วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เรือเฉือนผี1-0ขึ้นนำฝูง







แว็งช็องต์ ก็อมปานี รับบทฮีโร่โขกประตูชัยนาทีที่ 45 ช่วย "เรือใบสีฟ้า" เปิดบ้านเฉือนเก็บชัยเหนืออริร่วมเมือง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแบบสุดมันส์ 1-0 เก็บสามแต้มสุดสำคัญ ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มขึ้นมาเท่า แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ 83 คะแนนแต่ขึ้นไปนำจ่าฝูงเนื่องจากมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าถึง 8 ประตู ทำให้การลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ต้องไปวัดกันอีก 2 เกมที่เหลือของทั้งสองทีม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555
แมนฯ ซิตี้ 1       -      0 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
        ศึกแห่งศักดิ์ศรี ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ระหว่างอริร่วมเมือง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
        เจ้าถิ่นเรือใบสีฟ้า ต้องเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียวหากหวังพลิกกลับมาเบียดแย้งแชมป์ ขณะที่ ปีศาจแดง ขอแค่ผลเสมอและเก็บเพียงแต้มเดียวก็ถือว่าทำผลงานได้ตามเป้าหมายและจ่อเข้าใกล้แชมป์ซีซั่นที่ 20 แล้ว
        โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดเกมบุกเต็มตัวโดยใช้แผน 4-2-3-1 เซร์คิโอ อเวโร่ "กุน" ยืนหน้าเป้า คาร์ลอส เตเวซ ถูกวางให้เป็นหน้าต่ำ โดยมีสดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ เล่นกลางรุกคอยเสริมขึ้นไปบอกสกอร์ ส่วน ยาย่า ตูเร่ กับ แกเร็ธ แบร์รี่ จะยืนกลางต่ำทั้งคู่ ด้านแผงกองหลังเซ็นเตอร์คู่เป็น แว็งช็องต์ ก็อมปานี กับ โจเลียน เลสค็อตต์ แบ็กขวาเป็น ซาบาเลต้า แบ็กซ้ายเป็น กาแอล กลิชี่
        ผลเสมอของเจ้าถิ่นน่าจะไม่ใช่ผลดีเท่าไรนัก เป้าหมายหลักของพวกเขาคือสามแต้มเท่านั้น เพื่อทำแต้มเทียบ แมนฯ ยูไนเต็ด และแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงทันทีเนื่องจากประตูได้เสียที่ดีกว่า
        ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแห่งทัพอสูรแดงดูเหมือนจะเน้นหนักในแผงกลางโดยใช้แผนการเล่นระบบ 4-2-3-1 หน้าเป้า เวย์น รูนี่ย์ สำหรับแผงกองกลาง พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ และ หลุยส์ นานี่ คอยเสริมเกมรุก ไมเคิ่ล แคร์ริค และ พาร์ค จี-ซอง ยืนกลางรับ ขณะที่ปราการหลังเป็นไปตามคาด ราฟาเอล ดา ซิลวา หลุดไปเป็นตัวสำรองโดยส่ง  ฟิล โจนส์ ลงตัวจริงตำแหน่งแบ็กขวา ด้านแบ็กซ้าย ปาทริซ เอวร่า กัปตันทีมจะคอยหนุมเกมรุก เซ็นเตอร์คู่  ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ คริส สมอลลิ่ง และ ดาบิด เด เคอา รับหน้าที่เฝ้าเสาอย่างต่อเนื่อง
        เป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะขอแค่มีแต้มออกไปเท่านั้น ส่วนผลชนะถ้าทำได้นั่นหมายถึงตำแหน่งแชมป์อยู่แค่เอื้อม
        เปิดเกมครึ่งแรกเริ่มนาทีที่ 5 แมนฯ ซิตี้ได้จังหวะซัดนอกกรอบของ ดาบิด ซิลบา แต่ไปติดแผงหลังผีแดงออกไปได้ลูกเตะมุมและเป็น ซิลบา ที่เปิดเข้ามาในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านแผงหลังทีมเยือน
        ผ่านพ้นไป 10 นาทีทั้งสองทีมยังคงแลกเกมบุกกันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงหาจังหวะจบไม่ได้เนื่องจากทั้งสองฝั่งเน้นเกมรับที่แน่นเหนียวเป็นพิเศษ
        นาทีที่ 16 สาวกผีแดงได้เสียวสันหลังกันทั้งสนามจากจังหวะเกือบได้ประตูของเจ้าถิ่น นาสรี่ พาบอลกระชากหลบแข้งผีแดงก่อนแทงบอลให้ อเกวโร่ หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ไม่มีจังหวะยิงก่อนตัดสินใจเปิดเข้าด้านในแต่ยังเป็น ฟิล โจนส์ ที่ตามเคลียร์ออกไปได้
        จากเกมโต้กลับนาทีที่ 18 ทัพอสูรแดงโต้กลับเร็วบอลไปถึง รูนี่ย์ ที่กลางสนามและเป็น ก็อมปานี เข้ามาตัดฟาวล์ แต่บอลไปเข้าทางแข้งผีแดง กรรมการจึงปล่อยให้เล่นต่อไป เมื่อบอลตาย มาร์ริเนอร์ จึงกลับมาให้ใบเหลืองย้อนหลังกับ ก็อมปานี และนับเป็นใบเหลืองแรกของศึกดาร์บี้แมนเชสเตอร์หนนี้อีกด้วย
        นาทีที่ 22 เรือใบได้ลุ้นจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเลยมาเข้าหัว ก็อมปานี ที่ขึ้นโหนโหม่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
        เกมเริ่มตกเป็นของฝั่งเรือใบที่ครองเกมได้มากกว่าและได้มาลุ้นอีกหนึ่งจังหวะนาทีที่ 24 จากการซัดด้วยขวาโล่งๆ ของ กุน อเกวโร่ ระยะไม่ถึง 8 หลางทางฝั่งขวาแต่บอลไม่เข้ากรอบเลยออกไปไกล
        นาทีที่ 28 ยังคงเป็นเรือใบสีฟ้า ที่เข้ากดดันฝั่งปีศาจแดงอย่างต่อเนื่องและมาได้ลุ้นจากการพาบอลหลุดเข้ามาทางฝั่งขวาของ นาสรี่ แต่ไม่ผ่าน เฟอร์ดินานด์ ที่ขึ้นโหม่งเคลียร์บอลออกไปได้
        เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกเป็น เรือใบ ที่มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลมากกว่าถึง 74 ต่อ 26 เปอร์เซ็นต์
        เกมเริ่มเพิ่มความระอุของความเดือดขึ้นนาทีที่ 35 เรือใบ ได้ลุ้นทำประตูขึ้นนำอีกครั้งจากการผ่านบอลเข้าไปในเขตโทษของ นาสรี่ เลยไปถึง กุน ที่ซัดด้วยเท้าขวาโดยมี เฟอร์ดินานด์ ยื่นเท้าเข้ามารบกวนทำให้ กุน ซัดไม่ถนัดบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
        นาทีที่ 39 เรือใบสวนกลับเร็วโดย เตเวซ กระชากจากครึ่งสนามของฝั่งตัวเองก่อนผ่านบอลให้ ยาย่า ตูเร่ และแทงต่อไปให้ กุน หลุดเข้าในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแต่ถูกแผงหลังทีมเยือนเข้ามาปิดป้องไว้ได้หมดเจ้าตัวจึงตัดสินใจซัดด้วยเท้าซ้ายบอลหลุดออกไปอย่างไม่มีลุ้น
        นาทีที่ 40 ปีศาจแดงที่ครองเกมได้น้อยกว่ามาได้จังหวะเตะมุม และเป็น นานี่ ที่ต่อบอลสั้นเข้าไปในเขตโทษ เรือใบ และเป็น พาร์ค จี-ซอง ที่เติมขึ้นมาซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อบอลหลุดข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
        ฝั่งเจ้าบ้านที่ครองเกมได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดและมาประสบความสำเร็จได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 45 จากจังหวะลูกเตะมุมโดย ดาบิด ซิลบา ที่ปั่นเข้ามากลางประตูและเป็น แว็งช็องต์ ก็อมปานี ที่เบียดชนะแผงหลังผีแดงขึ้นโขกเต็มหัวบอลเข้าไปตุงตาข่ายชนิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน จบการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก เป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ออกนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปก่อน 1-0
        มาระเบิดความระทึกกันต่อในครึ่งเวลาหลังทั้งสองฝั่งยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากครึ่งเวลาแรก และเป็นฝั่ง ปีศาจแดง ที่เริ่มเปิดเกมบุกมากขึ้นและได้จังหวะกดดันเจ้าบ้านหลายครั้งแต่ยังเจาะประตูคืนไม่ได้
        นาทีที่ 52 เรือใบที่ครองเกมบุกอยู่ดีๆ ถูก ปีศาจแดง ตัดบอลได้และโต้กลับเร็วบอลไปถึง ไรอัน กิ๊กส์ ที่กำลังจะครองบอลแต่ ยาย่า ตูเร่ เข้ามาใช้ท่อนแขนเบียดกรรมการจึงเป่าเป็นบอลฟาวล์ แต่เจ้าตัวไม่พอใจคำตัดสินจับบอลขึ้นมาทุ่มลงพื้นจึงถูกใบเหลืองเป็นใบที่สองของฝั่งเจ้าบ้านทันที
        เกมของเรือใบยังดูดีกว่ามาก และมาได้ลูกเตะมุมอีกครั้งนาทีที่ 57 ซามีร์ นาสรี่ เปิดบอลไม่ดีออกข้างไป และจากจังหวะบอลตาย ปีศาจแดงตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยส่ง เวลเบ็ค ลงมาแทน พาร์ค จี-ซอง ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกในเกมนี้ออก
        แมนฯ ซิตี้ ยังคงโหมเกมบุกอย่างต่อเนื่องและมาได้ลุ้นอีกครั้งนาทีที่ 61 จากการพาบอลไปริมเส้นทางฝั่งขวาของ ยาย่า ตูเร่ ที่กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในเขตโทษทีมเยือน เป็น เด เคอา ป้องกันโดยใช้เท้าสกัดออกมาได้

        นาทีที่ 62 กล้องถ่ายทอดสดจับไปที่ เบน อามอส ผู้รักษาประตูผีแดงที่ออกมาวิ่งอบอุ่นร่างกายดูเหมือนว่า เด เคอา อาจมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน

        นาทีที่ 65 ปีศาจแดงได้จังหวะเข้าทำบ้างจากการหลุดขึ้นไปริมเส้นฝั่งซ้ายของเรือใบโดยเป็น ฟิล โจนส์ ที่มีเวลาเปิดบอลแต่เปิดแรงไปบอลออกข้างไปอีกฝั่งของสนามทำให้เพื่อนร่วมทีมถึงกับออกอาการเซ็ง

        เรือใบสีฟ้า ปรับแผนเน้นเกมรับให้แน่นขึ้นโดยเปลี่ยนตัวผู้เล่นนาทีที่ 67 โดยส่ง ไนเจล เดอ ยอง ลงมาแทน คาร์ลอส เตเวซ

        ใบเหลืองแรกของฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด มาถึงนาทีที่ 68 จากจังหวะที่ นานี่ จับบอลยาวไปเข้าทาง แกเร็ธ แบร์รี่ ทำให้ ฟิล โจนส์ ต้องตัดสินใจตัดบอลฟาวล์ทันทีโดยเข้าเสียบที่ข้อเท้าของ แบร์รี่ กรรมการชูใบเหลืองให้ทันที

        นาทีที่ 72 เจ้าถิ่นได้สวนกลับไวอีกครั้งบอลไปอยู่ที่ ยาย่า ตูเร่ พาบอลจี้เข้าไปหน้ากรอบเขตโทษผีแดงก่อนตัดสินใจซัดไกลด้วยเท้าขวาบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

        ผ่านมาถึง 15 นาทีสุดท้าย นาทีที่ 75 แมนฯ ซิตี้ มาถูกอีกหนึ่งใบหเลือง จากการเข้าตัดบอลด้านหลัง  แดนนี่ เวลเบ็ค ของ  ไนเจล เดอ ยอง และจากจังหวะดังกล่าวทำให้บรมกุนซือของทั้งสองทีมถึงกับเผชิญหน้าต่อปากต่อคำกันเดือดจนผู้ช่วยผู้ตัดสินต้องเข้ามาห้ามเอาไว้
        เกมเริ่มเพิ่มดีกรีความเดือดขึ้นเรื่อยๆ สามนาทีต่อมาเป็นทางฝั่งปีศาจแดงที่มาถูกใบเหลืองบ้างโดย ไมเคิ่ล คาร์ริค เข้าเสียบ แกเร็ธ แบร์รี่
        10 นาทีสุดท้ายความตรึงเครียดตกไปอยู่ทางฝั่ง ปีศาจแดง ที่ต้องการอย่างน้อย 1 แต้มกลับออกไป จึงเร่งสปีดเกมรุกมากขึ้นแต่ว่าจังหวะจบยังไม่ผ่านปราการเหล็กของเรือใบ
        นาทีที่ 81 โอกาสขึ้นนำห่างของเรือใบเกิดขึ้นเมื่อ ยาย่า ตูเร่ ได้ซัดเหน่งๆ หน้ากรอบทีมเยือนแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
        นาทีที่ 82 ทั้งสองทีมตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นทั้งคู่โดย เรือใบ เน้นเกมรับส่ง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ลงมาแทน ดาบิด ซิลบา ส่วนฝั่ง ปีศาจแดง เติมเกมรุกเต็มกำลังส่ง แอชลี่ย์ ยัง ลงมาแทน หลุยส์ นานี่ ที่ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันในเกมนี้
        เวลางวดขึ้นทุกทีและเข้าสู่ 5 นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ เรือใบสีฟ้า พยายามดึงเกมช้าและมาได้ลูกฟรีคิกตรงกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายของผีแดง นาสรี่ รับหน้าที่เปิดบอลเข้าไปแต่ เด เคอา โดดชกออกไปได้
        นาทีที่ 87 เรือใบพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากการเติมขึ้นมาซัดแบบเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายของ กาแอล กลิชี่ บอลพุ่งแรงเข้ากรอบแต่เป็น เด เคอา ที่พุ่งปัดออกไปได้
        ผู้ช่วยผู้ตัดสินชูป้ายทดเจ็บถึง 5 นาที และเป็น เรือใบสีฟ้า ที่เปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกหนึ่งคนนาทีที่ 93 โดยส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน ซามีร์ นาสรี่
        ช่วงทดเจ็บที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาพ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปแบบเฉียดฉิว 0-1 สามแต้มสุดสำคัญส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มขึ้นมาเทียบที่ 83 คะแนนแต่ขึ้นไปนำจ่าฝูงเนื่องจากมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าถึง 8 ลูก ทำให้การลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ต้องไปวัดกันอีก 2 เกมที่เหลือของทั้งสองทีม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่-แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่ - ดาบิด ซิลบา-เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน",คาร์ลอส เตเวซ,
        สำรอง : พานลิติม่อน, โคลารอฟ, เชโก้, มาลิโอ บาโลเตลลี่, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, เจมส์ มิลเนอร์ , ไนเจล เดอ ยอง
        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา -ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอวร่า, พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล แคร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์,พาร์ค ชี-ซอง,นานี่, เวย์น รูนี่ย์
        สำรอง : เบน อามอส,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ , แอชลี่ย์ ยัง, แดนนี่ เวลเบ็ค, ราฟาเอล ดา ซิลวา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย
ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น