วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

มนัสสิ้นลายฮีโร่แพ้นักชกมาเลย์ร่วงซีเกมส์








    สิ้นลายฮีโร่โอลิมปิก มนัส บุญจำนงค์ ชกไม่ได้อย่างใจคิด ต้องลุ้นถึงยกสุดท้าย ก่อนโชคร้ายถูกกรรมการสั่งตัดแต้ม เพราะกอดคู่ชกหลายครั้ง พลิกพ่ายมวยมาเลย์ไปอย่างหวุดหวิด 9-10 แต้ม ตกรอบกำปั้นซีเกมส์เป็นคนแรก ได้แค่เหรียญทองแดง ปลอบใจ ส่วน อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ไล่ทุบเวียดนามกระจุย ทะลุเข้าชิงเหรียญทองกับพม่า ฉัตรชัย บุตรดี ฟอร์มแจ่มสอยมาเลเซียสบายมือ เข้าไปตัดเชือกกับพม่าเหมือนกัน






        การแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา



        นิพนธ์ ขาวอุบล และ บรรพต ศรศาสตร์ รายงานผลการแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่น กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2554 มีนักมวยไทยขึ้นชกทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรดี, อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ และ มนัส บุญจำนงค์


     
ฉัตรชัยสอนเชิงมาเลย์ฉลุยตัด

        นักชกไทยคนแรกที่ขึ้นเวที "เจ้าสด" ฉัตรชัย บุตรดี ชาวสระแก้ว เจอกับ คามิส ซูบรี นักชกมาเลเซีย รอบแรก รุ่น 52 กก. เชิงชกฉัตรชัยเหนือกว่าครบวงจร และเอาชนะไปอย่างสบาย ยกแรก เจ้าสดเดินจ้วงหมัด 1-2 ต่อยหน้าก็โดน ต่อยลำตัวก็ไม่พลาด มวยมาเลย์ยิ่งบวกแลกก็ยิ่งเจ็บ ไทยนำห่างถึง 9-1 ยกสอง ฉัตรชัยชิงต่อยเร็ว หมัดหน้าทำงานเหมือนจับวาง ฮุคขวากับซ้ายตรงสุดสวย กรรมการกดแต้มแทบไม่ทัน หมดยกนี้ ไทยนำ 20-4

        ยกสุดท้าย ฉัตรชัยชกแบบสบายๆ ถอยสลับเดิน ไม่เปิดเกมแลกด้วย เต้นฟุตเวิร์กหลอกล่อต่อยไปรอบเวที ครบยก "ฉัตรชัย" ชนะ 28-5 แต้ม เข้าไปตัดเชือกกับนักชกพม่า ที่ชนะสิงคโปร์ 16-12 แต้ม ส่วนอีกสาย ตัวเต็งฟิลิปปินส์ ดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด ชนะลาว 14-6 ตัดกับเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ที่ชนะเวียดนามขาดลอยตามคาด
     
สดทางสะดวกตัดพม่าถึงชิง

        ภายหลังลงจากเวที "เจ้าสด-ฉัตรชัย" เผย การชกรอบแรกถือว่าได้อุ่นเครื่อง ซึ่งก็มั่นใจว่าจะชนะได้ไม่ยาก ส่วนรอบต่อไปเจอกับพม่า แม้เหนือกว่าแต่คงประมาทไม่ได้ "ก็พอใจครับ ต่อยได้ตามแผนที่คิดไว้ แต่ถ้าถามว่าดีที่สุดหรือเปล่า ผมว่ายังไม่ดีมากนัก จังหวะการออกหมัดยังอืดไปนิด แต่ไม่ได้เจ็บตัวอะไรเลย ส่วนรอบหน้าเจอพม่า ผมดูเขาชกแล้วมีแต่หมัด 1-2 และต่อยกว้าง คิดว่าน่าจะเอาชนะได้ครับ เป้าหมายของผมตอนนี้มองไปถึงรอบชิงเหรียญทองแล้ว"
     
อภิเชษฐ์ไล่ทุบญวนอ่วมอรทัย




        "เจ้าเอ" อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ขึ้นชกเป็นคนที่สอง พบกับนักชกเวียดนาม เดรียน ดินห์ ฮง ในรอบตัดเชือก รุ่นเวลเตอร์เวต (69 กก.) เกมการชกนักมวยไทยเหนือกว่ามาก ทั้งความเร็วและลูกหนัก ยกแรก อภิเชษฐ์เดินแยกเขี้ยวขู่ ฮุกซ้ายเต็มเหนี่ยวกะเอาถึงน็อก ได้นับ 8 ด้วย "เจ้าเอ" ขึ้นนำก่อน 5-3

        ยกสอง อภิเชษฐ์เดินไล่ทุบอย่างสนุก แทบจะข้างเดียว นักชกญวนต้องถอยไม่เป็นขบวน แม้จะบวกหมัดแลกก็ติดการ์ดหมด ไทยนำห่างไป 12-5 แล้ว ยกสุดท้าย อภิเชษฐ์เพลาเครื่อง แต่ก็ยังยิงหมัดชุดตัดลำตัว ฮุกซ้ายเข้าหน้าได้จังๆ อีกหลายที ครบยก ไม่มีปัญหา "อภิเชษฐ์" ชนะขาดลอย 16-5 แต้ม เข้าไปชิงเหรียญทองกับพม่า ที่ชนะติมอร์ เลสเต 25-14 แต้ม
     
มนัสตื่นเต้นอย่างกับมวยใหม่

        "ซูเปอร์ฮีโร่" มนัส บุญจำนงค์ เจ้าของเหรียญทองและเหรียญเงินโอลิมปิก สองสมัยซ้อน เผยกับ "มวยสยาม-สยามกีฬา" ก่อนขึ้นเวทีเป็นครั้งแรกในรอบสามปีกว่า หลังจากชกครั้งสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ ปี 2008 "ตื่นเต้นเหมือนกันนะ เหมือนกับเป็นมวยใหม่เลย ก็โอ้โห! ผมไม่ได้ชกเวทีระดับชาติมาสามปีครึ่งแล้วนี่ แต่ยังเชื่อครับว่าจะเอาตัวรอดได้ ถ้าผ่านรอบนี้ได้ เราได้อุ่นเครื่องแล้ว รอบชิงฯ ผมยิ่งมั่นใจขึ้นอีกมากแน่"

        โดยก่อนที่จะนวดตัว พันมือนั้น "เจ้าเติ้ล" นั่งซดกาแฟร้อนไป 1 ถ้วย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าจะกินเป็นประจำก่อนชกทุกครั้งอยู่แล้ว
     
ถูกตัดแต้มยกสุดท้ายมนัสพ่าย!

        จากนั้น "เจ้าเติ้ล" มนัส บุญจำนงค์ เป็นนักชกไทยคนสุดท้ายขึ้นชกเจอกับแชมป์เก่าจากมาเลเซีย เอ็ม ฮารอน ฟาร์ดาน ในรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.) ชื่อชั้นฝีมือมนัสเหนือกว่าแน่ แต่เรื้อเวทีไปนาน สภาพร่างกายเป็นรอง ยกแรก มาเลย์เปิดเกมลุยทันที เพราะรู้ว่าตัวเองสดกว่า มนัสหลอกล่อเล่นฝีมือ ดักต่อยหมัดกว้าง แต่ก็เจอมาเลย์ทิ่มหน้าหงายเหมือนกัน จบยกแรก มนัสตาม 3-4

        ยกสอง หลังให้น้ำ มนัสออกจากมุมอย่างมั่นใจ ส่งยิ้มให้คู่ชก ต้นยกเดินขู่ โยกหลอกล่อแล้วฮุกซ้าย ต่อยขวาลำตัว ทำได้ดีขึ้น แต่ก็พลิกแซงไม่ได้ คะแนนเสมอกัน 7-7 ยกสาม เกมสุดระทึก มาเลย์ออกมาเดินไล่ต่อย มนัสเล่นเชิง วนออกข้าง หลอกล่อไปมาแล้วลักต่อย พอเข้าในก็ไล่แขน กอดไม่ให้มาเลย์ทำอะไรถนัด แต่ก็ถูกกรรมการเตือนเช่นกัน

        เกมผ่านไปจนเหลือ 30 วินาทีสุดท้าย มนัสดูต่อยได้สวยงามกว่า น่าจะคะแนนนำ แต่ปรากฏว่ามนัสไปกอด กลับเจอกรรมการสั่งตัดคะแนน กองเชียร์มาเลย์เฮกันลั่นเหมือนรู้ว่าแต้มพลิกแล้ว มนัสจะไล่ต่อยเอาคืน แต่ก็หมดยกซะก่อน รวมคะแนนแล้วปรากฏว่า กรรมการตัดสินให้มาเลเซียชนะไปด้วยคะแนน 10-9 แต้ม ผ่านเข้าไปชิงกับอินโดนีเซีย และมนัสตกรอบเป็นคนแรกของทีมกำปั้นไทยซีเกมส์ได้เพียงแค่เหรียญทองแดง
     
ไม่ยอมรับพ่ายถึงโดนตัดแต้ม








ขออนุญาติฝากประชาสัมพันธ์นะค่ะ 
♥ วันนี้ ทุกๆ Like ของท่านบน แฟนเพจ 12BET จะช่วยซับน้ำตาพี่น้องชาวไทยผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่าน โดยมอบผ่านองค์การสภากาชาดไทย .. 

ร่วมเป็นหนึ่งแรงใจฟื้นฟูความเสียหายอุทกภัยครั้งใหญ่ จากใจ 12BET ♥
ยอดสมทบทุนทั้งหมด มอบให้สภากาชาติไทยและครอบครัวข่าวช่อง 3 ค่ะ 
ร่วมเป็น 52,000 Like แรกกับเรากันนะค่ะ !!! 

https://www.facebook.com/12BET.Thai







        ลงจากเวทีมา มนัส บุญจำนงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว สำหรับนักมวยคนหนึ่งที่หยุดไปถึงสามปีครึ่ง และลดน้ำหนักถึง 14 กิโลกรัม กลับมาชกได้เท่านี้ ยืนได้สามยก ก็ถือว่าพอใจตัวเองแล้ว "ผมหยุดไปสามปีครึ่ง กลับมาต่อยได้แค่นี้ผมก็โอเคนะ พอใจครับ และผมมองดูว่าผมไม่แพ้ด้วย เราโดนตัดคะแนนด้วย จริงๆ ถึงผมจะถูกตัดคะแนนแต่ผมก็ยังดูว่าไม่แพ้นะ ก็โอเคเมื่อการตัดสินเป็นอย่างนี้ก็ต้องยอมรับ

        หลังจากนี้ก็ต้องขอปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะเอายังไง ดูสภาพตัวเองก่อน ลองดูอีกว่าน่าจะไหวมั้ย แต่ถ้าถามผมว่าพอใจไหม ผมพอใจนะชกได้แค่นี้ ภูมิใจนะ เราหยุดไปตั้งหลายปี ก็ยอมรับว่าท้อเหมือนกัน เราตั้งใจกลับมาเต็มที่ครับ"
     
เติ้ลลั่นยังสู้ต่อขอคัดไปโอลิมปิก

        ส่วนคำถามที่ว่าจะสู้ต่อเพื่อชิงตั๋วไปโอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ หรือเปล่านั้น มนัสยืนยันเสียงหนักแน่นว่า "ผมยังขอสู้ต่อครับ เพื่อชิงตั๋วไปชกโอลิมปิกที่อังกฤษในปีหน้าให้ได้ ยืนยันว่าจะไปคัดตัวที่คาซัคสถานอย่างแน่นอน และขอชกน้ำหนัก 75 กก. นี้ละครับ ลดต่ำกว่านี้ไม่ไหวแล้ว ยังมีเวลาอีกหลายเดือนผมเชื่อว่าตัวเองต้องดีขึ้นกว่าแน่

        แต่ศึกปรีโอลิมปิกที่ลอนดอนหลังจากจบซีเกมส์ ที่เป็นเกมอุ่นเครื่อง ผมบอกตรงนี้เลยนะว่าอาจไม่ไปครับ ยอมรับว่าท้อ และเวลากระชั้นชิดด้วย"
     
ศักดาบอกต้องต่อยให้ขาดทุกคน

        พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา หัวหน้าทีมมวยไทย กล่าวว่า "วันนี้ผมดูมนัสต่อย ยกหนึ่งเขาให้คะแนนมาเลเซียมากไปหน่อย ยกสองงานหนักขึ้นแต่เราตีเสมอได้ ยกสามจริงๆ เราทำได้ แต่เขาไม่กดแต้มให้ ผมบอกได้เลยว่าก่อนถูกตัดเรานำอยู่หนึ่งแต้ม ผมนั่งดูอยู่ พอตัดปุ๊บเราก็เลยตามหนึ่งแต้มทันที แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้เขาซ้อมต่อ

        ส่วนที่เหลือถึงตอนนี้ต้องบอกเลยว่าทุกคนต้องต่อยให้ขาดตั้งแต่ยกแรกเลย ผมยอมรับเลยว่าตอนนี้เราหนักใจเจ้าภาพมาก รุ่นไหนมีเจ้าภาพต้องลุ้นกันเหนื่อย แม้ไม่ได้ชกกับเขาก็ตาม ดูขนาดมนัสยังเป็นอย่างนี้เลย ดังนั้นต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ต้องต่อยให้ละเอียดที่สุด โดยเฉพาะแก้วกับทัศมาลี ยอมรับว่างานหนักแน่"
     
วันนี้!(18พ.ย.)ตัด4รุ่นชาย2หญิง2

        การแข่งขันวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. นี้ เริ่มลุยเวลา 16.00 น. ทีมกำปั้นไทยจะขึ้นชกทั้งหมด 4 คน แบ่งเป็นชายสองรุ่น แก้ว พงษ์ประยูร ตัดเชือกกับ อินโดนีเซีย ในรุ่น 49 กก. วรพจน์ เพชรขุ้ม ตัดเชือกกับพม่า ในรุ่น 56 กก. และหญิงอีกสองรุ่น โสภิดา สะทุมรัมย์ ตัดเชือกกับเวียดนามในรุ่น 52 กก. กับ ทัศมาลี ทองจันทร์ ตัดเชือกกับอินโดนีเซีย รุ่น 57 กก.

        โดยเมื่อดูจากคู่ชกศึกหนักกระอักแน่คงต้องชี้ไปที่แก้วกับทัศมาลี เพราะเจอกับเจ้าภาพที่ได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์และกรรมการ ทั้งสี่คนนี้ถ้าใครชนะก็ได้เข้าไปชิงเหรียญทองทันที โดยมวยสมัครเล่นหญิงจะชิงวันที่ 19 พ.ย. มวยชายชิงวันที่ 21 พ.ย.
     
จ่าแก้วลั่นแต้มตามทุบให้ตาย

        ก่อนขึ้นสังเวียนชกตัดเชือกกับเจ้าภาพ ซึ่งถือว่าเป็นรอบที่หนักที่สุด ถ้าชนะได้ก็แทบกำเหรียญทองอยู่ในมือ แก้ว พงษ์ประยูร เปิดใจให้ฟังว่า "ยอมรับครับว่าต้องลุ้นเหนื่อยแน่ เรื่องฝีมือของนักมวยผมไม่กลัวเขาหรอก แต่เรื่องกรรมการนี่สิที่ผมหนักใจที่สุด สังเกตุมาหลายคู่แล้ว ผมว่าเขากดแต้มแปลกๆ แผนการชกผมก็ตั้งใจไว้ว่าจะเดินบุกเหมือนเดิมครับ

        และถ้าดูคะแนนยกแรกเขานำด้วย ผมคงต้องเดินขยี้ต่อยให้ตายไปเลย เอาไงเอากันครับมีเท่าไหร่ใส่หมด ผ่านไฟต์นี้ได้ก็ทองแน่ สภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะครับ
     
แผนน้องเอ็มไม่มั่วกับเจ้าภาพ

        "น้องเอ็ม" ทัศมาลี ทองจันทร์ นักชกหญิงอีกคนของไทย จะขึ้นสังเวียน วันที่ 18 พ.ย. นี้ และต้องเจอศึกหนักทีเดียวในรอบตัดเชือก รุ่น 57 กก. เพราะจะวัดกับสาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคนแรกของทีมกำปั้นไทยที่ได้ชกกับเจ้าถิ่น โดยน้องเอ็มบอกว่า

        "หนูไม่เคยเห็นเขาต่อยนะ แต่เรื่องฝีมือหนูไม่กลัวหรอก กลัวอย่างเดียวก็เรื่องกรรมการ จากสามวันที่ผ่านมาก็เห็นกันแล้ว ชาติไหนเจอกับเจ้าภาพ รู้สึกว่าแต้มจะขึ้นง่ายเหลือเกิน เราคงไม่ไปชกมั่วกับเขา ต้องใช้ฝีมือวงนอกหลอกต่อย ต้องชกให้เนียนที่สุดเลยค่ะ ถ้าไปมั่วกับเขาเชื่อว่าแต้มเขาไหลแน่"
     
วรพจน์ไม่ซีเรียสไปเรื่อยๆแต่แน่นอน

        ทางด้าน วรพจน์ เพชรขุ้ม ที่จะตัดเชือกกับนักมวยพม่าวันนี้เช่นกัน กล่าวว่า ตอนนี้อาการป่วยของตนดีขึ้นพอสมควร ยังโชคดีที่ได้เจอกับพม่าก่อน แล้วค่อยไปเจอศึกหนักในนัดชิง ซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าภาพแน่ ก็ไม่ซีเรียสจะพยายามทำให้ดีที่สุด ตนสไตล์อย่างนี้อยู่แล้ว ไปเรื่อยๆ สโลว์ บัต ชัวร์ แต่มั่นใจ น่าจะไปถึงเหรียญทอง ส่วนรอบชิงฯ อย่าเพิ่งไปนึกถึง เอาให้ผ่านพม่าให้ได้ก่อนแล้วค่อยตอบกันอีกที

        ส่วน โสภิดา สะทุมรัมย์ ที่ตัดเชือกกับเวียดนาม "น้องมุก" บอกว่าเคยลงนวมกันมาแล้ว มั่นใจสู้ได้ และตนน่าจะชกดีขึ้นกว่านัดแรกที่ยอมรับว่ากดดันมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น