ดาบิด ซิลบา สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยช่วย "เรือใบสีฟ้า" เปิดบ้านเฉือนเก็บชัยเหนือ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ผู้มาเยือนแบบสุดมันส์ 1-0 พร้อมเก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จและแซงกลับขึ้นมานำ แมนฯ ยู ที่เก็บชัยได้ก่อนหน้า โดยช่องว่างของคะแนนยัง 2 แต้มเท่าเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554
แมนฯ ซิตี้ 1 - 0 อาร์เซน่อล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เกมพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของวันอาทิตย์ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า จัดหนักทีเดียวด้วยการส่งเด็กเก่า ปืนใหญ่ ลงเล่นทั้ง ซามีร์ นาสรี่ และ โคโล ตูเร่ แทนที่ เจมส์ มิลเนอร์ กับ โจลีออน เลสค็อตต์ ส่วนแนวรับขาด กาแอล กลิชี่ ที่ติดโทษแบน ทำให้ ปาโบล ซาบาเลต้า ถูกโยกมาทำหน้าที่ชั่วคราว โดยมี ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ที่ฟิตกลับมายืนแบ๊กขวา
ฟาก อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ ปืนโต อาคันตุกะจากลอนดอน ไม่เปลี่ยนแปลงทีมชุดที่ชนะ เอฟเวอร์ตัน ในนัดก่อน นำโดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงกัปตันทีมฟอร์มฮอต
แมนฯ ซิตี้ ที่ต้องการสามแต้มเพื่อทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชนะไปก่อนหน้านี้ เป็นฝ่ายเขี่ยเริ่มเกมก่อน และได้เสียวสุดๆ เมื่อผ่านมาถึงนาทีที่ 9 จากจังหวะที่ ซาบาเลต้า เติมขึ้นทางซ้ายแล้วโยนเข้ากลางให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" จับลงอย่างนิ่มนวลแล้ววอลเล่ย์ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา อเล็กซ์ ซง มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล โดนใบเหลืองคนแรกของเกม จากการไปอัด ซิลบา ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติสเปน จะได้หลุดไปซัดในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ทว่าติดเซฟ วอจเซียจ เชสนี่ มือกาวโปล
อาร์เซน่อล ตอบโต้ได้ดีทีเดียว นาทีที่ 16 แชร์วินโญ่ ทะลุเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ติด โจ ฮาร์ท ที่ปิดมุมไว้ดี และจากจังหวะเตะมุม แฟร์มาเล่น ได้โหม่งหกหลา แต่เบาเกินไป แถมยังตรงตัวนายทวารทีมชาติอังกฤษของเจ้าบ้านอีก
นาทีที่ 24 เรือใบสีฟ้า น่าได้สุดๆ เมื่อกองหลัง อาร์เซน่อล สกัดลูกโยนจากทางขวาของ ริชาร์ดส์ ไม่ขาด เลยโดน มาริโอ บาโลเตลลี่ เกี่ยวลงพื้นแล้วยิง แต่ยังดีที่ เชสนี่ ผวาออกมาบล็อกได้เฉียบ
เดอะ กันเนอร์ส พยายามหาจังหวะโต้กลับ นาทีที่ 32 อารอน แรมซี่ย์ ได้ครอสจากกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ ฟาน เพอร์ซี่ โหนโหม่งเกินไป เลยไม่มีน้ำหนัก ถัดมาสองนาที ปืนใหญ่ ได้เสียวอีกเมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ลุยจากกลางสนาม ก่อนตัดสินใจกดแฉลบไปเข้าทาง แรมซี่ย์ ที่เติมเข้ากรอบเขตโทษพอดี แต่ โคโล ตูเร่ เสียบไว้ได้ โดยไม่ฟาวล์
แกเร็ธ แบร์รี่ กองกลางเจ้าบ้าน ได้ใบเหลืองในนาทีที่ 39 จากการไปเสียบ มิเกล อาร์เตต้า จากทางด้านหลัง ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ หวิดได้อีกจากความสามารถเฉพาะตัวของ กุน ที่ลากหนีตัวประกบตัดจากหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายมาขวาแล้วตวัดยิงย้อนศร แต่ เชสนี่ ล้มตัวดักไว้ได้
ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 43 แฟนปืนใหญ่ หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ โดน ซาบาเลต้า เสียบจนเจ็บ ขณะที่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ก่อนดาวยิงดัตช์ จะลุกขึ้นมาเดินกะเผลก และกัดฟันเล่นต่อ จากนั้น โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ของทีมเยือนโดนใบเหลืองอีก จากการหยุด กุน ไม่ให้เล่นโต้กลับเร็ว จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ลงซัดกันต่อครึ่งหลังยังไม่มีการเปลี่ยนตัว แต่เล่นต่อแค่ 2 นาที โยฮัน ฌูรู ดูจะเจ็บ ทำให้ต้องส่งกองหลังดาวรุ่ง อิกนาซ๊ มิเกล ลงไปแทน
เล่นไปถึงนาที 53 แมนฯ ซิตี้ ก็ออกนำสำเร็จ มาริโอ บาโลเตลลี่ ขึ้นเกมทางซ้ายแล้วหักหนี อเล็กซ์ ซง เข้าในก่อนซัดเปรี้ยงด้วยขวา เชสนี่ เซฟได้แต่บอลไม่พ้นอันตราย อเกวโร่ พยายามชาร์จซ้ำโดนลูกปลิ้นเข้าทาง ดาบิด ซิลบา โขกทิ่มต่อเน้นๆ เข้าประตูไป 1-0 ของทีมเรือใบสีฟ้า
นาที 56 แฟนปืนโตได้เฮคืนบ้าง ฟาน เพอร์ซี่ ทะลุเดี่ยวเข้าไปชิปผ่านตัว โจ ฮาร์ท เข้าประตู แต่ต้องเฮเก้อ เนื่องจากล้ำหน้าไปครึ่งก้าว
จากนั้น แมนฯ ซิตี้ ยังเดินหน้าบุกต่อ นาที 62 หวิดหนีออกไปอีกเม็ด นาสรี่ พยายามตะลุยเดี่ยวเข้าจุดอันตราย บอลติดกองหลังเด้งออกมามุมเขตโทษ กุน อเกวโร่ ยิงสวนตูมเดียวลูกพุ่งเฉี่ยวเสาสองแค่คืบ และไม่ถึงนาทีต่อมา นาสรี่ ทะลุเข้าไปพร้อมเพื่อนอีก 2 คน แต่สุดท้ายจ่ายแรงไป บาโลเตลลี่ เข้าชาร์จไม่ถึงที่หน้าประตู
เกมเข้าไคลแบบสุดๆ ในช่วงนี้ อาร์เซน่อล สวนขึ้นมาก็เกือบได้เฮเหมือนกันในนาที 64 ฟาน เพอร์ซี่ สบโอกาสยิงแบบต้องเข้า ทว่า โจ ฮาร์ท ยังรับไว้ได้ติดมือ
นาที 65 ซาบาเลต้า ได้ตะบันเข้าข้อจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งวาบเข้ากระแทกเสาแรกเต็มใบ ทั้งที่ เชสนี่ หมดสิทธิ์ขยับไปแล้ว
สามนาทีต่อมา อังเดร อาร์ชาวิน ถูกส่งลงเติมเกมแทน ธีโอ วัลตค็อตต์ ที่เงียบกริบ ขณะที่อีกแวบให้หลัง มันโช่ ก็เปลี่ยนเอา บาโลเตลลี่ ออก ส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงเสริมตรงกลางแทน
ปืนโหมบุกอย่างหนักและเกือบได้ประตูตีเสมอนาทีที่ 90 จากจังหวะที่ แฟร์มาเล่น ซัดด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อนอกเขตโทษบอลพุ่งเข้ากรอบแต่เป็น โจ ฮาร์ท ที่โชว์เซฟไว้ได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เบียดชนะ 1-0 ยึดจ่าฝูงได้ตามเดิมและทิ้งห่าง แมนฯ ยู 2 แต้ม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โคโล ตูเร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ซามีร์ นาสรี่, มาริโอ บาโลเตลลี่
สำรอง : คอสเทล พานติลิมอน, โจลีออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้, อดัม จอห์นสัน, สเตฟาน ซาวิช, ไนเจล เด ยองก์
อาร์เซน่อล : วอจเซียจ เชสนี่, โยฮัน ฌูรู, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, อเล็กซ์ ซง, ธีโอ วัลค็อตต์, มิเกล อาร์เตต้า, อารอน แรมซี่ย์, แชร์วินโญ่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรอง : มานูเอล อัลมูเนีย, โทมัส โรซิชกี้, อังเดร อาร์ชาวิน, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, มารูอาน ชามัคห์, ยอสซี่ เบนายูน, อิ๊กนาซี่ มิเกล
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์
สรุปผล ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- ควีนส์ปาร์ค แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0 - 2
- แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 0 - 2
- สเปอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1 - 0
- แมนฯ ซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล 1 - 0
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥
คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ
เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3
โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น