสนามเป็นตัวจริง
เกมครึ่งแรกเริ่มขึ้นมาทั้งสองทีมยังเล่นได้อย่างสูสีและเป็นเจ้าบ้านที่ได้โอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 10 เมื่อ โทเมอร์ เฮเหม็ด จ่ายบอลมาให้ บิคตอร์ กาซาเดซุส กดด้วยซ้ายแต่บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
4 นาทีถัดมายังเป็นมายอร์ก้า ที่ได้ลุ้นอีกครั้งการยิงด้วยของของ โทเมอร์ เฮเหม็ด หลังจาก บิคตอร์ โหม่งเช็ดมาให้ แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบออกหลังไปเช่นเดิม
เกมของเจ้าบ้านยังดูดีกว่านาทีที่ 28 มายอร์ก้า ได้พาบอลสวนกลับเร็วกอนซาโล่ กาสโตร ไหลให้ โทเมอร์ เฮเหม็ด พาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะยิงโดนกองหลังทีมเยือนวิ่งเข้ามาเบียดทำให้ยิงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
โอกาสลุ้นประตูเน้นๆครั้งแรกของ"ราชันชุดขาว" เกิดขึ้นในนาทีที่ 33 จากลูกยิงฟรีคิกระยะไกลของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่บอลไม่แรงแม้จะตกพื้นก่อนแต่ ดูดู้ อาวัต ก็รับได้สบาย
เกมของ เรอัล มาดริด เริ่มดีขึ้น นาทีที่ 37 ทีมเยือนได้ตกบอลกันชุดใหญ่ก่อนที่ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า จะจ่ายบอลให้ คาริม เบนเซม่า ได้ยิงด้วยขวาแต่ดูดู้ อาวัต ก็ยังพุ่งไปรับได้ทัน
แต่แล้วนาทีที่ 39 ก็เป็นเจ้าบ้านได้ประตูก่อนจากลูกเตะมุมสั้น และเป็น กอนซาโล่ กาสโตร ที่โยนเข้าไปที่เสาแรกให้ โทเมอร์ เฮเหม็ด โฉบมาโหม่งเช็ดก่อนที่ ชาบี อลอนโซ่ จะเข้าถึงบอลลอยเสียบเสาสองเข้าไป มายอร์ก้า นำก่อน 1-0
ท้ายครึ่งแรกเรอัล มาดริด เกือบตีเสมอได้ทันควันเมื่อได้ลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ชาบี อลอนโซ่ โยนเข้าไปแถวๆจุดโทษให้ เซร์คิโอ รามอส โขกลงพื้นแต่บอลไปชนเสาเต็ม เปเป้ พยายามโหม่งซ้ำแต่ก็ไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกยังเป็น มายอร์ก้า นำอยู่ 1-0
กลับลงมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายที่เล่นได้ดีกว่าและต่อบอลได้ดีขึ้นก่อนจะมีโอกาสลุ้นยิงก่อนในนาทีที่ 50 จากจังหวะที่ โอซิล จ่ายให้ เบนเซม่า กระดกบอลหลังกองหลังแล้วกลับตัวยิงแต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 57 มายอร์ก้า ชวดโอกาสได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดายเมื่อได้โอกาสโตกลับเร็วและเป็น บิคตอร์ กาซาเดซุส ที่หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ กาซียาส เข้าไปแล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่าล้ำหน้าไปซะก่อน
เกมของเรอัล มาดริด ยังไม่ดีขึ้นทั้งที่เปลี่ยน กอนซาโล่ อิกวาอิน ในช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนที่ ริคาร์โด้ กาก้า และ ฟาบิโอ โคเอนเตรา จะลงมาในช่วงครบหนึ่งชั่วโมงของเกมก่อนจะมาได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ กาก้า ในนาทีที่ 71 แต่ อาวัต ก็ยังปัดข้ามคานไปได้
แต่ทว่านาทีที่ 72 ทีมเยือนก้มาได้ประตูที่ต้องการเมื่อ เมซุต โอซิล ไหลทะลุช่องเข้าไปให้ กอนซาโล่ อิวาอิน ยิงด้วยซ้ายบอลแฉลบกองหลังลอยข้ามตัวนายทวารเจ้าถิ่นเข้าประตูไป เรอัล มาดริด ตีเสมอเป็น 1-1
เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สองเมื่อโคเอนเตรา จ่ายบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สับไกยิงด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจังชวดประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
นาทีถัดมา เรอัล มาดริด ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้อีกครั้งจากการโยนฟรีคิกของ ชาบี อลอนโซ่ ที่โยนไปที่เสาสองให้ เซร์คิโอ รามอส โขกแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปซะก่อน
นาทีที่ 85 ชุดขาวทีมเยือนที่โหมบุกอย่างหนักมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากการวิ่งเข้าซ้ำจังหวะสองในเขตโทษของ โฆเซ่ กาเยฆ่อน บอลเข้าไปตุงตาข่ายไม่เหลือ
ท้ายเกม เกมเปิดแลกกันสนุกแต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกมเรอัล มาดริด ยังโชว์ฟอร์มสุดแกร่งไล่ยิงแซงเก็บชัยเหนือ มายอร์ก้า เจ้าถิ่น 2-1 เก็บเพิ่มอีกสามแต้มสุดสำคัญ พร้อมทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า รองจ่าฝูงเป็น 8 แต้มแล้วแต่ชุดขาวแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มายอร์ก้า : ดูดู้ อาวัต, อีบัน รามิส, โฆเซ่ มานูเอล ฟลอเรส "ชิโก้", ปาโปล กาเซเรส, เปา เซนดรอส โลเปซ, เจา บิคตอร์, เฟร์นานโด ติสโซเน่, กอนซาโล่ กาสโตร, มิชาแอล เปเรร่า, โทเมอร์ เฮเหม็ด, บิคตอร์ กาซาเดซุส
สำรอง : ฆวน กาลาตายุด, นูเนส, ปโดร บิกาส, โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ตี้, อัลฟาโร่, เอมิลิโอ เอ็นซู, มาร์วิน โอกุนยิมี่
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์เชโล่, ชาบี อลอนโซ่, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, เมซุต โอซิล, โฆเซ่ กาเยฆ่อน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า
สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน, ฟาบิโอ โคเอนเตรา, ราฟาเอล วาราน, ริคาร์โด้ กาก้า, นูริ ซาฮิน, เอสเตบัน กราเนโร่, กอนซาโล่ อิกวาอิน
ผู้ตัดสิน : เปโดร เฆซุส เปเรซ มอนเตโร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น