ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับสภาวะนักเตะเจ็บและถูกห้ามแข่งเพียบ เล่นเอา "โรแบร์โต มันชินี" กุนซือชาวอิตาลีมึนตึ้บ ต้องปรับทัพกันใหม่ ในเกมคาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล คืนนี้ เวลา 02.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย...
โดยทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งจะพลาดท่าตกรอบเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยฝีเท้าของคู่แค้นร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทีมเรือใบสีฟ้ามีศักดิ์ศรีเป็นแชมป์เก่าอยู่ด้วย ทำให้สภาพจิตใจของนักเตะแย่ลงพอสมควร แถมเกมเปิดรังเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของลิเวอร์พูล ทีมที่เคยถล่มไป 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอังคารที่ 3 ม.ค. ยังขาดนักเตะตัวหลักๆ เพียบ ไล่ตั้งแต่ "แว็งซองต์ กองปานี" กองหลังทีมชาติเบลเยียม ที่โดนโทษห้ามแข่ง 4 นัด หลังจากถูกใบแดงไล่ออกในเกมที่พ่ายปิศาจแดง 2-3 ซึ่งจะเริ่มนับหนึ่งในนัดนี้พอดี
นอกจากนี้ ทีมอาจต้องขาดกำลังสำคัญในเกมรุกอีกถึง 3 คน เพราะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน ไม่ว่าจะเป็น มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าทีมชาติอิตาลี เอดิน เซโก ดาวยิงทีมชาติบอสเนีย และดาบิด ซิลบา ปีกทีมชาติสเปน แต่อาจมีชื่อเป็นตัวสำรองถ้าผ่านความฟิตทันเวลา กระนั้นทีมก็ยังมีข่าวดี ที่จะได้ เกเร็ธ แบร์รี กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่พ้นโทษห้ามแข่งกลับมาพอดี รวมทั้ง โจ ฮาร์ท นายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ อาจได้กลับมายืนตัวจริงอีกครั้ง หลังจากมีชื่อสำรองในเกมเอฟเอ คัพ ส่วนเซอร์จิโอ อเกวโร ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา จะเป็นตัวทีเด็ดของทัพเรือใบในเกมนี้อย่างแน่นอน
ด้านพลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์รายการนี้สูงสุด 7 สมัย และผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เป็นครั้งที่ 13 เพิ่งกลับมาโชว์ฟอร์มถล่มโอลด์แฮม 5-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเวลาพักมากกว่า 2 วัน อาจเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อย ที่สำคัญกุนซือ เคนนี ดัลกลิช พักตัวหลักไว้เยอะพอสมควร เพื่อส่งลงเล่นในนัดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นแนวรับล้วนๆ อาทิ ดาเนียล แอ็กเกอร์, โฮเซ เอ็นริเก, เกล็น จอห์นสัน และมาร์ติน สเคอร์เทล
ขณะที่กัปตันทีม สตีเวน เจอร์ราร์ด พร้อมลงตัวจริงแล้ว หลังจากประเดิมเป็น 11 คนแรก ไปแล้วในเกมที่ผ่านมา เพราะสภาพความฟิตสมบูรณ์ดีแล้ว แต่การขาดหลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ที่จะถูกห้ามแข่งเป็นนัดที่ 3 จากโทษ 8 นัด ก็ยังส่งผลกระทบต่อเกมรุกของทีม แม้เคร็ก เบลลามี จะลงคู่กับแอนดี คาร์โรลล์ ในเกมนี้ แต่ความอันตรายในการทำประตูยังสู้การมีซัวเรซอยู่ในสนามไม่ได้
หากเทียบขุมกำลังแล้ว แม้เรือใบจะขาดกำลังสำคัญหลายคน แต่การเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง ย่อมมีกำลังใจมากกว่าทีมเยือนหงส์แดง แต่ในรายการนี้ ลิเวอร์พูลเล่นเป็นทีมเยือนทุกนัด และชนะคู่แข่งได้ทุกนัด น่าสนใจว่านัดนี้จะทำได้อีกหรือไม่ ดูแล้วเกมอาจจบลงด้วยผลเสมอ แล้วไปลุ้นต่อนัดที่ 2 ในสนามแอนฟิลด์ ของลิเวอร์พูล ในวันที่ 25 ม.ค.ที่จะถึงนี้
เส้นทางที่ผ่านมาของทั้ง 2 ทีม
รอบ 2
ลิเวอร์พูล ชนะ เอ็กเซเตอร์ 3-1 (เยือน)
รอบ 3
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-0 (เหย้า)
ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรจ์ตัน 2-1 (เยือน)
รอบ 4
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 5-2 (เยือน)
ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ก ซิตี้ 2-1 (เยือน)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ อาร์เซนอล 1-0 (เยือน)
ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0 (เยือน)
ร่วมแบ่งปันน้ำใจเพื่อช่วยเหลือสังคมกับเราสิค่ะ *-*
กิจกรรมล่าสุดที่ทางบริษัท PSP CSR ได้มีบทบาทช่วยเหลือสังคม คือการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในประเทศไทยผ่านสภากาชาดไทย และการแจกอุปการณ์การเรียน อาทิ คอมพิวเตอร์ กระเป๋านักเรียน หนังสือ รวมถึงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นของขวัญในเทศกาลคริสต์มาส ให้แก่เด็กยากไร้
คุณสามารถร่วมเป็นหนึงในกิจกรรมกับเราได้ เพียง
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pspbpo.com
กิจกรรมล่าสุดที่ทางบริษัท PSP CSR ได้มีบทบาทช่วยเหลือสังคม คือการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในประเทศไทยผ่านสภากาชาดไทย และการแจกอุปการณ์การเรียน อาทิ คอมพิวเตอร์ กระเป๋านักเรียน หนังสือ รวมถึงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นของขวัญในเทศกาลคริสต์มาส ให้แก่เด็กยากไร้
คุณสามารถร่วมเป็นหนึงในกิจกรรมกับเราได้ เพียง
เข้าไปคลิก Like ที่ http://on.fb.me/tXPXaI นะค่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pspbpo.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น