วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

โผล่แล้ว!บัวขาวประกาศแตกหักค่ายป.ประมุข #12bet




  "ดำดอทคอม" บัวขาว ป.ประมุข โผล่แถลงข่าวกลางกรุงยืนยันไม่ขอกลับไปซ้อมที่ค่าย ป.ประมุข อีกต่อไปแน่นอน แต่ขอพักร่างกายสักระยะไม่ขึ้นสังเวียนชกหรือโชว์ตัวที่ไหนแน่นอน แม้กระทั่งรายการ ไทยไฟต์ ครั้งที่ 2 ที่พัทยากลางเดือนหน้า คงต้องงด เผยเหตุแหกค่ายเพราะทนต่อแรงกดดันไม่ไหว ต่อไปนี้ขอดูแลตัวเองไม่ขึ้นกับใครอีก หากไม่สามารถยุติปัญหาได้ พร้อมแขวนนวมทันที






        จากกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของยอดมวยไทยชื่อดัง "ดำดอทคอม" บัวขาว ป.ประมุข นักชกเจ้าของตำแหน่งแชมป์ เค-วัน สองสมัย และยังเป็นนักกีฬาเจ้าของรางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย คนล่าสุด ที่ได้สร้างความสับสนและตื่นตะลึงให้กับวงการ 



        พร้อมทั้งมีคำถามตามมาอย่างมากมายถึงสาเหตุในการตัดสินใจแหกค่ายไปพร้อมกับ สายชล ป.ประมุข เทรนเนอร์คู่ใจ โดยทิ้งเงินก้อนโตจากรายได้ในการโชว์ตัว และขึ้นชกในรายการต่างๆ ทั่วโลกไปอย่างไม่สนใจใยดีว่าเป็นเพราะเหตุใดแน่นั้น



        ล่าสุด ที่มนตรี สตูดิโอ ภายในซอยลาดพร้าว 101 เมื่อเวลา 16.30 น. วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา บัวขาวพร้อมด้วย สายชล ป.ประมุข เทรนเนอร์คู่ใจได้ออกมาเปิดใจพร้อมให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอเป็นจำนวนมาก 



        โดยนักชกหนุ่มชื่อก้องโลกได้ออกมาพร้อมกับยกมือไหว้สื่อมวลชนทั้งหมดก่อนจะเริ่มเปิดใจด้วยการขอโทษทุกฝ่ายทั้งสื่อมวลชนและแฟนมวยที่ทำให้เป็นห่วง ที่ตนได้หนีออกจากค่ายมวย ป.ประมุข ไปนานกว่า 10 วัน โดยไม่บอกว่า พร้อมทั้งยืนยันว่ารถบีเอ็มดับเบิลยูที่ขับไปนั้นเป็นรถของตนเอง ซึ่งเป็นรถมือสองไม่ใช่รถใหม่ป้ายแดงอย่างที่ตกเป็นข่าว 



        และยืนยันว่าการหลบหนีออกจากค่ายในครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาว่ามีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องหรือเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่อย่างไร หากแต่เพราะตนเองต้องการหลบไปพักผ่อนร่างกายให้ฟื้นจากอาการบาดเจ็บและพักผ่อนจิตใจสักระยะ



        ทั้งนี้ "ดำดอทคอม" ยังขยายความถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับครั้งนี้ว่า ที่จริงแล้วตนเริ่มมีความรู้สึกอึดอัดใจมาตั้งแต่ปี 2009 (พ.ศ. 2552) ไม่ใช่เรื่องแค่วันสองวัน เนื่องจากมีคิวชกและโชว์ตัวอย่างต่อเนื่องจนแทบไม่มีเวลาพักรักษาตัว เป็นการบาดเจ็บที่สะสมมาตลอด 



        ยิ่งล่าสุดไม่มีแพทย์ด้านกายภาพมาบำบัดดูแล ยิ่งทำให้ร่างกายทรุดโทรมมากขึ้นจึงอยากพักสักระยะ และอีกประเด็นคือเรื่องความอึดอัดทางจิตใจที่เจอแต่แรงกดดันมาตลอดนับตั้งแต่ที่ "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ ได้โอนหน้าที่มาให้ "อุ" ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ ผู้เป็นลูกชายมาเป็นผู้จัดการและดูแลคิวการชกรวมทั้งผลประโยชน์ของตนทั้งหมด ยิ่งทำให้ตนรู้สึกกดดันมากขึ้น



        "หลังจากที่อุเข้ามาเป็นผู้ดูแลและเป็นผู้จัดการส่วนตัว ผมยิ่งอึดอัดมากขึ้น บางครั้งต้องถูกดุด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรงทำนองว่า มึงสร้างปัญหาตลอด หรือ กูปวดหัวกับมึงมาเยอะแล้วอะไรทำนองนี้ ทั้งๆ ที่ผมเองฟิตซ้อมร่างกายไม่เคยขาด ผมกล้ายืนยันว่าตัวเองซื่อสัตย์และขยันซ้อมมาตลอด 



        แต่เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้มากเข้า ทำให้ผมอึดอัดใจ และยืนยันว่านับจากนี้ไปจะขอดูแลตัวเองไม่คิดจะกลับไปที่ค่าย ป.ประมุข อีก หากตรงนี้ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ผมพร้อมจะแขวนนวมเลิกชกมวยแล้วไปทำมาหากินอาชีพอื่นเช่นกัน" นักชกชื่อกระฉ่อน อธิบายยาวเหยียด



        นอกจากนั้น บัวขาว กล่าวต่อไปถึงการที่กำนันแก๊ได้ออกมาเรียกร้องให้ตนได้ออกมาพบปะเพื่อเจรจาจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ว่า ตนเองยังไม่พร้อมที่จะเจอ เพราะต้องการที่จะปรับตัวปรับใจสักระยะหนึ่งก่อน และขอร้องไปยังกำนันแก๊ว่าไม่ต้องมาตามหาตัวเอง เพราะถ้าตนพร้อมเมื่อไหร่จะเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปเอง 



        อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณค่าย ป.ประมุข ที่ได้เลี้ยงดูอุ้มชูตนเองมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ตนรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ เรื่องนี้เป็นสาเหตุใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเงินเรื่องทองอย่างที่หลายคนคิด เพราะที่ผ่านมานั้นตนได้รับส่วนแบ่งในอัตรา 50-50 ทุกครั้ง แม้จะมีบางส่วนที่ยังไม่ครบแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นใหญ่



        ด้านสัญญาการชกและโชว์ตัวในรายการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศที่ได้ทางค่าย ป.ประมุข ได้ทำไว้กับที่ต่างๆ นั้น บัวขาว เผยว่า ไม่น่าจะมีปัญหาตนเหตุที่ตนประกาศหยุดชกระยะหนึ่งในตอนนี้ เพราะอาการบาดเจ็บ ดังนั้นจึงเป็นสัญญาที่น่าจะยกเลิกได้ และตนคงจะพักสักระยะไม่ชกในรายการใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งรายการไทยไฟต์ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 17 เมษายน ที่พัทยา นั้นคงจะขอพักไว้ก่อน เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่า



        ขณะที่ สายชล ป.ประมุข นักชกรุ่นน้องที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเทรนเนอร์ผู้ล่อเป้าและหนีออกจากค่ายไปพร้อมกับบัวขาว เผยว่า ตลอดเวลาช่วงที่อยู่ในค่าย บัวขาวมีความอึดอัดมากไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้แน่ "สิ่งที่ทางค่ายพูด คำพูดเหล่านั้นมันทำร้ายจิตใจบัวขาวมาก" สายชล ยืนยัน



        ในช่วงท้ายสุดนั้น บัวขาวได้ขอโทษไปยังค่ายมวย ป.ประมุข ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ตนอยากดูแลตัวเอง และขอเวลาสักพักก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องอนาคตต่อไป จากนั้นบัวขาวยุติการให้สัมภาษณ์พร้อมกับออกเดินทางกลับไปพร้อมกับ สายชล โดยไม่ยอมเปิดเผยถึงจุดหมายปลายทางแต่อย่างไร 



        แต่ในระหว่างที่การแถลงข่าวดำเนินไปอยู่นั้น ได้มีชายชุดดำจำนวนหนึ่งขับรถโฟร์วีลมาวนไปมาอยู่ด้านหน้าสตูดิโอ และยังมีบุคคลจากกลุ่มดังกล่าวเดินเข้ามาในห้องแถลงข่าวเพื่อรับฟังการให้สัมภาษณ์ของบัวขาวอีกด้วย แต่ไม่มีใครทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดกันแน่ แต่ทั้งหมดได้ออกจากห้องไปก่อนที่การแถลงข่าวจะเสร็จสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น