วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รายงานผลการแข่งขันสเปน 1- 1 อิตาลี


ฟุตบอลยูโร 2012 นัดแรก กลุ่ม ซี
วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2555
สเปน 1      -      1 อิตาลี

สนาม: พีจีเอ อารีน่า กดังส์ค, กดังส์ค, โปแลนด์  ผู้ชม : 40,000 คน

         บิ๊กแมตช์ยูโร แชมป์เก่าและเต็งหนึ่ง กระทิงดุ สเปน ประเดิมสนามทำศึกหนักกับ อัซซูรี่ อิตาลี โดยใช้สามประสาน อันเดรส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาส และ ดาบิด ซิลบา ล่าตาข่าย ขณะที่ อิตาลี ส่ง มาริโอ บาโลเตลี่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ อันโตนิโอ คาสซาโน่

        เริ่มเกมมา5นาที อิตาลี เป็นฝ่ายได้ลุ้นจะๆก่อน เมื่อได้ลูกฟรีคิกริมเส้น โดย อันเดรีย ปิร์โล่ รับหน้าเสื่อเปิด แต่กองหลัง สเปน เคลียร์ทิ้งไปได้

     4นาทีต่อมา ทีมกระทิงดุ เป็นฝ่ายได้จบบ้าง หลังเริ่มตั้งหลักเกมรุกตัวเองได้ ดาบิด ซิลบา กดเต็มข้อด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างมีลุ้น

     นาทีที่11 สเปน เปิดเกมรุกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อน ดาบิด ซิลบา ได้ยิงในจังหวะสุดท้าย แต่บอลเบาและตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน รับสบาย

     อย่างไรก็ตาม2นาที ต่อมา ทีมอัซซูรี่ มีลุ้นได้ประตูเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ฟรีคิกใกล้กับหัวกะโหลกเขตโทษ มาริโอ บาโลเตลี่ วิ่งหลอกหนึ่งจังหวะ ก่อน อันเดรีย ปิร์โล่ จะมายิงเรียดทะลุกำแพง แต่ อีเกร์ กาซียาส ยังล้มเซฟช่วยป้องกันประตูให้ สเปน ได้ทัน

     นาทีที่22 เป็นฝ่ายอิตาลี มีโอกาสได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ อันโตนิโอ คาสซาโน่ หลุดไปสับไกยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษทางเสาแรก แต่บอลเรียดผ่านเสาสองไปอย่างน่ารักน่าลุ้น

     6นาทีต่อมา สเปน มีลุ้นคืนบ้าง เมื่อ อันเดรส อิเนียสต้า พาบอลแหวกแนวรับ อิตาลี ก่อนเปิดเข้ากลางหวังจะให้ เชส ฟาเบรกาส แต่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ตามมาโหม่งทิ้งออกหลังได้อย่างหวุดหวิด

     และจากจังหวะต่อเนื่อง สเปน ได้ลูกเตะมุม ก่อนบอลจะหลุดมาถึง อันเดรส อิเนียสต้า ได้สับไกยิงด้วยซ้าย บอลเรียดพุ่งแรง แต่ยังตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ยังปิดเสาแรกได้ดีอยู่

     นาทีที่33 อิตาลี ได้จบอีกครั้ง เมื่อ อันเดรีย ปิร์โล่ วางบอลยาวมาให้ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ที่ฉีกตัวออกมาอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อน อันโตนิโอ คาสซาโน่ จะใช้ความสามารถเฉพาะตัว เลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวา อีเกร์ กาซียาส ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง

      [ใบเหลือง] 4นาทีต่อมา มีใบเหลืองบังเกิดขึ้นจนได้ และก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็น มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่รับก่อนตามความคาดหมาย หลังไปเสียบใส่ จอร์ดี้ อัลบา แบบโฉ่งฉ่าง

     ช่วงท้ายครึ่งแรก ทั้งสองทีมมีโอกาสลุ้นได้ประตูคนละครั้ง โดย สเปน มีลุ้นก่อน เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ แทงบอลให้ อันเดรส อิเนียสต้า ยิงด้วยขวา แต่บอลโด่งข้ามคานไป ขณะที่ อิตาลี มีลุ้นจากลูกโขกของ ติอาโก้ ม็อตต้า แต่ อีเกร์ กาซียาส ปัดมือเดียว เซฟการเสียประตูของทีมกระทิงดุไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงเสมอกันอยู่ 0-0

      กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น

      นาทีที่ 49 สเปนเกือบได้ประตูออกนำจากลูกยิงของ เชส ฟาเบรกาส บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังไวพุ่งปัดออกหลังไปได้

      นาทีที่ 52  สเปนโหมบุกหนักต่อเนื่อง อันเดรส อิเนียสต้า ทำชิ่งหลุดเข้าไปยิงที่เสาแรกแต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังเหนียวปัดไว้ได้ปลายมือ

      นาทีที่ 54 อิตาลี พลาดได้โอกาสทำประตูอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ มาริโอ บาโลเตลี่ ได้ลูกส้มหล่นจากริมเส้น ดาวยิงจาก แมนฯซิตี้ ลากบอลจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ช้าเหลือเกิน เซร์คิโอ รามอส จึงตามมาสกัดไว้ได้ทัน

      [เปลี่ยนตัว]  นาทีที่ 57 ทีมอัซซูรี่เปลี่ยนตัวถอดเอา มาริโอ บาโลเตลี่ ออก และส่ง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงเล่นแทน

      [ทำประตู]  นาทีที่ 61 อันเดรีย ปิร์โล่ จ่ายบอลทะลุแนวรับให้ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ที่เพิ่งถูกส่งลงสนาม หลุดเข้าไปยิงผ่านตัว อีเกร์ กาซียาส อิตาลี ขึ้นนำ 1-0

      [ทำประตู]  นาทีที่ 64 ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลตัดแนวรับอิตาลีให้  เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้าไปยิงเรียดผ่านตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน เข้าประตู สเปน ตามตีเสมอทันควัน 1-1

      [เปลี่ยนตัว]  นาทีที่ 65 หลังได้ประตูตีเสมอ สเปนตัดสินใจส่ง เฆซุส นาบาส ลงสนามแทน ดาบิด ซิลบา ขณะที่อิตาลีก็เปลี่ยนตัวด้วยเช่นกัน โดยส่ง เซบาสเตียน โจวินโก้ แทน อันโตนิโอ คาสซาโน่

      [ใบเหลือง]  นาทีที่ 66 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ต้องรับใบเหลืองหลังไปเตะ อันเดรส อิเนียสต้า

      [ใบเหลือง]  จากจังหวะต่อเนื่อง จอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายของสเปน ก็รับใบเหลืองเช่นกัน หลังมีปากเสียงกับผู้ตัดสินเนื่องจากไม่พอใจคำตัดสิน

      [เปลี่ยนตัว]  นาทีที่ 74 กระทิงดุ ตัดสินใจเติมเกมบุกโดยส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงสนามแทน เชส ฟาเบรกาส

      เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ได้สัมผัสบอลจังหวะแรกได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน แต่ บุฟฟ่อน อ่านทางบอลได้ดีออกมาสกัดไว้ได้ทัน

      อิตาลี ได้สวนบ้าง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ได้เอี้ยวตัวยิงในกรอบเขตโทษแต่โดนไม่ดี บอลลอยข้ามคานออกไป

      [ใบเหลือง]  นาทีที่ 79 จอร์โจ้ คิเอลลินี่ รับใบเหลือง หลังไปทำฟาวล์ใส่ อันเดรส อินเนียสต้า บริเวณหน้าเขตโทษ

      [ใบเหลือง]  นาทีที่ 84 เฟร์นานโด ตอร์เรส รับใบเหลืองจากจังหวะที่ขึ้นโหม่งแล้วไปกางศอกใส่ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ แถม อัลบาโร่ อาร์เบลัว ก็รับใบเหลืองด้วยหลังไม่พอใจคำตัดสิน

      ถัดจากนั้นนาทีเดียว กระทิงดุ พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนล็อกหลบแนวรับ พร้อมบรรจงชิพแต่น้ำหนักแรงไปบอลข้ามคานออกหลัง

      นาทีที่ 88 อิตาลีเกือบได้ประตูขึ้นนำ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ได้ยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลไปตรงตัว อีเกร์ กาซียาส

      [ใบเหลือง]  นาทีที่ 89 คริสเตียน มาจโจ รับใบเหลืองอีกใบหลังเข้าตัดเกมโต้กลับเร็วของสเปน

      [เปลี่ยนตัว]  นาทีสุดท้าย อันโตนิโอ โนเชริโน่ ถูกส่งลงสนามมาแทน ติอาโก้ ม็อตต้า

      เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ สเปนเกือบได้เฮ อันเดรส อิเนียสต้า ไหลบอลให้ ชาบี อลอนโซ่ ได้สับไกหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งถากเสาออกไปชนิดได้เสียว

      จบเกม สเปน แชมป์เก่า เสมอกับ อิตาลี 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม แบบมันส์หยด


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        สเปน : อิเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เกราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, ดาบิด ซิลบา (เฆซุส นาบาส น.65), อันเดรส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาส (เฟร์นานโด ตอร์เรส น.74)
ใบเหลือง : จอร์ดี้ อัลบา, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฟร์นานโด ตอร์เรส

        อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, คริสเตียน มาจโจ้, ติอาโก้ ม็อตต้า (อันโตนิโอ โนเชริโน่ น.90), อันเดรีย ปิร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่, อันโตนิโอ คาสซาโน่ (เซบาสเตียน โจวินโก้ น.65), มาริโอ บาโลเตลลี่ (อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ น.57)
        ใบเหลือง : มาริโอ บาโลเตลลี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, คริสเตียน มาจโจ้

        ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)


        แมน ออฟ เดอะแมตช์ : อันเดรส อิเนียสต้า (สเปน) เป็นแกนหลักในแนวรุกที่ลากเลื้อยทำเกมได้ตลอด น่าเสียดายที่หลายๆ จังหวะขาดตัวสนับสนุนที่ดีพอ ขณะที่ครึ่งหลังเขาก็น่าจะทำประตูแรกได้ก่อนด้วย หากไม่ยิงแฉลบหลุดเสาออกไป แต่ภาพรวม อิเนียสต้า คือนักเตะที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้



สเปน          สถิติหลังเกม           อิตาลี
   6               ยิงเข้ากรอบ                6
   13           ยิงไม่เข้ากรอบ             5
   13               ทำฟาวล์                   19
   7                ลูกเตะมุม                   2
   2                  ล้ำหน้า                      3
   66   เปอร์เซนต์การครองบอล  34
   3              ใบเหลือง                      4
   0                ใบแดง                        0



ปรันเดลลี่สุดเสียดายได้แค่เจ๊า
        เซซาเร่ ปรันเดลลี่ นายใหญ่ทีมชาติอิตาลี ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าสุดเสียดายกับการที่พาทีมได้แค่ผลเสมอ ในเกมเจ๊าสเปน 1-1 นัดเปิดสนามศึกยูโร 2012 กลุ่มซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

        เกมนี้ทีมเมืองมะกะโรนียิงขึ้นนำก่อน จาก อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ แต่สุดท้ายต้องมาถูก เชส ฟาเบรกาส ของทีมกระทิงดุตีเสมอ ซึ่ง ปรันเดัลลี่ ก็เอ่ยปากชมลูกทีมว่าเล่นได้ดีแล้ว

        อดีตกุนซือฟิออเรนติน่า กล่าวว่า ผลลัพธ์ยุติธรรมดี เราตั้งใจเล่นเกมรุกไม่ใช่ตั้งรับทีมคู่แข่ง

       
ผลเสมอน่ะหรือ? มันน่าเสียดายหลังจากเรานำไปก่อน เราเล่นกันเป็นทีมได้ดี เรามีทัศนคติที่ดีทั้งทางด้านสภาพร่างกายและจิตใจ


ปีร์โล่รับงงกระทิงไม่ส่งหอกลงบู๊
       

        อันเดรีย ปีร์โล่มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลียอมรับ ประหลาดใจไม่น้อยที่สเปนวางหมากลงเล่นโดยไม่ใช้งานศูนย์หน้า แต่ประทับใจผลงานโดยรวมของทีมที่เก็บแต้มได้

        แชมป์เก่าทำเซอร์ไพรซ์โดยไม่ส่งสามหัวหอกทั้งเฟร์นานโด ตอร์เรส , เฟร์นานโด ยอเรนเต้ และอัลบาโร่ เนเกรโด้ลงสนามเป็นตัวจริง และถูกทีมเมืองรองเท้าบู๊ทยิงนำไปก่อน แต่สุดท้ายเชส ฟาเบรกาสก็ตีเสมอให้สเปนได้

        ผมประหลาดใจสเปนมาก พวกเขาไม่มีกองหน้า แต่บางครั้งพวกเขาก็เล่นแบบนี้ ปีร์โล่เอ่ยก่อนจะพูดถึงทีมของตัวเองว่า

        เราเล่นได้ดี ผมให้คะแนนเราเจ็ดเต็มสิบ เกมนี้ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นสำหรับเกมต่อไป
       
ป้องคู่หอกคาสซ่า-มาริโอ

        ขณะเดียวกัน กองกลางจอมเก๋าก็ได้กล่าวปกป้องคู่กองหน้าตัวจริงทั้งอันโตนิโอ คาสซาโน่และมาริโอ บาโลเตลลี่เช่นกันว่ามีผลงานที่ดีแล้ว
       
ทั้งคู่เล่นได้ดี คนหนึ่งพยายามสอดส่ายหาพื้นที่ และอีกคนพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถ



บอสเก้กร้าวคิดถูกเมินใช้งานศูนย์หน้า

        บิเซนเต้ เดล บอสเก้นายใหญ่ทีมชาติสเปนยืนยัน ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแล้วที่ไม่ส่งกองหน้าลงเล่นในเกมเจ๊ากับอิตาลี 1-1

        จากการวางหมาก 4-3-3 ซึ่งเชส ฟาเบรกาสอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยดาบิด ซิลบาและอันเดรียส อีเนียสต้าปรากฏว่าฟาเบรกาสสามารถซัดลูกตีเสมอให้แชมป์เก่าได้ จึงส่งผลให้กุนซือร่างท้วมระบุว่าไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด

        เชสเป็นนักเตะที่พิเศษซึ่งสามารถทะยานไปข้างหน้าได้ และทำให้เราครองเกมในแดนกลาง เดล บอสเก้อธิบายการจัดทัพ

        เราสร้างสรรค์เกมได้อย่างมหาศาลซึ่งส่งผลดี เราต้องการความปลอดภัยในการเก็บบอลกับคู่แข่งที่สามารถกดดันเราได้ และในครึ่งหลังเราเป็นฝ่ายคอนโทรลเกม

               
ดินาตาเล่ปลื้มกระซวกตาข่ายกระทิง

        อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่กองหน้าอิตาลีออกอาการปลื้มสุดขีดหลังลุกจากม้านั่งสำรองลงไปกดประตูพาทีมสตาร์ตนำในเกมเสมอกับสเปน 1-1

        ดาวเตะทีมอูดิเนเซ่สร้างชื่อได้ในนาทีที่ 60 ก่อนจะถูกเชส ฟาเบรกาสซัดตีเสมอให้แชมป์เก่า แต่ทั้งนี้หัวหอกตัวสำรองของทีมอัซซูรี่ก็ประทับใจตัวเองเป็นที่สุดหลังเคยยิงลูกโทษพลาดในเกมฉะกับทีมเมืองกระทิงรอบแปดทีมของศึกยูโร 2008

        ผมแฮปปี้มากที่ยิงประตูได้ทันทีจากการสัมผัสบอลหนแรก ปีร์โล่ผ่านบอลมาให้เยี่ยมมาก ผมคิดว่ามันเป็นประตูที่ดีที่สุดของผมกับทีมชาติ

        ผมจำได้ว่ายิงลูกโทษพลาดเมื่อสี่ปีก่อนกับสเปน มันจึงวิเศษที่พังประตูพวกเขาได้ ดิ นาตาเล่เอ่ย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น