
เหลือ
เพียงแค่ ตรวจมาตรฐานของสนามใหม่ที่จะใช้งานให้ผ่านเกณฑ์ของ ทีพีแอล ก็เป็นอันเรียบร้อยจบข่าวทำไมมันถึงได้ง่ายดายขนาดนั้น ในขณะที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ มีสาเหตุ เพียงแต่ว่าผู้บริหารไม่ต้องการแชร์สนามร่วมกับทีมน้องใหม่ อย่าง ศรีสะเกษ ยูไนเต็ดที่จะลงเล่นในดิวิชั่น 2 ลีกภูมิภาคในฤดูกาลหน้า

เป็นที่น่าสังเกตถึงเหตุแห่งความทับซ้อนของทีมในจังหวัด ว่าในเมื่อมีทีมอยู่ในลีกสูงสุดแล้วแถมเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง อย่างที่ผมมองก็ในแง่ของแฟนบอลที่หอบลูกจูงหลานเดินเข้าชมเกมส์ที่สนามอย่างหนาตา น่าเสียดายที่ผมอาจจะไม้ได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศกองเชียร์ที่เมืองทั้งเมืองอยู่ย้อมเป็นสีส้มที่ต่อไปนี้คงไม่มีอีกแล้ว

แต่ชาวศรีสะเกษคงเจ็บปวดใจกว่าหลายร้อยเท่า เพราะ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เกิดจาก เลือกเนื้อเชื้อไข ของชาวศรีสะเกษเอง ไม่ใช่การหลอมรวม กันอย่าง อยุธยากับการไฟฟ้า ระยะห่างเพียง 125 กิโลเมตรจากอุบลราชธานี และศรีสะเกษ ถือว่าไม่ห่างกันมาก แต่ในความรู้สึกของแฟนบอล คงห่างไกลหลายล้านปีแสง แถมการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “อีสาน ยูไนเต็ด” คงทำให้ฐานแฟนบอลเดิมเข้าใจว่ามันจบกันไปแล้วจริงๆ
นี่ยังไม่ได้สำรวจไปยังบ้านหลังใหม่อย่างชาวอุบลราชธานี ว่าจะต้อนรับขับสู้ทีมใหม่ ทีมนี้ยังไง ในเมื่อชาวอุบลก็มีอุบลไทเกอร์ เอฟซี เป็นที่ตั้งอยู่แล้ว วันเสาร์นี้จะมีแฟนบอลอีก 1 ทีมในไทยลีกจะต้องเสียใจที่จะต้องหล่นชั้นไปยังดิวิชั่น 1 ตามศรีราชา และขอนแก่นแต่แฟนบอลเหล่านั้นยังโชคดีที่จะมีทีมให้เชียร์ต่ออย่างแย่ก็แค่ดิวิชั่น 1
แฟนบอลสงขลาที่ยังค้างคาเรื่องสิทธิ์ในการเล่นบนลีกสูงสุด ถ้าสมมุติว่าที่สุดแล้ว สงขลายังคงต้องปักหลักในดิวิชั่น 1 ต่อไปอย่างน้อยแฟนบอล “วัวชนแดนใต้” ก็ยังมีทีมรักลงเล่นให้ดูในบ้านตัวเอง แต่กับแฟนบอล ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ต้องบอกว่ามันน่าช้ำใจเป็นอย่างมาก อย่างที่แฟนบอล“กูปรีอันตราย” คนหนึ่งได้กล่าวผ่านเฟชบุคสโมสรว่า “กูปรี(สัตว์ป่า)ได้สูญพันธุ์ ไปนานแล้ว…และกูปรี(ทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง) กำลังจะสูญพันธุ์ และสิ้นกองเชียร์ที่ตามเชียร์มาตลอด” เรื่องนี้ดูท่าจะมีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศ คงต้องตามกันอีกยาวๆ ขอให้ติดตามกันต่อไป ดราม่าบอลไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น