วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

ศึกลอนดอนฟัดกันไม่ลง!ปืนเจ๊าจืดสิงห์0-0 12bet






ศึกลอนดอนดาร์บี้ "เดอะกันเนอร์ส" อาร์เซน่อล เปิดรังเจาะตาข่าย "สิงห์บลูส์" เชลซี ไม่เข้า เสมอกันแบบสนุก 0-0 แบ่งไแทีมละแต้ม โดย เชลซี ยังอยู่อันดับ6 ขณะที่ อาร์เซน่อล ยังรั้งอันดับ3ตามเดิม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา






ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2555
อาร์เซน่อล   0      -      0  เชลซี 




สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม




        ศึกลอนดอนดาร์บี้ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยเจ้าถิ่นส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือน พักตัวหลักชุดที่เล่นถ้วยยุโรป เป็นตัวสำรองหลายตำแหน่ง







        เริ่มเกมมามาเพียง13นาที อาร์เซน่อล มีลุ้นเบิกประตูได้ก่อน เมื่อได้ฟรีคิก ตรงกรอบเขตโทษ ธีโอ วัลค็อตต์ ใช้บอลสูตร เปิดชิพไปที่เสาสอง ให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  วิ่งมาสอดยิงด้วยเท้าซ้ายคนเดียวโล่งๆ แต่อาร์วีพี ยิงไปชนเสาเต็มๆ




        4นาทีต่อมา เชลซี มีโอกาสได้จบบ้าง แต่ลูกยิงระยะ20หลาของ โชเซ่ โบซิงวา เบาและตรงตัว วอยเช็ก เชสนี่ รับเข้าซองแบบไม่ยาก




        นาทีที่24 เชลซี ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้ลูกเตะมุม ทางฝั่งซ้าย แกรี่ เคฮิลล์ โหม่งเช็ด มาทางเสาสอง ให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส มีโอกาสวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลติดแนวรับ อาร์เซน่อล มาเข้าทางปืนของ  แกรี่ เคฮิลล์ ได้ยิงอีกครั้ง แต่บอลโด่งข้ามคานไป




        3นาทีต่อมา ฟลอร็องต์ มาลูด้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายอีกครั้ง จอห์น เทอร์รี่ กระโดดขึ้นโขกระยะ12หลา แต่บอลหลุดกรอบออกข้างไป




        นาทีที่30 มีใบเหลือง ใบแรกจนได้ เมื่อ โทมัส โรซิชกี้ ไปเตะฟาวส์ ไมเคิ่ล เอสเซียง ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ควักแจกเตือนทันที




        นาทีที่40 อาร์เซน่อล ใกล้เคียงกับการได้ประตูเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ฟรีคิกนอกกรอบระยะ30หลา โดยโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนอาร์วีพี จะหยอดมาหน้าประตูให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า โหม่งคนเดียวระยะ6หลาโล่ง แต่บอลชนคานเต็มๆ เซฟประตูช่วยเชลซี แบบเส้นยาแดงผ่าแปด




        ก่อน3นาทีต่อมา อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีก จากการวางบอลมาเสาสองของ อเล็กซ์ ซง ให้ อาร์วีพี พักบอลลงด้วยอก ก่อนวอลเล่ย์เต็มข้อด้วยเทาซ้าย แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟได้ดี




        ช่วงเวลาที่เหลือ เบิกประตูกันไม่ได้ อาร์เซน่อล จึงเปิดบ้านเสมอกันไปก่อนกับ เชลซี แบบสุดมัน 0-0




        เริ่มครึ่งหลังมา3นาที ใบเหลืองเริ่มสะพัดอย่าง รวดเร็ว โดย เชลซี โดนก่อน จากจังหวะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ไปฟาวส์ใส่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนที่นาทีต่อมา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้รับบ้างหลังไปเตะ ไมเคิ่ล เอสเซียง




        ถัดมานาทีที่54 ใบเหลืองงอกเงยอีกใบ เมื่อ แกรี่ เคฮิลล์ ไปสไลด์เปิดปุ่มใส่ อเล็กซ์ อ็อกเลด-เชมเบอร์เลน ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะควักแจก




        เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง อาร์เซน่อล ทำการเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ ธีโอ วัลค็อตต์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง แชร์วินโญ่ ลงมาเล่นแทน




        3นาทีต่อมา อาร์เซน่อล มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกระยะหวังผล แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิงข้ามคานออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น




        นาทีที่65 ทั้งสองทีมทำการเปลี่ยนตัว โดย อาร์เซน่อล ส่ง อาบู ดิอาบี้ ลงมาแทน โทมัส โรซิชกี้ ขณะที่ เชลซี เปลี่ยน มิเกล ลงมาแทน โรเมอู




        4นาทีต่อมา อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวออีกครั้ง ด้วยการส่ง อังเดร ซานโตส ลงมาแทน อเล็กซ์ อ็อกเลด-เชมเบอร์เลน




        นาทีที่71 อาร์เซน่อล มีโอกาสลุ้นและครองบอลมากขึ้น ก่อนมีโอกาสได้สับไกยิง โดย อาบู ดิอาบี้ แต่ไม่ผ่าน ไมเคิ่ล เอสเซียง สไลด์ขวางไว้ได้




        นาทีต่อมา เชลซี โดนใบเหลืองไปอีก เมื่อ โชเซ่ โบซิงวา ไปเล่นหนักใส่ อังเดร ซานโตส




        นาทีที่74 เชลซี ทำการเปลี่ยนตัวถึงสองคน โดยเปลี่ยน ฆวน มาต้า ลงมาแทน ซาโลมง กาลู และเปลี่ยน แอชลี่ย์ โคล ลงมาแทน ไรอัน เบิร์ตทรานด์




        นาทีที่76 อาร์เซน่อล รับใบเหลืองบ้าง อาบู ดิอาบี้ ไปฟาวส์ใส่ ไมเคิ่ล เอสเซียง ขณะที่ก่อนหมดเวลา10นาที เชลซี รับใบเหลืองไปอีกคน เมื่อ แอชลี่ย์ โคล ไปฟาวส์ใส่ อเล็กซ์ ซง 




        นาทีต่อมา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  มีโอกาสหลุดเข้าไปสับไกยิงด้วยเท้าขวา แต่บังคับให้บอลให้เข้ากรอบไม่ได้ บอลจึงหลุดเข้าหน้าต่างแทน




        นาทีที่85 อาร์เซน่อล มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง จากการล็อคบอลล่อหลอกแนวรับเชลซี ของ ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนมีโอกาสสับไกยิงด้วยซ้าย แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟไว้ได้




        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมผลิตประตูกันไม่ได้ จบเกมจึงเสมอกันไปแบบโนสกอร์ 0-0 แบ่งไปทีมละแต้ม อาร์เซน่อล ยังอยู่อันกับสามตามเดิม ขณะที่ เชลซี อยู่ที่หกเหมือนเก่า 






11นักเตะของทั้งสองทีม


อาร์เซน่อล : วอยเช็ก เชสนี่ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส - อารอน แรมซี่ย์, อเล็กซ์ ซง, โทมัส โรซิชกี้ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ อ็อกเลด-เชมเบอร์เลน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 


สำรอง:ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้,วาสซิริกี้ ดิอาบี้,อังเดร ซานโตส,โยฮัน ฌูรู,แชร์วินโญ่,มารูยาน ชามัคห์,ฟรองซิส โกเกแลง


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบิร์ตทรานด์- ออริออล โรเมอู,ไมเคิ่ล เอสเซียง, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ซาโลมง กาลู, เฟร์นานโด ตอร์เรส 


สำรอง:รอสส์ เทิร์นบูล,แอชลี่ย์ โคล,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,ฆวน มาต้า,มิเกล,ราอูล เมอเรเลส,เปาโล แฟร์ไรร่า


ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน




สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก  อังกฤษ
- อาร์เซน่อล เสมอ เชลซี  0 - 0
- แอสตัน วิลล่า เสมอ ซันเดอร์แลนด์  0 - 0
- แบล็คเบิร์น  ชนะ นอริช ซิตี้  2 - 0
- โบลตัน เสมอ สวอนซี ซิตี้  1 - 1
- ฟูแล่ม ชนะ วีแกน  2 - 1 
- นิวคาสเซิ่ล  ชนะ สโต๊ค ซิตี้   3 - 0
- ควีนส์ปาร์ค ชนะ สเปอร์ส  1 - 0



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น