วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

นานี่รับชีวิตไม่ง่ายกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ #12bet








    นานี่ ปีกตัวจี๊ดชาวโปรตุกีสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับแทบไม่อยากเชื่อตนจะก้าวขึ้นมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้เหมือนทุกวันนี้ ถ้ามองย้อนกลับไปสมัยที่ตนยังเป็นเด็ก เหตุมีชีวิตที่แสนลำเค็ญ เงินค่ารถยังไม่มี จะไปสนามซ้อมแต่ละครั้ง ต้องเดินไกลร่วม 6 ไมล์เลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงเหมือนเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา บอกเป้าหมายสูงสุดสำหรับชีวิตค้าแข้งก็คือการเป็นแข้งเบอร์ 1 โลก 




        นานี่ ปีกชาวโปรตุเกสของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า การที่ตนก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ต้องถือว่าเป็นเหมือนกับปาฎิหาริย์ เนื่องจากชีวิตเมื่อครั้งยังเยาว์วัยสุดแสนจะรันทด ยากจนข้นแค้น เงินทองไม่มี จะไปซ้อมฟุตบอลกับ เรอัล มาสซาม่า อดีตต้นสังกัดสมัยยังเป็นนักเตะเยาวชน แต่ละทีต้องเดินไปเป็นระยะทางไกลถึง 6 ไมล์เลยทีเดียว 




         นานี่ เผยไม่เคยลืมเรื่องราวในอดีตเลยว่าเหนื่อยมากแค่ไหนกว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนในทุกวันนี้ได้ โดยระบุว่า "ผมจำเป็นต้องสู้เพื่อทุกสิ่งทุกอย่าง ผมไม่มีเงินหรือสถานภาพทางสังคมที่ดี ผมต้องเดินทางไปคนเดียวเพื่อฝึกซ้อม ผมต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง นับตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กมาก"




         "เมื่อโอกาสทุกอย่างเข้ามา ผมก็ไม่มีใคร แต่ทุกอย่างมันทำให้ผมได้เรียนรู้เร็วขึ้น ซึ่งนั่นมันจึงมีความสำคัญกับสิ่งที่ผมได้รับ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาโอกาสทุกอย่างที่เข้ามา ผมก็จะรับมันไว้ และผมก็ไม่เคยที่จะเดินถอยหลังไปอีกเลย ครั้งแรกผมได้เล่นให้กับ สปอร์ติ้ง (ลิสบอน) และทีมชาติ ผมก็คว้าโอกาสนั้นไว้ ครั้งแรกที่ผมได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมก็รับโอกาสนั้นเอาไว้ด้วยเช่นกัน" 




         นอกจากนั้น นานี่ ที่แม้จะคว้าแชมป์มาได้มากมายกับ "เร้ด เดวิลส์" แต่เจ้าตัวก็ยังมีความต้องการที่จะทำให้ได้ดีกว่านี้มากขึ้นไปอีก โดยกล่าวว่า "ความปรารถนาในชีวิตค้าแข้งของผมก็คือการเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ทว่าผมก็คงจะไม่หัวเสีย หากผมไปไม่ถึงจุดนั้น เนื่องจากผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะก้าวไปเป็นที่สุด แต่ผมก็เชื่ออยู่เสมอว่า ผมสามารถไปถึงจุดนั้นได้ ผมรู้ว่าผมจำเป็นต้องก้าวไปเป็น 5 อันดับแรกให้ได้ ผมมีมาตรฐานฝีเท้า, พละกำลัง, สภาพจิตใจ และผมมีความเป็นมืออาชีพมาก" 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น