ฟูแล่ม เซ็งสุดๆ หลังโดนโอเดนเซ่ ตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย 2-2 ทำให้กระเด็นตกรอบ ยูโรปา ลีก ไปแบบเหลือเชื่อทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 2-0 ตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก ในศึก ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเค เมื่อคืนวันพุธที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
นัดสุดท้าย กลุ่มเค
วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554
ฟูแล่ม (อังกฤษ) 2 - โอเดนเซ่ (เดนมาร์ก) 2
สนาม : คราเวน ค็อทเทจ
ฟูแล่ม ยังต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการผ่านเข้ารอบ เปิดบ้านรอรับ โอเดนเซ่ ที่จมบ๊วยของกลุ่ม ตกรอบอย่างแน่นอนแล้ว แมตช์นี้เจ้าถิ่นต้องปราศจาก แอนดี้ จอห์นสัน ที่ติดโทษแบน แต่ยังมี มูสซ่า เดมเบเล่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ บ็อบบี้ ซาโมร่า ขณะที่ผู้มาเยือนฝากความหวังไว้ที่ เยนเซ่น และ ปีเตอร์ อูตาก้า
โอกาสแรกเป็นของ "เจ้าสัวน้อย" เมื่อ คริส แบร์ด ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว สเตฟาน เวสเซลส์ ชกออกมาได้
เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูอย่างที่สุด จากลูกเตะมุม เบรเด้ ฮันเกลันด์ โหม่งไปติดเซฟ เวสเซลส์ บอลกำลังจะลอยข้ามเส้น กระนั้นยังมี บาชคิม คาดรี้ ที่สกัดไว้ได้บนเส้น
นาทีที่ 24 แนวรับ โอเดนเซ่ เล่นกันพลาด ทำให้ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ หลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงโดนไม่ดี เอสเพ่น รุด จึงตามลงมาช่วยเคลียร์ทิ้งทัน
3 นาทีต่อมา ฟูแล่ม ได้ประตูสมใจ จากจังหวะที่ เคริม เฟรย์ กระชากถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง และเป็น ซาโมร่า ที่แปะคืนหลังให้ เดมพ์ซี่ย์ วิ่งเข้ามาอัดตุงตาข่าย ขึ้นนำ 1-0
ลูกทีมของ มาร์ติน โยล มาบวกเพิ่มอีกเม็ดในนาทีที่ 31 คราวนี้เป็น เดมเบเล่ ที่จ่ายตัดหลังให้ เฟรย์ ยิงลอดขา เวสเซลส์ ไม่พลาด หนีห่างเป็น 2-0
จากนั้น เดมพ์ซี่ย์ มีโอกาสอีกครั้งส่องไกลนอกกรอบ บอลเหินข้ามคานออกหลังไป จบ 45 นาทีแรก ฟูแล่ม ออกนำไปก่อน 2-0
เริ่มครึ่งหลังไม่กี่วินาที เดมเบเล่ เลี้ยงลุยขึ้นมา ก่อนตัดสินใจปั่นไซด์ด้วยซ้าย หนนี้ เวสเซลส์ ล้มตัวรับเข้าซองไม่มีปัญหา
ทีมเยือนตอบโต้เหมือนกัน เอสเพ่น รุด หลุดเข้าเขตโทษทางขวาแล้วยิงยัดไปเสาสอง แต่ นีล เอเธอริดจ์ ยังพุ่งปัดได้ออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม
โอเดนเซ่ ตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 64 เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะอันตราย และเป็น ฮานส์ เฮนริค อันเดรียเซ่น ที่หลอกยิงเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
ทีมเยือนจากแดนโคนม เริ่มได้ใจ เยนเซ่น กระชากไปถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดให้ อูตาก้า เข้าชาร์จ ยังดีที่ ฮันเกลันด์ ตามลงมาช่วยสกัดทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นถึงกับช็อก เมื่อ โอเดนเซ่ มายิงประตูตีเสมอ 2-2 จาก ฌิบี้ ฟอลล์ ที่ได้โหม่งโล่งๆ พร้อมกับเสียงนกหวีดของ ผู้ตัดสิน เป่าจบเกมทันที ทำให้เจ้าถิ่นต้องร่วงตกรอบยูโรปา ลีกไปอย่างเจ็บปวด
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฟูแล่ม : นีล เอเธอริดจ์; สตีเฟ่น เคลลี่, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, แม็ทธิว บริจจ์ส; เคริม เฟร, มาร์เซล เกคอฟ, คริส แบร์ด, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์; มูสซ่า เดมเบเล่, บ็อบบี้ ซาโมร่า
สำรอง : ซาบา โซม็อกยี่, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ออร์ลันโด้ ซา, พาจ์ทิม คาซามี่, ฟิลิปป์ เซนเดรอส, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, ดิ๊คสัน เอตูฮู
โอเดนเซ่ : สเตฟาน เวสเซลส์; เอสเพ่น รุด, ดาเนียล โฮ้ก, ทอเร่ เรจินิอุสเซ่น, แบร์กนาร์ เมนดี้; รูริค จิสลาสัน, ฮานส์ เฮนริค อันเดรียเซ่น, คริส โซเรนเซ่น, บาชคิม คาดรี้; ราสมุส ฟัลค์ เยนเซ่น, ปีเตอร์ อูตาก้า
สำรอง : ดาเนียล คร็อก, อันเดรียส โยฮันส์สัน, ยาค็อป สคู๊ป, เอริก เฌมบ้า-เฌมบ้า, ทิมมี่ โยฮันเซ่น, โอลิเวอร์ ลาร์เซ่น, ฌิบี้ ฟอลล์
ผู้ตัดสิน : อาลอน เยเฟ็ต (อิสราเอล)
สรุปผลฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่ม ดี
- เอฟซี ซูริค (สวิส) ชนะ วาสลุย (โรมาเนีย) 2-0
- ลาซิโอ (อิตาลี) ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 2-0
กลุ่ม อี
- เบซิคตัส (ตุรกี) ชนะ สโต๊ค ซิตี้ (อังกฤษ) 3-1
- ดินาโม เคียฟ (เยอรมัน) เสมอ มัคคาบี้ เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 3-3
กลุ่ม เอฟ
- เปแอสเช (ฝรั่งเศส) ชนะ แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 4-2
- สโลวาน บราติสลาวา (สโลวาเกีย) แพ้ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) 2-3
กลุ่ม เจ
- มัคคาบี้ ไฮฟา (อิสราเอล) แพ้ ชาลเก้ (เยอรมัน) 0-3
- สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) ชนะ เออีเค ลาร์นาก้า (ไซปรัส) 3-1
กลุ่ม เค
- วิสล่า คราคอฟ (โปแลนด์) ชนะ ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) 2-1
- ฟูแล่ม (อังกฤษ) เสมอ โอเดนเซ่ (เดนมาร์ก) 2-2
กลุ่ม แอล
- สตวร์ม กราซ (ออสเตรีย) แพ้ เออีเค เอเธนส์ (กรีซ) 1-3
- อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) ชนะ โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย) 5-3
**ช่วยกันดูแลคนไทยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือกันนะค่ะ **
ร่วมเป็นแรงใจในการช่วยเหลือพี่น้องไทย เพื่อในหลวงกันนะค่ะ ♥
คลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะคะ
เพื่อร่วมสนับสนุนช่วยผู้ประสบอุทกภัย ปี 54 ผ่านทางสภากาชาดไทยและครอบครัวข่าว 3 ของช่อง 3
โอกาสที่เราจะได้ร่วมทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม!! PSP CSR กิจกรรมเพื่อสังคม กันนะค่ะ !!!
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น